สศค. ย้ำมาตรการคลังหนุนลงทุนไทยใน ตปท. ชี้ ธุรกิจขนาดใหญ่ต้นทุนทางภาษีลดลง ช่วยสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอี ขณะบ้านปูอยากเห็น ก.ต่างประเทศ เป็นเจ้าภาพส่งเสริมการลงทุน เนื่องจากมีเครือข่าย และเข้าใจสภาพแวดล้อมได้ดี
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงผลการสัมมนาวิชาการของ สศค. ครั้งที่ 9 ประจำปี 2555 เรื่อง “การลงทุนไทยในต่างประเทศ : โอกาสหรือความเสี่ยง?” ว่า การส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศเป็นเรื่องที่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้ให้ความสำคัญ และเชื่อว่า มาตรการการส่งเสริมที่ได้จัดเตรียมขึ้น จะเป็นกลไกที่ส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศได้อย่างยั่งยืน ซึ่งทั้งธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจ SME จะได้ประโยชน์จากมาตรการที่เสนอมา โดยธุรกิจขนาดใหญ่ก็จะได้ประโยชน์จากต้นทุนด้านภาษีที่ลดลง การบริหารเงินสกุลต่างประเทศที่สะดวกขึ้น ขณะที่ค่าธรรมเนียมที่ได้จากธุรกิจขนาดใหญ่ รวมทั้งบริษัทต่างชาติ จะสามารถนำมาเป็นเงินทุนที่จะใช้ช่วยสนับสนุนธุรกิจ SME และนำมาใช้สร้างองค์ความรู้ เพื่อสนับสนุน SME ต่อไป ในขณะเดียวกัน การลงทุนในต่างประเทศที่สนับสนุนการส่งออกของไทย สนับสนุนการใช้ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้า รวมทั้งการบริหารการลงทุน และการค้าระหว่างประเทศ ดึงดูดธุรกิจต่างชาติใช้ไทยเป็นฐานการค้า และการลงทุนระหว่างประเทศ จะทำให้เกิดรายได้ภาษีทางอ้อมปีละหมื่นล้านบาท หลังจากหักภาษีที่สูญเสียจากการนำมาตรการมาใช้
ทางด้าน นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย และ CEO บมจ.บ้านปู เห็นว่า การสนับสนุนในประเทศที่เข้าไปลงทุนก็เป็นส่วนสำคัญ โดยอยากเห็นกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาเป็นเจ้าภาพในการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากมีเครือข่ายอยู่ในต่างประเทศอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีความเข้าใจในสภาวะแวดล้อมในต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้การสนับสนุนเกิดขึ้นได้รวดเร็ว นอกจากนี้ ได้ย้ำถึงความสำคัญของการแก้ปัญหาเรื่องภาษีกำไรนำกลับ และภาษีซ้อนที่จะทำให้เงินทุนที่ออกไปลงทุนในต่างประเทศกลับเข้ามาในไทยมากยิ่งขึ้น