ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์- คำตอบโต้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของ “พานทองแท้ ชินวัตร” ดูจะก้าวร้าวเกินระดับมันสมอง ทำให้ไม่มีใครเชื่อว่า เขาจะเขียนขึ้นด้วยตัวเอง อย่างดีก็คงต้องจ้าง “มือข่าวแก่ๆ” คนหนึ่งเขียนขึ้น ก็จะโพสต์ขึ้นบนเฟซบุ๊คของตัวเอง
ไม่มีใครเชื่อว่า เด็กที่เคยถูกจับว่า ทุจริตในการสอบมหาวิทยาลัยรามคำแหง จะสามารถเขียนอะไรที่นักการเมืองคร่ำหวอดสนามนึกไม่ถึง
“กรณ์ จาติกวณิช” ส.ส.ประชาธิปัตย์ อดีต รมว.คลัง ได้เขียนข้อความบนเฟสบุ๊คส่วนตัว Korn Chatikavanij ว่า "ใครเป็นโจรกันแน่" เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดยระบุว่า “หนึ่งอาทิตย์ในทางการเมืองมันช่างยาวนาน เมื่ออาทิตย์ที่แล้วทักษิณบอกลาชาวเสื้อแดง และประกาศว่าเป็นการ 'โฟนอิน' เที่ยวสุดท้าย เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น ศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณาคำร้องว่าวิธีการแก้รัฐธรรมนูญของทักษิณขัดต่อรัฐธรรมนูญ และที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือทักษิณประมาทประชาชนมากเกินไป ไม่คิดว่าคนไทยจะออกมาต่อต้านการ 'ล้างผิด' ตัวเองมากถึงขนาดนี้ จึงเลยต้องหันกับไปพึ่งมวลชนเสื้อแดงอีกครั้ง และการ 'โฟนอิน' เมื่อวานนี้ คงมีความลนลานในใจมาก เพราะทักษิณพูดเละเทะมากเป็นพิเศษ”
“ทักษิณบ่นว่ารัฐบาลกำลังตั้งใจทำงาน แต่มีคนมาปล่อยข่าวปฏิวัติ นอกจากจตุพรแล้ว ผมไม่เห็นใครออกมาพูดข่าวนี้สักคน จนผมเริ่มกังวลว่า ถ้าการออกกฎหมายเถื่อนเหล่านี้ไม่สำเร็จ ทักษิณจะปฏิวัติตัวเองเพื่อดันกฎหมายเหล่านี้หรือไม่ ทักษิณด่าคู่ต่อสู้ว่าต้อง 'รักษากฎหมาย' แล้วก็ด่าศาลรัฐธรรมนูญว่า 'ไม่มีคุณธรรมในการรักษากฎหมาย' เพราะว่าไม่ได้ดังใจเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ผมยังจำได้ เมื่อสามเดือนก่อนชมศาลนักหนา ในวันที่ศาลออกมายืนยันการออกพระราชกำหนดกู้เงินโดยรัฐบาล สรุปทักษิณก็คือทักษิณ เอาแต่ได้ตลอดกาล แต่ที่มั่วที่สุด คือการพูดถึงเงิน 46,000ล้านบาท ที่ศาลฎีกาพิพากษายึดเป็นของหลวงเพราะเป็นเงินที่ได้มาจากการทุจริตโกงชาติโกงเมือง ทักษิณบอกว่าก่อนเล่นการเมือง 'ผมมีตังค์มาก่อน' และ 46,000ล้านนั้น 'เป็นเงินที่ผมถูกขโมยไป'
พานทองแท้ก็โพสต์ข้อความบนเฟสบุ๊ก โดยการอ้างอิงข่าวจากหนังสือพิมพ์ทันทีว่า พ่อเขาไม่ได้โกงหมื่นล้าน
14มิ.ย.ที่ผ่านมา พานทองแท้ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra ลงรูปภาพหนังสือพิมพ์ไทยรัฐว่า
“ผมก็ขอเอาข้อมูลชิ้นแรกที่คุณพ่อบอกผมมาลงแทนรูปที่ถ่ายกับคุณพ่อก่อนเลยแล้วกันครับคือ คุณพ่อผมจำได้ว่าวันที่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีครั้งแรกในชีวิต มีหนังสือพิมพ์ลงพาดหัว ข้อมูลทรัพย์สินที่คุณพ่อผมมีอยู่ก่อนเข้าการเมือง ซึ่งคุณพ่อผม และผู้รับตำแหน่งทางการเมืองของพรรคพลังธรรมทุกคน ได้เปิดเผยต่อสารธารณชน(คุณพ่อผมจำได้แม้กระทั่งว่า ลุงจำลองใส่เสื้อม่อฮ่อมลากรองเท้าแตะบุกมาเชิญให้ไปเป็นรมต.ถึงออฟฟิตเลยครับ)”
“ผมจึงได้ให้ทีมงานไปค้นมาปรากฏว่ามีเพียบเลยครับ น่าจะทุกฉบับเลยด้วย (ผู้จัดการรายวันยังมีเลยครับ ลงว่า"รมต.พลังธรรมแสดงทรัพย์-ทักษิณ6หมื่นล้าน"เลยครับ) ผมขอยกตัวอย่าง นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 19พย.2537 (เมื่อ18ปีที่แล้วครับ ตั้งแต่นสพ.ไทยรัฐยังราคาฉบับละ5บาทอยู่เลย) ได้ลงพาดหัวไว้ครับว่า "เปิดขุมทรัพย์รมต.ผัก-แฉทักษิณรวย6หมื่นล้าน" ตามรูปที่แสดงนี้ครับ ก็ถือว่าเป็นข้อมูล2ด้านที่ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิงนะครับ”
แต่โดยชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ สวนกลับด้วยข้อมูลการโกหกกลางศาลของทักษิณ ทำให้คำว่า “ปิตุฆาต” ถูกใช้อธิบายพฤติกรรมของพานทองแท้
“ผมเห็นว่าด้วยความที่นายพานทองแท้รักพ่อและไปค้นเอกสารเมื่อปี 2537 มาเปิดนั้น ผมอยากบอกว่า นายพานทองแท้ทำปิตุฆาตบิดาตัวเองเสียแล้ว เพราะสิ่งที่นำมาเปิดเผยนั้น ถือเป็นหลักฐานชิ้นดีที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณซุกหุ้น เพราะเมื่อปี 2537 ท่านมีทรัพย์สินอยู่ 6 หมื่นล้าน แต่พอปี 2540 ทั้งตระกูลมี 23,878 ล้านบาท นี่เป็นตัวเลขที่ตรงกับการดำเนินการฟ้องร้องคดีซุกหุ้นในเวลาดังกล่าว”
"ผมว่าวันนี้คุณโอ๊คขยันผิดที่ไปนิดนึง ทำให้รู้ว่าพ่อคุณโอ๊คซุกหุ้นจริง ผมไม่แน่ใจว่าวันนี้พ่อตัดออกจากกองมรดกหรือยัง ผมขอขอบคุณที่พยายามให้ข้อมูลแก่พรรคประชาธิปัตย์อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ทีมกฎหมายของพรรคว่า จะได้หารือกันถึงเรื่องนี้ว่า สามารถดำเนินการฟ้องร้องอย่างไรได้บ้าง" นายชวนนท์กล่าว
หลังจากนั้นชวนนท์ ก็ตกเป็นจำเลยของพานทองแท้ทันที
พานทองแท้ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวตอบโต้นายชวนนท์ อย่างดุเดือดว่า "...จะนำทฤษฎีหมากัดอย่าว่าหมา ให้ด่าเจ้าของ มาประยุกต์ใช้กับคนบางจำพวกอย่างเคร่งครัด มาแรงแค่ไหนเจ้าของก็รับไปแรงแค่นั้น ดีมั้ยครับ จนกว่าหัวหน้าเขาจะไปสอนลูกน้องเองว่าให้หยุดก้าวล่วงผู้อื่น เช่น กรณีที่ลูกน้องมาด่าผมว่าเป็นลูกหมายังไม่ฉีดวัคซีน ก็จะตอบว่า เก็บวัคซีนไปฉีดตัวที่โตเต็มวัยแล้วดีกว่า จะได้ไม่เพี้ยนไปกัดจ่าตำรวจ (ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ) อีก..."
"...กรณีที่นายชวนนท์มาบอกว่าจะโกรธมากกว่า ถ้าผมถามว่าพ่อมึงโกงเหรอ ผมว่าคุณกลับไปให้คุณกรณ์ รองหัวหน้าพรรคฯ คุณเป็นคนถามดีกว่า เพราะพ่อคุณกรณ์เป็นคนปลดพ่อคุณ ไม่ใช่ผมเห็นแต่ข่าวในเวปเขียนไว้ว่า มานะศักดิ์ อินทรโกมาลย์สุต กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ ถูก ไกรศรี จาติกวณิช ประธานกรรมการฯ ปลด ให้ขนของออกไปภายใน 24 ชั่วโมง และถูกแจ้งจับในคดีอาญาและฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในทางคดีแพ่ง สาเหตุเพราะการบริหารงานธนาคารผิดพลาดล้มเหลวและส่อไปในทางที่ไม่สุจริต ทำให้ธนาคารได้รับความเสียหายร่วม 2,000 ล้านบาท ถ้าข่าวนี้เป็นจริงส่วนมากมักเป็นไปได้อยู่ 2 กรณีครับ 1) คือโกงจริงเลยโดนปลดออก 2) คือโดนกลั่นแกล้งปลดออกอย่างไม่เป็นธรรม..."
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พานทองแท้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เพราะเกิดไม่ทัน แต่นักข่าวสมัยนั้นอาจจะพอจำเรื่องราวบางตอนได้บ้าง !!!
ชวนนท์ตอบกลับไปถึงกึ๋นของพานทองแท้ว่า “เป็นการพูดที่ทำให้เห็นระดับสติปัญญาของนายพานทองแท้ เมื่อโต้แย้งโดยเหตุผลไม่ได้ จึงใช้การกล่าวหาแทน และยังใช้ข้อมูลผิดๆ มากล่าวหาบิดาของผมด้วย”
ชวนนท์ ได้นำหลักฐานการนำเสนอข่าวจากสื่อมวลชนในปี 2533 ที่ระบุว่า นายมานะศักดิ์ บิดาของตนพ้นทุกข้อกล่าวหาจากคำตัดสินของศาล พร้อมกับระบุว่า พ่อของตนต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมทุกอย่าง สู้ทุกศาล ไม่หนีออกนอกประเทศ และสิ่งที่เกิดขึ้นคือพ่อตนชนะทุกคดี แสดงให้เห็นว่านายพานทองแท้ใช้ข้อมูลที่ผิดพลาด
"ผมอยากบอกว่า พ่อของทุกคนไม่มีใครนิสัยเหมือนพ่อนายพานทองแท้ หลังจากนั้นพ่อผมลงสู่การเมืองได้รับเลือกเป็น ส.ส. ไม่มีอะไรด่างพร้อย ศาลตัดสินแล้วให้ชนะคดี การที่นายพานทองแท้เอาเรื่องอย่างนี้มาพูด ทำให้เห็นว่าได้พ่อมาเต็มร้อย คือไม่ถนัดชี้แจง ถนัดแต่กล่าวหาคนอื่น ผมถามหลายคำถามเกี่ยวกับทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น แต่ตอบไม่ได้ ไปค้นข้อมูลผิดๆ มาโจมตีพ่อผม ถ้ายังทำอย่างนี้ต่อ พ่อนายพานทองแท้ไม่มีทางได้กลับเมืองไทย มีลูกฝีมืออย่างนี้ พ.ต.ท.ทักษิณเหนื่อยแน่ และผมเชื่อมีกี่แสนล้านก็โดนนายพานทองแท้ผลาญหรือโดนต้มหมดแน่ จึงเป็นห่วงแทนอาณาจักรชินคอร์ปจะล่มสลายในรุ่นลูกไม่ใช่รุ่นหลาน” นายชวนนท์กล่าว
จินตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสื่อในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ เคยให้นิยามพานทองแท้กรณีวิจารณ์อุดมการ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า “อย่างนี้เขาเรียกว่า ใจตุ๊ด แค่เล็บขบนิดนึงก็ร้องไห้แล้ว ผมว่ากลับไปนอนสบายๆ ในบ้านจันทร์ส่องหล้าแอร์เย็นๆ ดีกว่า"
พฤติกรรมการโกงพานทองแท้ ยังสามารถดูได้จากข้อเท็จจริงของเหตุการ์เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2545
นักข่าวในวันนั้นรายงานว่า ช่วงสายของวันนี้(29ส.ค.45 ) ได้รับแจ้งจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่า ในการสอบวิชาประจำภาคของคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้มีการทุจริตข้อสอบเกิดขึ้นในการสอบวิชา PS 421 การศึกษาระบบการเมืองเชิงวิเคราะห์ ซึ่งนักศึกษาที่ถูกจับทุจริตข้อสอบนั้น ปรากฏว่าคือ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเข้าสอบที่ตึก VKB 402
นายวิโชติ วัณโน อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของนายพานทองแท้ กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่อง จึงได้โทรศัพท์สอบถามเรื่องนี้ไปยังอาจารย์ผู้คุมสอบ และทราบว่า นายพานทองแท้ ได้นำกระดาษลอกเนื้อหาของวิชานั้นเข้าไปห้องสอบวิชา และถูกอาจารย์ผู้คุมสอบจับได้ ซึ่งความผิดเบื้องต้นจะต้องถูกปรับให้สอบตกทุกวิชา ซึ่งหากสอบสวนแล้วมีการทุจริตจริงก็จะต้องดำเนินการไปตามระเบียบ ไม่มีการยกเว้น
สำหรับวิชา PS 421 ซึ่งเป็นวิชาการศึกษาระบบการเมืองเชิงวิเคราะห์ ซึ่ง นายวิโชติ อธิบายว่าเป็นวิชาที่เรียนไม่ยากนัก เพียงแต่นายพานทองแท้ เคยลงเรียนวิชานี้ แต่สอบไม่ผ่านมาครั้งหนึ่งแล้ว การสอบครั้งนี้จึงเป็นการสอบซ่อมครั้งใหม่
พฤติกรรมไม่เอาไหนของพานทองแท้ยังแสดงออกตั้งแต่เรียนรร.เตรียมอุดม
มีโพสต์ข้อความไว้บนเว็บไซต์ว่า “คนเขาโพสต์ไว้ ว่าเคยเรียน เตรียมอุดม พานทองแท้นั้น ไม่เคย ทำอะไรให้ใคร นักเรียน เตรียมอุดม ....??? พานทองแท้นั้น ไม่เคย ทำอะไรให้ใคร
นักเรียนเตรียมอุดม รุ่นเดียวกันจะขอแฉครับ...
ขอยกตัวอย่างพอเป็นสังเขปของการแฉว่า.... เอาเหล้ามาโรงเรียน แล้วชักชวนเพื่อน ๆ ดื่มในห้องเรียน นั่นแหละ พอเมาได้ที่ก็อาละวาด ทุบอ่างล้างหน้า ในห้องน้ำ แตกเสียหาย จนอาจารย์ใหญ่ต้องเชิญ ผู้ปกครอง พอ ทักษิณ มา ก็ร่ายมนต์ สะกด บอกว่า จะบริจาคเครื่อง คอมพิวเตอร์ 100 เครื่อง เพื่อให้ พานทองแท้ ได้เรียนที่เตรียมฯ ต่อ อาจารย์ใหญ่ ต้องมนต์สะกด เครื่องคอมฯ ตั้ง 100 เครื่อง (ตามกฎโรงเรียน นักเรียน ที่เอาสุรามาดื่ม ต้องโดนไล่ออก สถานเดียว) แปลกแฮะ แค่ฑัณน์บน เฉยๆ เพิ่งรู้ว่า เครื่อง คอมฯ 100 เครื่อง สามารถ ยับยั้งปลายปากกาได้
.........ที่จริง ก็นึกว่า พานทองแท้ จะ "แน่จริง" เรื่องก็มีอยู่ว่า พรรคพวกชอบไปเที่ยว "ทอรัส" ผับดัง สมัยนั้น แล้วก็ พี้ยา มีทั้ง กัญชา ยาอี โคเคน พอเมายาได้ที่แล้วก็ชอบหาเรื่อง ชาวบ้าน ถ้าแน่จริง หน่ะ เค้าไม่ทำแบบนายหรอก ประมาณว่า เค้าไปชกคนเค้าก่อนแล้วถอยฉากหลบหลังเพื่อน ให้เพื่อนเข้าไปรุมแทน พวกเพื่อน กลุ่มนี้ มีฉายา ว่า 'องค์รักษ์ พิทักษ์ โอ๊ค" ซึ่งถามเด็กเตรียมฯ ได้เลยว่าโอ๊คมันไม่แน่จริงหรอก ไม่งั้น คงไม่มี กลุ่ม องค์รักษ์ฯ ขึ้นมาหรอก
ยังมีรายการแฉอีกจำนวนมาก แล้วคุณเชื่อไหม๊ว่า โอ๊คจะวิเคราะห์การเมืองเพื่อพ่อได้ แม้กระทั่งวิชาการศึกษาระบบการเมืองเชิงวิเคราะห์
ยังสอบตก !!!