ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ในที่สุด โครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เดินทางมาสู่ทางตัน เมื่อกระทรวงการคลัง ไม่ยอมขยายวงเงินกู้มาให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ใช้สำหรับรับจำนำข้าวตามเป้าหมายที่จะต้องใช้จ่าย โดย ธ.ก.ส.เองก็ออกอาการร่อแร่ถังแตกให้เห็น
ขณะที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อหมดปัญญาขายข้าวเอาเงินใช้หนี้ให้ธ.ก.ส. ก็ออกมาพาลปัดสวะให้พ้นตัว ไม่นับว่าข้าวที่จะรับจำนำไม่มีโกดังเก็บเพราะเต็มหมดแล้ว
ปฏิบัติการทำลายการค้าข้าวอย่างเป็นระบบครบวงจรของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถึงนาทีนี้ต้องบอกว่า บรรลุผลสำเร็จอย่างงดงามสมปรารถนา
ชาวนายากจน ชาวนารายเล็กรายย่อย ที่เช่าที่นาก็ล้มหายตายจากไปเพราะราคารับจำนำข้าวสูงขึ้น เจ้าของที่ดินก็ขึ้นค่าเช่า หรือไม่เช่นนั้นก็เลิกให้เช่าแล้วจ้างแรงงานมาทำนาเพื่อจะได้ขายข้าวในราคาจำนำเสียเอง ขณะที่ต้นทุนค่าทำนาแพงขึ้นจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ที่ไปดันให้ราคาสินค้าทุกชนิด ซึ่งหมายรวมถึงปัจจัยการผลิตในการทำนาพุ่งสูงขึ้น
ชาวนาที่ได้ประโยชน์จากโครงการรับจำนำข้าว ยิ่งนานก็ยิ่งหลงเหลือเพียงชาวนาร่ำรวยที่สามารถกอบโกยจากนโยบายนี้ เช่นเดียวกันกับโรงสี และผู้ส่งออกข้าวกลุ่มใหม่ที่อยู่ในเครือข่ายของรัฐบาลที่มีโอกาสเข้าร่วมโครงการแปรรูปข้าวเปลือกเป็นข้าวสารและสามารถประมูลข้าวจากรัฐบาลได้ และอิ่มเอมกันถ้วนหน้า
ขณะที่ภาระด้านการเงินที่ใช้ในโครงการรับจำนำข้าวที่ตกประมาณ2 แสนล้านบาท ต่อฤดูกาลผลิต เป็นหนี้สินของประเทศที่คนไทยทุกคนต้องแบกรับร่วมกัน
เมื่อถึงเวลาเดินมาถึงทางตันเช่นนี้แล้ว ถามว่าจะมีใครหน้าไหนออกมาแสดงความรับผิดชอบกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะนายบุญทรง นั้น เพียงแค่นี้ก็เห็นกิริยาอาการส่อแสดงออกอย่างชัดเจนว่าพร้อมชิ่งหนีปัญหา ปัดสวะให้พ้นตัว
กรณีที่เกิดขึ้นล่าสุด เมื่อกระทรวงการคลัง มีคำสั่งให้ ธ.ก.ส.ทำหนังสือทวงหนี้กระทรวงพาณิชย์ ที่ค้างเงินจากการระบายข้าวตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555 ที่กระทรวงพาณิชย์ ต้องจ่ายเงินให้ธ.ก.ส. จำนวน 8.5 หมื่นล้านบาท แต่ถึงตอนนี้ยังจ่ายไม่ครบ ธ.ก.ส.ได้มาเพียง 5.8 หมื่นล้าน
เพียงเท่านั้น นายบุญทรง ถึงกับปรี๊ดสวนกลับทันทีว่า คณะรัฐมนตรี ให้กระทรวงการคลัง หาเงินกู้ให้ ธ.ก.ส. จำนวน1.5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในการดูแลราคาสินค้าเกษตรของปี 2555/2556 รวมถึงโครงการรับจำนำข้าวเปลือกด้วย แต่กระทรวงการคลังยังไม่ได้ดำเนินการ
“การกู้เงินให้ ธ.ก.ส.มาใช้ในโครงการรับจำนำข้าว กับเงินที่ได้จากการระบายสต๊อกข้าว ถือเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งมองว่าหน้าที่ใครก็ทำหน้าที่ของตนเองไป กระทรวงการคลังมีหน้าที่กู้เงินให้ ธ.ก.ส.ไปจ่ายเงินให้เกษตรกรที่นำข้าวมาขายในโครงการรับจำนำ ก็ต้องเร่งดำเนินการไม่ใช่มีหน้าที่มาทวงเงินจากกระทรวงพาณิชย์” นายบุญทรง โบ้ยบ้ายให้เรื่องพ้นตัว
ส่วนสาเหตุที่กระทรวงพาณิชย์ ยังส่งเงินไม่ได้ตามแผนนั้น นายบุญทรง แก้ตัวว่า ก่อนหน้านี้ที่ส่งเงินคืนไม่ได้ตามแผน เพราะได้สั่งชะลอการส่งมอบข้าวให้รัฐบาลผู้ซื้อ เนื่องจากต้องรอผลการสอบการขายข้าวในรูปรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ก่อน แต่ขณะนี้ได้สอบเสร็จแล้ว และคาดว่าจะส่งเงินคืนได้ตามแผนต่อไป ขณะนี้กำลังเร่งระบายข้าวอยู่ และสั่งให้คืนเงินทุกเดือน โดยในเดือนมกราคมนี้ จะคืน 1.2 หมื่นล้าน และภายในสิ้นปีนี้ต้องคืน 2.6 แสนล้าน
เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ฝ่ายค้านที่คอยจ้องอยู่แล้วออกมากระหน่ำทันที โดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ชี้ว่า การที่ธ.ก.ส.ทวงเงินกระทรวงพาณิชย์ให้เร่งจ่ายเงินระบายข้าวเพื่อธนาคารจะได้นำไปหมุนเวียนในโครงการรับจำนำ สะท้อนถึงความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เพราะโครงการนี้ทำให้ข้าวไทยแพงกว่าต่างประเทศกว่า 100 เหรียญจนผู้ส่งออกขายข้าวไม่ได้ รัฐบาลไม่สามารถระบายข้าวได้ตามเป้าหมายจึงไม่มีเงินใช้หนี้ ธ.ก.ส. ดังนั้นแทนที่นายบุญทรง จะแสดงความไม่พอใจต่อ ธ.ก.ส.น่าจะหาทางระบายข้าวและจ่ายเงินให้ ธ.ก.ส.โดยด่วนจะดีกว่า และอยากถามนายบุญทรงว่า ที่ไม่รีบเพราะมีเรื่องเงินใต้โต๊ะอยู่ใช่หรือไม่
การโยนเรื่องให้กันไปมาระหว่างกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และธ.ก.ส. แบงก์รัฐที่ถูกดึงเข้าร่วมโครงการรับจำนำครั้งนี้ บ่งบอกว่าแผลเน่าเริ่มปริแตกจนไม่อาจปกปิดได้อีกต่อไป หลังจากที่นางสาวยิ่งลักษณ์และนายบุญทรงยืนยันว่าจะเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวต่อไปและไม่ได้มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นจนทำให้ต้องล้มเลิกโครงการ ดังที่หลายฝ่ายส่งเสียงเตือนให้หยุดยั้งและทบทวนหาแนวทางช่วยเหลือชาวนายากจนเสียใหม่ที่ได้ผลดีกว่าและไม่ต้องใช้จ่ายเงินมากมายขนาดนี้
สำหรับเรื่องเงินที่ใช้ในโครงการรับจำนำข้าวนั้น ถึงแม้ว่าคณะรัฐมนตรี จะมีมติให้กระทรวงการคลัง ค้ำประกันเงินกู้ให้กับธ.ก.ส. หรือกระทรวงการคลังเองเป็นผู้กู้เงินมาให้ ธ.ก.ส.ใช้จำนำข้าวก็ตาม แต่เงื่อนไขมีอยู่ว่า กระทรวงการคลัง จะค้ำประกันเงินกู้สำหรับใช้ในการดูแลราคาสินค้า เกษตรฤดูกาลผลิต 2555/2556 รวมทั้งหมดทุกตัวไม่ว่าจะเป็นข้าว มันสำปะหลัง ฯลฯ วงเงินรวมจำนวน 1.5 แสนล้านบาทเท่านั้น นอกเหนือจากนั้น ให้กระทรวงพาณิชย์ระบายสต็อกสินค้าเกษตร นำเงินมาใช้หนี้ให้ธ.ก.ส. และหากไม่พอก็ให้ ธ.ก.ส.ออกตราสารการเงินหรือกู้เองโดยที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันให้
แต่กระทรวงพาณิชย์ ก็ต่อรองว่า จะขอให้กระทรวงการคลัง ขยายวงเงินค้ำประกันให้เพิ่มเพราะลำพังเม็ดเงิน 1.5 แสนล้านนั้น เอาเฉพาะแค่นำมารับจำนำข้าวก็แทบจะไม่พอ ขณะที่เม็ดเงินจากการระบายสต็อกสินค้าเกษตรจากที่รับจำนำเอาไว้นั้น กระทรวงพาณิชย์ ก็ไม่สามารถทำได้ตามเป้า
คำร้องขอของกระทรวงพาณิชย์ ถูกกระทรวงการคลังปฏิเสธ แถมกระทรวงการคลังยังให้ ธ.ก.ส.ทำหนังสือทวงหนี้ไปที่กระทวงพาณิชย์ อีกต่างหาก ภาระจึงมาตกที่ ธ.ก.ส.ซึ่งพลอยรับผลกระทบอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงจากปัญหาการขาดสภาพคล่อง เว้นเสียแต่ว่า กระทรวงการคลังจะยอมขยายวงเงินค้ำประกันเงินกู้เพิ่มให้กับธ.ก.ส. ซึ่งเวลานี้ ผู้บริหาร ธ.ก.ส. ก็ออกมาพูดเองเออเอง ทำนองว่า กระทรวงการคลัง กำลังพิจารณาเรื่องนี้
นายวันชัย ศิริวัฒนะตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนโยบายรัฐ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาเพิ่มวงเงินการค้ำประกันเงินกู้ให้แก่ ธ.ก.ส. อีก 70,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในปีการผลิต 2555/2556 ซึ่งเมื่อรวมกับวงเงินค้ำประกันที่ คณะรัฐมนตรี อนุมัติไว้เดิม 150,000 ล้านบาท จะทำให้วงเงินการค้ำประกัน เพิ่มเป็น 220,000 ล้านบาท
“ธ.ก.ส.ได้เร่งรัดให้กระทรวงพาณิชย์ นำเงินที่ได้จากการระบายข้าวมาคืน ธ.ก.ส. เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้หมุนเวียนในโครงการรับจำนำข้าว ขณะที่กระทรวงการคลังก็กำลังดูว่าจำเป็นต้องมาช่วยสนับสนุนเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ล่าสุดคุยกันว่าระหว่างที่รอเงินจากการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลังอาจต้องเพิ่มวงเงินค้ำประกันเงินกู้อีกประมาณ 70,000 ล้าน เพื่อนำมาใช้ในการจำนำข้าวรอบต่อไป" ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนโยบายรัฐ ธ.ก.ส. กล่าว
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังไม่มีคำยืนยันจากฟากกระทรวงการคลังแต่อย่างใดว่าจะมีการขยายวงเงินค้ำประกันกู้เพิ่มให้ ธ.ก.ส. เพราะสิ่งที่กระทรวงการคลัง ยืนยันมาโดยตลอดก็คือ จำกัดวงเงินค้ำประกันเงินกู้ไว้แค่ 150,000 ล้านบาท ที่สำคัญวงเงินค้ำประกันเงินกู้ให้ธ.ก.ส.นั้นเต็มเพดานแล้ว หากกระทรวงการคลังมาค้ำให้เพิ่มเติมอีก ก็จะกระทบการค้ำประกันเงินกู้ ของรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ดังนั้น จึงชัดเจนว่า จะไม่มีการค้ำประกันเงินกู้เพิ่มให้กับ ธ.ก.ส.อีกแล้ว
อาการเงินหมุนเวียนสำหรับจำนำข้าวที่มีปัญหา เห็นได้ชัดจากการออกมาเปิดเผยของสมาคมโรงสี ที่ว่ามีเกษตรกรอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับเงินค่าข้าวที่ค้างจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2555 ที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยพบว่าเกษตรกรได้รับเงินล่าช้า 2-3 เดือน โดยอ้างเหตุผลว่า เป็นเพราะเกษตรกรในกลุ่มที่ได้เงินจากโครงการรับจำนำมากกว่า 5 แสนบาท หรือมีผลผลิตจริงสูงกว่าที่ลงทะเบียนไว้ 20% ต้องมีคณะกรรมการระดับจังหวัดเข้าไปตรวจสอบก่อนอนุมัติให้ ธ.ก.ส.จ่ายเงิน
ไม่เพียงแต่มีปัญหาเรื่องเงินหมุนเวียนในโครงการรับจำนำข้าวเท่านั้น ยังมีเรื่องโกดังเก็บข้าวที่รับจำนำมาแล้วหลายฤดูกาลเต็มเพราะรัฐบาลไม่สามารถระบายข้าวได้ กระทั่งโรงสีได้ยื่นหนังสือร้องเรียนมายังกระทรวงพาณิชย์ว่า ไม่มีที่เก็บข้าวและไม่สามาารถสีแปรข้าวเปลือกที่ได้จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกฤดูกาลผลิตปี 2555/2556 มาส่งมอบให้คลังกลางได้
นายบุญทรง จึงได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน องค์การคลังสินค้า (อคส.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เร่งเปิดคลังกลางเพื่อใช้เก็บสต๊อกข้าวสารให้เพียงพอ และเร่งรับสมัครคลังกลางเพิ่มเติมให้สามารถรองรับข้าวสารจำนวนมากได้
ทาง น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้ออกมาเด้งรับ โดยยืนยันว่า มีจำนวนคลังกลางเพียงพอที่จะรองรับการเก็บสต๊อกข้าวสารที่ได้จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกฤดูกาล 2555/2556 โดยขณะนี้ได้อนุมัติให้เปิดคลังกลางแล้ว 180 แห่ง เก็บข้าวสารได้ 2.5 ล้านตันโดยมีข้าวสารเข้ามาเก็บในคลังกลางแล้ว 1.5 ล้านตัน ยังเหลือที่ว่างอีก 1 ล้านตัน และกำลังทยอยเปิดเพิ่มอีก
ความอื้อฉาวในโครงการรับจำนำข้าวที่ทำให้พังพินาศกันทั้งระบบ กำลังจะถูกแฉจากฝ่ายค้าน โดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ที่อภิปรายสาวใส้โครงการจำนำข้าวจนเพื่อไทยสะเทือนมาแล้ว โดยซีรี่ย์ต้อนรับปี 2556 หมอวรงค์ใช้ชื่อว่า "หยุดทำร้ายข้าวไทย" โดยจะสะท้อนความเลวร้ายที่มากขึ้นกว่าเดิมทั้งชาวนาถูกเอาเปรียบ การส่งข้าวเข้าสู่โกดังมีปัญหา รัฐบาลระบายข้าวไม่ได้ จนเกิดปัญหาบริหารจัดการข้าวในโกดัง อีกทั้งข้าวที่เก็บกลายเป็นข้าวเสื่อมคุณภาพ เพื่อตอกย้ำว่ารัฐบาลกำลังทำร้ายข้าวไทยให้ย่อยยับ พร้อมกับส่งข้อมูลให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อตรวจสอบโครงการนี้
ถึงที่สุด เมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ดึงดันจนเดินสู่ทางตันโครงการจำนำข้าวแล้ว ต้องรอดูว่าจะพากันหาทางออกอย่างไร จะยอมถอยหรือไปตายเอาดาบหน้าพาชาติลงเหวสถานเดียว