xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ทุ่ม 3 หมื่นล้าน ครม.สัญจรเกาะสมุย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.สัญจร)นอกสถานที่ ครั้งที่ 7 ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร วันที่ 21-22 ต.ค.นี้ที่ อำเภอเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ถิ่นพรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ”

ซึ่งวาระครม.ที่ถือเป็นการเข้ามาพัฒนาจังหวัดภาคใต้กลุ่มนี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะเป็นเจ้าภาพเช่นเดียวกับการประชุมสัญจร ครั้งก่อนๆ

มีการนำเสนอโครงการให้ ครม.ได้ลงพื้นที่ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย จำนวน 4 จังหวัด

คือ จ.สุราษฎร์ธานี จ.ชุมพร จ.นครศรีธรรมราช และ จ.พัทลุง

หลังจากรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายไปรับทราบโครงการและงบประมาณคร่าว ๆรวมจากจังหวัดเหล่านี้แล้วก็นำมาเสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อส่งเรื่องของยังสภาพัฒน์รวบรวม เพื่อนำเสนอที่ประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในภูมิภาค (กรอ.ภูมิภาค) ในวันที่ 21 ต.ค. 2555 และจะมีประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 22 ต.ค. 2555 เพื่อเห็นชอบต่อไป

ล่าสุดมีการเปิดเผยผลการตรวจความคืบหน้า 27 โครงการ โดยนางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการที่คณะรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ตรวจดูความคืบหน้าของการดำเนินการ ประกอบด้วยโครงการหลัก ๆ จำนวน 27 โครงการดังนี้

กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย มี 5 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการศึกษาความเป็นไปได้และการสำรวจออกแบบเบื้องต้นท่าอากาศยานนานาชาติดอนสัก 2. โครงการปรับปรุงทางหลวงย่านชุมชน 3. โครงการก่อสร้างทางคู่ขนาน ทางหลวงสายเอเชีย(สาย 41) เขตชุมชน 4. โครงการปรับปรุงสภาพแวดล้อมบริเวณวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตพื้นที่ (Core Zone) และเขตพื้นที่กันชน (Buffer Zone) เพื่อนำเสนอพระบรมธาตุนครศรีธรรมราชสู่มรดกโลก และ 5. โครงการอาชีวศึกษาชุมพรเชิงบูรณาการสู่ประชาคมอาเซียน

ที่คาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 3หมื่นล้านบาท
 

ส่วนพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จะเสนอ 9 โครงการ งบประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ได้แก่ 1. โครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ท่องเที่ยวหาดเฉวง อำเภอเกาะสมุย 2. โครงการขุดบ่อบาดาลเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ อำเภอเกาะสมุย 3. โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลเกาะเต่า 4. โครงการบริหารจัดการน้ำ (แก้มลิงทุ่งหัวสน) 5. โครงการศูนย์บริหารจัดการสารสนเทศสำหรับนักท่องเที่ยว 6. โครงการจัดตั้งโรงเรียน มอ.วิทยานุสรณ์ สุราษฎร์ธานี 7. โครงการส่งเสริมชุมชนต้นแบบในพื้นที่จัดสรรที่ดินทำกิน 8. โครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหารและ 9. โครงการบริหารจัดการขยะเพื่อสิ่งแวดล้อม

จังหวัดชุมพร เสนอ 5 โครงการ วงเงิน 123 ล้านบาท ได้แก่ 1. โครงการก่อสร้าง/ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและภูมิทัศน์ในพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริชุมพร 2. พัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ (ศูนย์เรียนรู้โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่) 3. โครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยพื้นที่หนองใหญ่ ตามพระราชดำริ (ขุดลอกแก้มลิงหนองใหญ่) 4. โครงการศูนย์การเรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กว่า 4,100 โครงการ โดย และ 5. โครงการยกระดับคุณภาพกำลังคนอาชีวศึกษาเชิงบูรณาการสู่ประชาคมอาเซียน

จังหวัดนครศรีธรรมราช เสนอ 5 โครงการ งบประมาณ 11,877 ล้านบาท 1. โครงการสมัชชาหมู่บ้าน/ชุมชนพลังแผ่นดิน เอาชนะยาเสพติด 2. โครงการวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นมรดกโลก 3. ขุดลอกคลองท่าซักเพื่อป้องกันอุทกภัยจังหวัด (หมู่ที่ 2-9 ตำบลท่าซัก อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช) 4. ก่อสร้างถนนสายชายทะเล -บ้านสี่กั้ก ตำบลท่าขึ้น อำเภอท่าศาลา 5.ก่อสร้างสะพานข้ามคลองชะอวด ต.ชะอวด ต.เคร็ง อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช

จังหวัดพัทลุง เสนอ 3 โครงการ งบประมาณ 130 ล้านบาท ได้แก่ 1. โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการระบายน้ำ 2. โครงการขุดลอกคลองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และ 3. โครงการปรับปรุงโครงข่ายทางหลวงชนบทเพื่อการระบายน้ำและป้องกันการกัดเซาะ

ขณะที่ภาคเอกชนภาคใต้ ได้คาดหวังโครงการที่นำเสนอต่อ ครม.เป็นวาระเร่งด่วนคือเรื่องปัจจัยพื้นฐานก่อนเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะการเร่งซ่อมบำรุงถนนสายเพชรเกษม หรือสาย 41 เส้นทางลงภาคใต้ทั้งสายที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมเมื่อปี 2554 แต่ยังไม่ได้รับการปรับปรุง ขอให้เร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพราะเป็นโครงการที่ทำอยู่แล้ว เนื่องจากในปัจจุบันยังมีปัญหาเกี่ยวกับการขนส่งระบบโลจิสติกมาโดยตลอด

ส่วนโครงการที่นำเสนอเพื่อให้ ครม.พิจารณารับเป็นวาระเพื่อการศึกษาและมีโอกาสที่จะสามารถดำเนินการได้ไม่ยากคือโครงการถนนสายการท่องเที่ยวอันดามัน-อ่าวไทยระยะทางประมาณ 1,000 กม.เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน อีกทั้งโครงการดังกล่าวเคยนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.สัญจรมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยขอให้มีการศึกษาแผนแม่บทอ่าวไทย-อันดามันที่สามารถเกื้อหนุนกันได้

ขณะเดียวกันขอให้มีการทบทวนหรือศึกษาเส้นทางรถไฟสายสุราษฎร์ธานี - ภูเก็ต โดยอาจจะใช้เส้นทางเชื่อมกับถนนสาย 44 หรือสายเซ้าเทิร์นซีบอร์ด เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวได้ที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวอันดามัน-อ่าวไทย เชื่อมต่อกันได้สะดวกขึ้น

สำหรับในส่วนของพื้นที่เกาะสมุย ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อระดับโลก จะนำเสนอโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวรอบเกาะสมุย ขอให้มีการศึกษาเรื่องการคมนาคมรอบเกาะโดยเฉพาะศึกษารถไฟฟ้ารางเบารอบเกาะ ไม่ต้องเทียบเท่าในกรุงเทพ ฯ เพื่อช่วยลดการนำรถยนต์ลงไปที่เกาะ เป็นการป้องกันอุบัติเหตุ และลดมลภาวะ เพราะถนนรอบเกาะสมุยระยะทางไม่มากนัก ประมาณ 45 กม. ที่สำคัญเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

สำหรับในส่วนของภาคการลงทุนโดยจะนำเสนอในเรื่องของการส่งเสริมการลงทุน การแปรรูปยางและปาล์ม เพื่อเพิ่มมูลค่าการผลิต ราคาพืชผลการเกษตรจะได้ไม่ผันผวน เนื่องจากตอนนี้ในพื้นที่ภาคใต้ ยางและปาล์มเป็นการลงทุนขั้นต้นเท่านั้น ทำให้ราคาไม่นิ่ง จึงเป็นปัญหากับเกษตรกรผู้ผลิตมาโดยตลอด หากมีลงทุนในรูปของแปรรูปขั้นสูงเชื่อได้ว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องของราคาผลผลิตตกต่ำอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามการประชุม ครม.สัญจรที่เกาะสมุยครั้งนี้ ทางภาคเอกชนคาดหวังขอให้ดำเนินการเร่งด่วนในเรื่องของปัจจัยพื้นฐานให้เร็วที่สุด ต่อเนื่องจาก ครม.สัญจรที่ จ.ภูเก็ต

ส่วนโครงการอื่น ๆ ขอให้พิจารณาหรือทำการศึกษาไว้ก่อนเชื่อมั่นว่าทำได้ไม่ยาก เพราะส่วนใหญ่มีโครงการอยู่แล้ว แต่หากให้ดำเนินการทั้งระบบทั้งให้เป็นการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและการส่งเสริมการลงทุนด้านการเกษตร รวมทั้งระบบสาธารณสุข ,การศึกษา
ในพื้นที่ภาคใต้ต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท

ส่วนการรักษาความปลอดภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดแผนรักษรความปลอดภัย เกาะสมุย เกาะพงัน ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม ที่เชื่อว่าคณะรัฐมนตรีและผู้เกี่ยวข้องจะพักค้างคืน

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เจ้าของพื้นที่เป็นเจ้าภาพในการดูแลความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยและการจราจร ร่วมกับสันติบาล ชุดนเรศวร 261 ตำรวจทางหลวง ตำรวจน้ำ หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด โดย สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ(ศปก.)ภ.8 และศปก. ในทุกสถานที่ ที่นายกรัฐมนตรีต้องไปเยือน เพื่อ เป็นศูนย์อำนวยการประสานงานด้านการรักษาความปลอดภัย และจัดเตรียมกองร้อยควบคุมฝูงชน วางแผนเผชิญเหตุรองรับ

มี พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง2 กำกับดูแลเตรียมความพร้อมด้วยตัวเอง

แว่วว่า! มีรายชื่อ หน้าตาผู้ที่จะยื่นหนังสือหรือมาชุมนุมบ้างแล้ว เห็นว่า จะไม่ปล่อยขึ้นไปยังเกาะสมุยง่ายๆ




กำลังโหลดความคิดเห็น