xs
xsm
sm
md
lg

“ยันฮี” จับมือ “ซีพี” บุกตลาดค้าปลีก ลงทุนนับพันล้านผลิตสินค้าความงาม (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา (ซ้าย) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮี และนายอำพา ยงพิศาลภพ (ขวา) รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามความร่วมมือเป็นพันธมิตรในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความงามผ่านร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นและหนังสือเซเว่นแคตตาล็อก
ผุด 2 บริษัทในเครือ รพ.ยันฮี ผลิตครีมผิวขาว-แต้มสิวจำหน่ายผ่านเซเว่นอีเลฟเว่น-เซเว่นแค็ตตาล็อก เผยตลาดต้องการสูงด้วยยอดขาย 40 ล้านบาทในช่วง 6 เดือน เร่งเพิ่มกำลังผลิตพร้อมขยายโรงงานด้วยงบ 950 ล้านบาท หวังทำยอดขาย 500 ล้านใน 5 ปี ด้านผู้บริหาร “ซีพีออลล์” มั่นใจแบรนด์ยันฮีมีความแข็งแกร่ง ระบุทำยอดขายได้ถึง 1 แสนชิ้นภายใน 2 สัปดาห์

นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮี เปิดเผยว่า โรงพยาบาลได้เริ่มขยายฐานการตลาดไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม โดยได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางการค้ารายใหญ่คือบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นและหนังสือเซเว่นแค็ตตาล็อกในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในเครือของยันฮี โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2555

“เหตุผลสำคัญที่โรงพยาบาลขยายตลาดสู่ผลิตภัณฑ์ความงามครั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างช่องทางให้ผู้บริโภคมีโอกาสได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของโรงพยาบาลได้สะดวกมากขึ้น จากเดิมที่มีวางจำหน่ายเฉพาะภายในโรงพยาบาลเพียงช่องทางเดียวมาเป็นเวลากว่า 20 ปี ในขณะที่การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพสูงในด้านมาตรฐานและการกระจายสินค้าผ่านร้านเซเว่นอีเลฟเว่นซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 7 พันสาขา ทำให้ผลิตภัณฑ์ความงามของโรงพยาบาลภายใต้แบรนด์ยันฮีสามารถทำรายได้ถึง 40 ล้านบาทในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา”

สำหรับผลิตภัณฑ์ความงามภายใต้แบรนด์ยันฮีที่จำหน่ายผ่านร้านเซเว่นอีเลฟเว่นและหนังสือเซเว่นแค็ตตาล็อกในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมายังคงเน้น 2 ผลิตภัณฑ์หลัก คือ ครีมหน้าขาว และครีมแต้มสิว โดยจะมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ช่วยทำให้ผิวขาว “ยันฮีกลูต้าพลัส” และผลิตภัณฑ์ช่วยให้รูปร่างกระชับได้สัดส่วน “ยันฮีคาร์นิทีนพลัส” ภายในไตรมาสที่สามของปี 2556 โดยคาดว่าจะสามารถทำรายได้ทั้งสิ้นประมาณ 200 ล้านบาทภายในปี 2556

สำหรับธุรกิจเครื่องสำอางของประเทศไทยทั้งตลาดส่งออกและภายในประเทศมีมูลค่ารวมกว่า 5.4 แสนล้านบาท โดยคาดว่าจะยังคงมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 15% ภายในปี 2556 ขณะที่ตลาดเครื่องสำอางประเภทผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม หรือ “สกินแคร์” มีมูลค่ารวมประมาณ 4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ไทย 1.6 หมื่นล้านบาท โดยในส่วนของยันฮีคาดว่าจะสามารถทำส่วนแบ่งการตลาดได้อย่างน้อยปีละ 10% และจะสามารถทำยอดขายรวมปีละ 500 ล้านบาทภายในเวลา 5 ปี

การขยายตลาดเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามครั้งนี้ โรงพยาบาลยันฮีมีการก่อตั้งบริษัทในเครือเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง คือ บริษัท ยาอินไทย จำกัด ในฐานะผู้ผลิตสินค้าเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สริมอาหาร ยาและสมุนไพรเพื่อใช้และจำหน่ายภายในโรงพยาบาล รวมทั้งจำหน่ายผ่านบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ยังก่อตั้งบริษัท เมดโดซิน จำกัด เพื่อเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าทั่วประเทศ โดยใช้เงินทุนจดทะเบียนบริษัทละ 100 ล้านบาท

“ในส่วนของบริษัท ยาอินไทย จำกัดนั้นได้มีการลงทุนไปแล้ว 300 ล้านบาทในการก่อสร้างโรงงาน 3 แห่ง พร้อมเครื่องจักรอุปกรณ์ต่างๆ โดยปัจจุบันสามารถผลิตสินค้าประเภทครีมได้เดือนละประมาณ 2 แสนขวด และผลิตสินค้าประเภทเม็ดแคปซูลเดือนละประมาณ 5 แสนขวด แต่ด้วยเหตุที่ความต้องการสินค้าที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ต้องมีการใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้นอีก 650 ล้านบาทในการขยายโรงงานเพิ่มขึ้นอีก 3 อาคาร พร้อมด้วยเครื่องจักรอุปกรณ์เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้ตรงความต้องการตลาด โดยการขยายโรงงานครั้งนี้ยังคงอยู่ในบริเวณเดียวกันกับโรงงานเก่าซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 25 ไร่ในเขต อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเวลา 9 เดือน หรือประมาณเดือน ก.พ. 2557”

ทางด้าน นายอำพา ยงพิศาลภพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารหนังสือเซเว่นแค็ตตาล็อก เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามของยันฮีถือเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งมาก ทั้งยังถือเป็นผลิตภัณฑ์เด่นที่สามารถทำยอดขายได้ถึง 1 แสนชิ้นภายในเวลา 2 สัปดาห์ที่เริ่มจำหน่าย โดยตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2555 จนถึงปัจจุบันสามารถทำยอดขายได้ถึง 8 แสนชิ้น แบ่งเป็นครีมหน้าขาว 5 แสนชิ้น และครีมแต้มสิว 3 แสนชิ้น

เซเว่นแค็ตตาล็อกมุ่งเน้นการเลือกสรรผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตลาดต้องการอย่างต่อเนื่อง ด้วยการบริหารจัดการ หมุนเวียนรายการสินค้าต่างๆ ที่หลากหลายและตรงความต้องการของลูกค้า ทั้งด้านคุณภาพและราคาให้ครอบคลุมสินค้าประเภทต่างๆ โดยกลุ่มสินค้าที่สามารถทำยอดขายได้มากที่สุดคือผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม เครื่องสำอาง อาหารเสริม เครื่องประดับ และแฟชั่นสตรี คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60% สินค้าไอทีประมาณ 10% วัตถุมงคล ประมาณ 10% ส่วนที่เหลือเป็นเครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ในครัว เครื่องนอน และเครื่องออกกำลังกาย เป็นต้น

“ปัจจุบันเซเว่นแค็ตตาล็อกมีสินค้าทั้งหมดประมาณ 1.7 พันรายการ ในขณะที่สินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงามมีจำนวนสินค้าถึง 400 รายการ การร่วมมือจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยันฮีครั้งนี้น่าจะมีส่วนช่วยให้รายได้ของบริษัทสูงเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3 พันล้านบาทในปี 2556 หรือเติบโตขึ้น 40% จากปี 2555 โดยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาสามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น 45% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน”




กำลังโหลดความคิดเห็น