"ไฟฟ้า" จูบปาก "เนวิน" บุรีรัมย์ฯโกอินเตอร์

ASTVผู้จัดการรายวัน-เนวิน ชิดชอบ เตรียมแต่งตัวนั่งตำแหน่งประธานสโมสรภายใต้ชื่อใหม่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการไปลุยศึกฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ประจำปี 2012 หลังเปิดแถลงข่าวได้ข้อสรุป 4 ประการกับทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งขอเงินบริจาค 23 ล้านบาทเพื่อช่วยสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พร้อมโอนสิทธิ์ต่อให้ สงขลา เอฟซี ขึ้นมาเล่น สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหน้า

เรื่องราวต่างๆ คาราคาซังมาตั้งแต่ปลายปี 2011 กับการที่ บุรีรัมย์ พีอีเอ แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก จะรวมร่างกับ บุรีรัมย์ เอฟซี แชมป์ดิวิชัน 1 เปลี่ยนชื่อเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพื่อป้องกันแชมป์ลีกสูงสุดของไทยฤดูกาลหน้าและแข่งขัน เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2012 เนื่องจากติดตรงที่ว่า บุรีรัมย์ พีอีเอ ยังผูกพันอยู่กับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค คือหุ้น 30 เปอร์เซ็นต์ ล่าสุดได้ข้อสรุปและมีการแถลงข่าว ณ โรงแรม สยาม ซิตี ภายใต้ชื่อ "สิทธิ์การส่งทีมไทยพรีเมียร์ลีกและเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก" โดยมี นิวัฒน์ คีรีวรรณ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าฯ และ นิพนธ์ บุญญามณี ประธานสโมสร สงขลา เอฟซี และสื่อมวลชนเป็นสักขีพยาน เนวิน ชิดชอบ ที่ตอนนี้ยังดำรงตำแหน่งประธาน บุรีรัมย์ พีอีเอ เป็นคนชี้แจงเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

ประการแรก "สโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันว่าจะโอนสิทธิ์ส่งทีมเข้าแข่งขันทุกรายการภายใต้การจัดการของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ บริษัทไทยพรีเมียร์ลีกจำกัด และสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ให้บริษัทบุรีรัมย์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำกัด (ถือเป็นนิติบุคคลของบุรีรัมย์ พีอีเอ) โดยถือเป็นการโอนสิทธิ์ขาดตลอดไปการไฟฟ้าฯ จะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวแต่อย่างใด"

ประการที่สอง "ส่วนการตอบแทนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่มอบสิทธิ์นี้ให้ บุรีรัมย์ จึงถือเป็นความร่วมมือจนทีมก้าวไปคว้าแชมป์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 บริษัทสโมสรบุรีรัมย์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำกัด จึงขอบริจาคเงิน 23 ล้านบาทให้กับการสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ให้ไปสร้างอาคารที่ทำการสโมสรต่อไป เพื่อเป็นอนุสรณ์ของความร่วมมือระหว่างกัน"

ประการที่สาม "บริษัทสโมสรบุรีรัมย์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำกัด จะมอบสิทธิ์โฆษณาประชาสัมพันธ์ การดำเนินงานและการสร้างภาพลักษณ์ของสโมสร ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคคิดเป็นมูลค่า 15 ล้านบาทเป็นเวลา 1 ปี โดยให้ใช้ ไอโมบาย สเตเดียม จัดกิจกรรมเพื่อประโยชน์ของการไฟฟ้าฯ 2 ครั้งภายในปี 2555

ประการที่สี่ "การแข่งขันทุกรายการของปี 2012 จะส่งทีมเข้าแข่งขันในนาม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่ฉายา "ปราสาทสายฟ้า" ยังเหมือนเดิม หลังจากมีปัญหานี้เกิดขึ้นมีประมาณ 4 ทีมที่ขอซื้อสิทธิ์ลงแข่ง ไทยพรีเมียร์ ลีก ของ บุรีรัมย์ เอฟซี ทว่าเวลานี้ตกลงกับการไฟฟ้าแล้ว มีความเห็นว่าจะเป็นของ สงขลา เอฟซี เหตุผลก็คือ ไทยพรีเมียร์ลีก ยังไม่มีทีมจากภาคใต้ ทำให้ลีกจะมีทีมครบทุกภูมิภาคในประเทศ อีกทั้งพิจารณาในแง่ของศักยภาพของทีมเพียบพร้อม ทั้งสนามติณสูลานนท์มีขนาดใหญ่ ฐานกองเชียร์มากกว่าไทยพรีเมียร์ลีก บางทีมด้วยซ้ำ เพื่อเป็นการเพิ่มคะแนนในการประเมินไทยลีกของเอเอฟซี"

เมื่อมีการถามถึงการโอนสิทธิ์ว่าผิดกฎหรือไม่และการไปแข่ง เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ในชื่อ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เหมือนเป็นคนละทีมกับที่ทีมได้แชมป์ลีก เนวิน ชี้แจ้งว่า "การโอนสิทธิ์ไม่ผิดกฎ เปลี่ยนชื่อก็ไม่ เพราะดำเนินการจดทะเบียนชื่อสโมสรกับกระทรวงพาณิชย์ ทางประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จดทะเบียนชื่อ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เรียบร้อยแล้ว จากนี้จะชี้แจงกับสมาคมฟุตบอลฯอีกครั้ง ที่ได้ส่งชื่อ บุรีรัมย์ พีอีเอ ไปแล้ว จากนี้ กนกศักดิ์ ปิ่นแสง กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ จะไปเวิร์คชอปกับ เอเอฟซี และชี้แจงเรื่องนี้ ซึ่งต้องขอบคุณผู้บริหารและพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทุกท่านที่ร่วมมือพัฒนาทีม บุรีรัมย์ พีอีเอ จนประสบความสำเร็จ แม้ว่าจะแยกตัวออกมาแล้ว แต่ความสัมพันธ์ของเราจะยังคงอยู่ตลอดไป"

หลัง เนวิน ชี้แจงเสร็จสิ้น นิวัฒน์ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าฯ กล่าวต่อไปว่า "ถือว่าเป็นการชี้แจงให้ทุกฝ่ายได้เข้าใจถ่องแท้ว่าขายสิทธิ์ขาดให้ บุรีรัมย์ แล้ว หลังจากนี้การไฟฟ้าก็จะโอนสิทธิ์เล่น ไทยลีก ให้ สงขลา จะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการทำทีมฟุตบอล เพราะว่าตอนนี้ลีกก้าวไปไกลระดับอาชีพแล้ว ทางเราไม่มีศักยภาพมากพอแล้ว ที่ทำได้คือส่งแข่งระดับรัฐวิสาหกิจอย่างเดียว"

ถือเป็นฉากจบที่เรียกได้ว่า เนวิน บรรลุเป้าหมายของตนเองคือรวมทีมเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และไปสร้างชื่อในศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก โดยจากนี้เหลือแค่ขั้นตอนทำหนังสือแจ้งไปยังสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพื่อรับรองการเป็นสโมสรสมาชิกก่อนดำเนินเรื่องถึง สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี)