ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ฉบับนี้ขอโยงเรื่องกีฬา มายุ่งเกี่ยวกับการเมืองบ้าง ใครที่ว่า “กีฬา” เป็นเรื่องที่การเมือง นักการเมือง หรือ พรรคการเมือง ไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยว จะมาพูดตอนนี้คงไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะขนาดนี้นักการเมือง“บ้านเลขที่ 111” หลายคนเข้ามายุ่งเกี่ยวกันเต็มตัวไม่ว่าพรรคขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก นักการเมืองบิ๊กเนม โนเนมเข้ามายุ่งเกี่ยวกันหมด จะเข้ามาเป็นประธานสโมสรบ้าง ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์บ้าง ที่ปรึกษาด้านการเงินบ้าง หรือที่ปรึกษาด้านกำลังภายในบ้างก็ยังมี
อย่าง “ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2011” ที่จบฤดูกาลไปแล้ว ได้แชมป์อย่าง “บุรีรัมย์ พีอีเอ”ของ “เนวิน ชิดชอบ” ประธานสโมสร อีกหมวกหนึ่งเป็นแกนนำผู้ก่อตั้งพรรค “ภูมิใจไทย” เอานโยบายกีฬาไปหาเสียง แม้พรรคจะตกเป็น “ฝ่ายค้าน”ในสภาผู้แทนราษฎร แต่ “บุรีรัมย์ พีอีเอ”ได้แชมป์ก็เอาน่า มีความสุขเหมือนกัน
ที่กำลังเขียนอยู่นี้ ก็ได้แชมป์ “บอลลีกคัพ”ไปแล้ว แถมยังได้ลุ้นกับ “แชมป์บอลถ้วยของค่ายรถยนต์ค่ายหนึ่ง”ถ้าได้แชมป์ 3 ถ้วย จะทำให้คนบุรีรัมย์คงชื่นใจอีกเยอะ ลืมเรื่องการเมืองไปยาวๆ แต่คนที่ชื่นใจได้ใจคนบุรีรัมย์ไปเต็มๆก็ “เนวิน ชิดชอบ”นั้นแหละ
ล่าสุด ประธานเนวิน แถลงขอซื้อหุ้นทั้งหมด 100% จาก “การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” โดยลงทุนซื้อเองหรือเปล่าไม่รู้ เพื่อให้ได้สิทธิ์เข้าแข่งขัน “ฟุตบอลเอเอฟซีแชมป์เปี้ยนลีก (ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรแห่งเอเชีย) ฤดูกาล 2012 นี้” ในนามทีม "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด"ได้หน้าในประเทศไม่พอ หน้าในระดับอาเซียน ระดับเอเชีย มันดังกล่าวว่างั้น!
แถมยังทำทีม "บุรีรัมย์ เอฟซี"ได้แชมป์ดิวิชั่น 1 ได้เลื่อนชั้นสู่ไทยพรีเมียร์ลีก แถมยังหนีบเอาทีม "ชัยนาท เอซี"ของประธานสโมสร อย่าง "เสี่ยแฮงค์" "อนุชา นาคาศัย" สมาชิกบ้าน 111 ที่ร่วมกันก่อตั้งพรรคภูมิใจไทยอีกคนหนึ่ง ขึ้นมาด้วยในฐานะรองแชมป์ คนนี้ก็แว่วมาว่า หมดไปเยอะเหมือนกันกว่าจะพา "ชัยนาท
เอฟซี"ขึ้นมาโลดแล่นได้เทียบเท่าทีมบุรีรัมย์
ทำให้ฤดูกาลหน้า 2012 จะมีทีมที่แกนนำ "ภูมิใจไทย"หนุน 2 ทีมคือ "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" กับ"ชัยนาท เอฟซี"มาแจมกับทีมเก่าๆที่มีนักการเมืองเขาจับยามสามตา แทงหวยถูกกันก่อนหานี้ จับทางถูกก่อนหน้าว่า "ฟุตบอล"จะต้องนำหน้าการเมืองอย่างแน่นอน หากทำเจ๋งๆทั้งหน้าตา เงินทอง ฐานเสียงได้รับกันเต็มๆ
ย้อนกลับไปว่า "เนวิน"ได้ "พีอีเอ"มาได้ยังไงก็คงต้องขอบคุณ "ปู่จิ้น" ชวรัตน์ ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยอดีต รมว.มหาดไทย "บุญจง วงศ์ไตรัตน์ รองหัวหน้าพรรค อดีต รมช.มหาดไทย ที่กำกับดูแล "การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค" รวมถึง "น้องชายสุดเลิฟ"อย่าง"ศักดิ์สยาม ชิดชอบ"ที่ปรึกษารมว.มหาดไทยในสมัยอยู่ในสมัยที่ร่วมงานกับรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ "เนวิน+พีอีเอ"ได้สำเร็จ โดยมีกลุ่มทุน "คิงส์ พาวเวอร์"หนุนหลัง
เพราะจากฤดูกาล 2011ที่ผ่านมา "ไทยพรีเมียร์ลีก"มีทีมที่มีนักการเมืองใหญ่ น้อยอุดหนุน ทั้งงบประมาณและกำลังภายใน อย่าง "กลุ่มชลบุรี" หรือพูดได้เต็มปากว่า "พรรคพลังชล" ของตระกูล "คุณปลื้ม" ทั้ง 3 ทีมอย่าง "ชลบุรี เอฟซี"ทีมที่ในอดีตเคยใช้งบประมาณของ องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ทีม"พัทยา ยูไนเต็ด" ที่อาจจะเคยมีงบประมาณจาก "เมืองพัทยา"สนับสนุน และทีม"ซูซูกิ ศรีราชา เอฟซี" ที่ก่อนหน้านั้น อาจจะมีงบประมาณจาก "เทศบาลบางพระ"มาสนับสนุน ทุกทีมล้วนมีกลุ่มนักการเมืองดังกล่าวเข้าไปเกี่ยวข้อง
นอกนั้นเป็นทีมของภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ และทีมส่วนราชการทั้งหมด
แต่ทีมจากส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ก็ยังไม่วายแอบมีนักการเมืองเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ เอาหน้าแต่ไม่กล้าลงทุน อย่างในอดีตที่นักการเมืองใหญ่ บ้านเลขที่ 111 เช่นกัน ตัวเองถูกตัดสิทธิ์ แต่เมียเป็นรัฐมนตรี เข้าไปหาประโยชน์ทีมรัฐวิสาหกิจ แถว ถ.แจ้งวัฒนะ มาทำเฉย เอามาหาเสียงให้กับตัวเองเฉย แถมนั่งเป็นประธานสโมสรเองด้วยซ้ำ เงินไม่เสียซักบาทได้ข่าวว่างั้น สุดท้ายเมียถูกปลดจากรัฐมนตรีเพราะพรรคตัวเองมีมติให้ออกจากรัฐบาล สุดท้ายลูกๆหลานๆไปทำทีมในจังหวัดใหญ่แถวภาคอีสาน แต่ก็ไม่วายต้องขายสิทธิ์สโมสรจังหวัดใหญ่ให้กับกลุ่มการเมืองเดิมๆของจังหวัดนั้น เพราะแกนนำเขาไปรวมพรรคกัน
ล่าสุดสโมสรนี้ ได้รองแชมป์ดิวิชั่น 2 "ลีกภูมิภาค" ได้ขึ้น "ดิวิชั่น1"ทำให้นักการเมืองใหญ่ในจังหวัดคนนั้นหน้าตาเบิกบาน ปานกับว่าทีมกำลังจะไปโลดเทียบรัศมีทีมของ "เนวิน ชิดชอบ"จังหวัดใกล้ๆกัน
อีกทีมแถวภาคเหนือ ตัวเองเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่ กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจใหญ่ โยกทีมฟุตบอลจากจังหวัดฝั่งอ่าวไทย ไปทำเอง แม้จะไม่ได้นั่งเป็นประธานสโมสรเองก็ได้หน้าในฐานะทีมจังหวัดที่ตัวเองมีฐานเสียงอยู่ แถมงบประมาณจากรัฐวิสาหกิจใหญ่ก็ลงมาทำทีมนั้นเต็มๆด้วย
หรือจะดูได้ชัดๆจาก "ฟุตบอลลีกคัพ" ที่มี "มูลนิธิไทยคม" เป็นสปอนเซอร์ "ทักษิณ ชินวัตร"เป็นผู้ก่อตั้งเอาไว้ และปัจจุบันมี "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมูลนิธิ มี"กิตติรัตน์ ณ ระนอง"รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ เป็นกรรมการมูลนิธิ ก็เป็นภาพของกีฬาที่การเมืองเข้ามาหาประโยชน์ แยกออกจากการเมืองไม่ได้
กลับมาที่ทีมพระเอกในฤดูกาลนี้ "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" แม้บทสรุปลงตัวทุกอย่างแล้ว แม้ "เนวิน"จะโบกมือลาบ๊ายบาย "การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค" จากข่าวที่ว่าเพราะระเบียบปฏิบัติของ "บริษัทไทยพรีเมียร์ลีก หรือสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย"จะบอกว่าไปขัดระเบียบข้อที่ว่า ประธานสโมสร 1 คน จะมีอยู่ใน 2 ทีม ในลีกเดียวกันไม่ได้
หรือจากข่าวก่อนหนานี้ที่ว่า การเมืองของรัฐบาลปัจจุบัน บอกให้ออก หรือบีบให้ออกก็แล้วแต่
ตอนนี้ "การไฟฟ้าฯ"ได้บ้านใหม่แล้ว หลังการแยกตัวจาก “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ พีอีเอ ก่อนหน้ามีข่าวลือหนาหูว่า "พีอีเอ"จะโยกไปซบ "จ.เชียงใหม่" อีกอย่าง "ทีมเชียงใหม่ เอฟซี" ก็กำลังจะตกชั้นไป ดิวิชั่น 2 (ลีกภูมิภาค) คนฟุตบอลพูดกันหนาหูว่า จะให้ทีมบ้านเกิดนายกยิ่งลักษณ์ หรือบ้านเกิดนายกฯทักษิณตกชั้นได้อย่างไร แถมยังมีข่าวจะไปแจมกับ "ทีมนครปฐม เอฟซี"ที่มี "ไชยา สะสมทรัพย์" อดีตส.ส.นครปฐม พรรพลังประชาชน คนบ้านเลขที่ 111 เช่นกันเป็นประธานสโมสร ที่ทีมถูกแบน 2 ปี กรณีลุมสะกรัมกรรมการ กำลังจะรอดพ้นการถูกแบน แต่สุดท้ายทั้ง 2 ทีมก็แห้วไปตามระเบียบ
ล่าสุด "พีอีเอ"เลือกไปปักหลักแดนใต้ผูกรวมกับ “วัวชนแดนใต้” ทีมสงขลา เอฟซี ในดิวิชั่น 1 (ทีมที่น่าจะเข้าป้ายอันดับที่ 5) อดขึ้นไทยพรีเมียร์ลีก
เมื่อ "พีอีเอ"ตัดสินใจควบรวมกิจการ "สงขลา เอฟซี"ก็ส้มล่นเต็มๆ แถมยังเป็นทีมจาก "ภาคใต้"ทีมแรกในฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกซะด้วย!!
ถามว่า ใครที่ทำให้ "สงขลา เอฟซี"ได้ขึ้นมาโลดแล่นแบบส้มหล่น ก็ต้องบอกว่า คนๆนั้น ก็คือ "นิพนธ์ บุญญามณี" ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ประธานสโมสรสงขลา เอฟซี นั้นเอง
ความเป็นประธานสโมสร เป็นนักการเมืองมันก็ดีอย่างนี้ละครับ แว้วมาว่า "นิพนธ์กับเนวิน"บ้าฟุตบอลพอๆกัน มีคนบอกว่า ดิวที่ "พีอีเอ" เลือก "สงขลา เอฟซี" ก็เพราะ ออฟชั่นของ "เนวิน"นี้ละ เพราะ "เนวิน ภูมิใจไทย" "นิพนธ์ ประชาธิปัตย์" สมัยก่อนก็เป็นรัฐบาลมาด้วยกัน ปัจจุบันก็เป็นฝ่ายค้านด้วยกัน
จะให้มีทีมที่มีแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานสโมสร ขึ้นมาเล่นในไทยพรีเมียร์ลักซักทีมไม่ได้หรือ
แต่จากข่าว คำให้สัมภาษณ์ส.ส.นิพนธ์ ยอมรับว่า ได้มีการพูดคุยกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจริง และตอนนี้ก็มีความ เป็นไปได้สูงเลยทีเดียวที่จะมีการวมทีมเกิดขึ้น
"ซึ่งการคุยสองครั้งที่ผ่านมาก็ดำเนินไปอย่างราบรื่นกว่า 70 เปอร์เซ็น และทั้งสองฝ่ายก็มีความต้องการที่ตรงกัน"
นอกจากนี้ประธานวัวชนยังเผยอีกว่า "ในการพูดคุยสองครั้งที่ผ่านมานั้น เบื้องต้นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสนใจที่จะเข้าร่วมทีมกับ สงขลา เอฟซี เนื่องจากมองว่าฤดูกาลที่ผ่านมาเรามีผลงานอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แม้ว่าจะไม่สามารถขึ้นไปเล่นในศึกไทยลีกได้ก็ตาม"
"รวมถึงทีมเรายังมีมาตราฐานการจัดการที่ดี ที่เห็นได้ชัดก็คือในเรื่องแฟนบอลที่เกมในบ้านฤดูกาลกาลที่ผ่านมาเฉลี่ยมากกว่าทุกทีมในดิวิชั่น 1 ซึ่งตนก็ยอมรับว่าสนใจ เช่นกันที่จะรวมกับการไฟฟ้าเพราะจะได้มีโอกาสนำทีมบ้านเกิดขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุดของประเทศให้ได้ และคิดว่าแฟนบอล สงขลา เอฟซี ก็จะเห็นด้วยอย่างแน่นอน"ส.ส.นิพนธ์ว่าไว้อย่างนั้น
ทำให้ฤดูกาลหน้า ฐานเสียง หัวคะแนน หรือกองเชียร์ ก็จะต้องพุ่งเป้าไปที่ทีม"บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" "ชัยนาท เอฟซี"ที่มีโลโก้ "ภูมิใจไทย"หนุน ทีม"สงขลา เอฟซี"ที่มี "ประชาธิปัตย์" (ภาคใต้)หนุนแถมยังมี ชลบุรี เอฟซี-พัทยา ยูไนเต็ด ที่มี "พลังชล"หนุน แต่ "พรรคเพื่อไทย" ละมีคนถามมีไหม บอกได้เลยว่า มีครับ ทีมในลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 เกือบทุกทีม มีส.ส.เพื่อไทย หนุนทั้งนั้นแถมเยอะหว่าพรรคฝ่ายค้านอีกตั้งหาก แต่ยังไม่ถึงเวลาดังเท่าทีมใหญ่ๆ
แถมขณะนี้ยังมีปัญหา "โควต้า"ของทีมสงขลา เอฟซีที่เลื่อนชั้นไปแล้ว จะให้ทีมอะไรมาแทน ก็ต้องจับตาดูว่านักการเมืองเขาจะมาแย่งสิทธิ์กันไหม บอกได้ว่า "ฝุ่นตะลบ"ครับ