xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“ปึ้ง”ดันทุรังคืนพาสปอร์ต“ทักษิณ” จ่อเข้าคุกเพื่อนาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างฟังการตั้งกระทู้ถามของ ส.ส.ฝ่ายค้านในสภา เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-หลังจากโดนถล่มอย่างหนักตลอดสัปดาห์ กรณีออกหนังสือเดินทางธรรมดาให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยผิดระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็ยังคงยืนกระต่ายขาเดียว อ้างว่าการออกหนังสือเดินทางดังกล่าวเป็นไปอย่างถูกต้อง

นอกจากนั้น ยังมีนายนพดล ปัทมะ ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผสมโรงช่วยอ้างเหตุผลข้างๆ คูๆ ว่า รัฐบาลชุดที่แล้วยกเลิกหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณอย่างไม่เป็นธรรม และเลือกปฏิบัติเพราะไม่ยกเลิกหนังสือเดินทางของนายสมชาย คุณปลื้ม หรือนายวัฒนา อัศวเหม ที่ต่างก็หลบหนีคดีอาญาไปอยู่ต่างประเทศเหมือนกัน และยังอ้างว่าคน 15 ล้านคนที่เลือก ส.ส.พรรคเพื่อไทยนั้นคิดเหมือนเขา

ในที่สุด เรื่องการออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณก็ถูก ส.ส.ฝ่ายค้านตั้งเป็นกระทู้สดถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในสภา เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. โดยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ชี้ประเด็นไปที่การออกหนังสือเดินทางนั้นไม่ต้องใช้สมองคิดก็รู้ว่า คนที่ต้องคำพิพากษาควรจะได้รับหนังสือเดินทางหรือไม่ และการออกหนังสือเดินทางให้ ยังแสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ก้าวพ้นการพยายามใช้อำนาจทุกช่องทางเพื่อให้ตนเองอยู่เหนือกฎหมาย

นายองอาจย้ำไปที่สถานภาพของอดีตนายกฯ ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก 2 ปี และมีหมายจับอีกหลายคดี แต่กระทรวงการต่างประเทศยังกล้าออกหนังสือเดินทางให้ โดยตั้งคำถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ยื่นคำร้องที่สถานทูตไทย ที่กรุงอาบูดาบี วันที่ 25 ต.ค.ด้วยตัวเอง และกระทรวงการต่างประเทศได้ออกเล่มให้ พ.ต.ท.ทักษิณถือพาสปอร์ตตั้งแต่วันนี้ 26 ต.ค. ตามที่นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศออกมาแถลงหรือไม่

นายสุรพงษ์ตอบกระทู้แทนนายกฯ อ้างว่า การยกเลิกหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณของรัฐบาลชุดที่แล้วเมื่อวันที่ 12 เม.ย.52 ได้อาศัยระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง ข้อ 23(7) ที่เจ้าหน้าที่สามารถยกเลิกหรือเรียกคืนบุคคลใดที่เห็นว่าอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศไทย และต่างประเทศได้ ซึ่งเมื่อตนมาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ ได้รับรายงานจากปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ส่งเรื่องให้พิจารณาออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยทำรายงานจากกรมการกงสุลผ่านปลัดกระทรวงมาถึงตน ตนได้พิจารณาและใช้ดุลพินิจฐานะรัฐมนตรีและดูนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบัน เห็นว่าการคงอยู่ต่างประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อไปไม่ได้ทำความเสียหายทั้งในและต่างประเทศ จึงขอให้เลิกคำสั่งที่ออกโดยรัฐบาลชุดที่แล้ว จากนั้นก็ดำเนินการออกหนังสือเดินทางโดยเจ้าหน้าที่กรมการกงสุลที่ต้องปฏิบัติตามระเบียบต่อไป

นายสุรพงษ์อ้างอีกว่า ในการออกหนังสือเดินทาง ฝ่ายข้าราชการไม่เคยแจ้งว่าออกไปเมื่อไหร่ แต่เมื่อมีคำถามจากฝ่ายค้าน ก็ได้รายงานมาถึงตนว่าพาสปอร์ตถูกผ่านถุงเมลส่งไปยังสถานทูตไทยในกรุงอาบูดาบี เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณเรียบร้อยแล้ว

คำชี้แจงของนายสุรพงษ์ยังไม่อาจคลายข้อสงสัยลงไปได้ เนื่องจากยังมีระเบียบกระทรวงการต่างประเทศฯ หมวด 7 การปฏิเสธหรือยับยั้งการขอหนังสือเดินทาง ข้อที่ 21 (2) ที่ระบุว่า เมื่อผู้ร้องขอหนังสือเดินทางเป็นผู้ถูกดำเนินคดีอาญา หรือถูกออกหมายจับ และ ข้อ 21(3) ที่ระบุว่าบุคคลที่ศาลหรือเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกจากราชอาณาจักร รวมทั้งเมื่อพิจารณาระเบียบฯ ทั้งหมดแล้ว ไม่มีหมวดไหนให้อำนาจ รมว.ต่างประเทศออกหนังสือเดินทางได้เอง เหมือนที่นายสุรพงษ์อ้าง

นายสุรพงษ์อ้างในสภาว่า กรมสนธิสัญญาได้เตรียมข้อมูลมาให้ว่ากรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เข้าข่ายการจะปฏิเสธการออกหนังสือเดินทางตามระเบียบ ข้อ 21 (2) โดยอ้างว่า ไม่ครบองค์ประกอบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีหมายจับในคดีต่างๆ แต่ต้องมีองค์ประกอบ 2 ข้อ คือ 1.มีหมายจับ และ 2. ศาล พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเห็นว่าไม่ควรออกหนังสือเดินทางให้ ซึ่งในกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ กรมสนธิสัญญาได้พิจารณาอย่างรอบคอบเห็นว่ายังขาดองค์ประกอบข้อ 2

ส่วนกรณีที่ไม่ใช้ระเบียบข้อ 21 (3) นายสุรพงษ์อ้างว่า เพราะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งห้าม พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางออกนอกประเทศ เมื่อวันที่ 28 ก.พ.51 เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล ต่อมาวันที่ 28 ก.ค.51 พ.ต.ท.ทักษิณได้ยื่นคำร้องขอออกนอกราชอาณาจักรเพื่อไปประเทศญี่ปุ่นและจีน ซึ่งก็ศาลอนุญาต และให้กลับมารายงานตัว 11 ส.ค.51 แต่เมื่อครบกำหนดทนายจำเลยมาแจ้งว่า จำเลยยังไม่เดินทางกลับมา ศาลจึงออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยข้อเท็จจริงข้างต้น จึงไม่น่าเป็นข้อเท็จจริงที่ศาลหรือเจ้าพนักงาน สั่งห้ามไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ตามนัยข้อที่ 21 (3) เนื่องจากศาลได้มีคำสั่งให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ชั่วคราว ประกอบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว

นั่นคือคำชี้แจงนายสุรพงษ์ในสภา แต่นอกสภานั้น นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้เตรียมยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)กลางสัปดาห์หน้า เพื่อสอบสวนเอาผิดนายสุรพงษ์ กรณีการออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณโดยมิชอบตามกฎหมาย รวมทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุด ซึ่งจะปฏิเสธว่าไม่ทราบไม่ได้ รวมถึงข้าราชการที่เกี่ยวข้องด้วย

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา เครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน ได้เข้าแสดงตนต่อ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา เพื่อขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 274 เป็นผู้ริเริ่มรวบรวมรายชื่อประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไม่ต่ำกว่า 20,000 คน เพื่อยื่นถอดถอนนายสุรพงษ์ ออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ กรณีออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณโดยผิดระเบียบของกระทรวงต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังจะพิจารณาว่าหากมีหลักฐานมากขึ้นก็จะยื่นให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดีอาญาต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว

หากกระบวนการยื่นถอดถอนและการดำเนินคดีของ ป.ป.ช.เดินหน้าไปตามขั้นตอน มีโอกาสสูงที่นายสุรพงษ์จะถูกวินิจฉัยให้มีความผิด โดยเฉพาะจากคำชี้แจงของนายสุรพงษ์ในสภาเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. กรณีที่ไม่ใช่ระเบียบข้อ 21(3) จะเป็นหลักฐานที่กลับมามัดคอนายสุรพงษ์เอง

นายสุรพงษ์รู้ทั้งรู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณฝ่าฝืนคำสั่งศาล เดินทางออกนอกประเทศแล้วไม่กลับมารายงานตัวตามกำหนดในวันที่ 11 ส.ค.51 และศาลก็ได้ออกหมายจับ แต่นายสุรพงษ์ก็ยังอ้างว่า ศาลไม่ได้มีคำสั่งห้าม พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางออกนอกประเทศ โดยอ้างว่าศาลอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศได้ตามคำขออนุญาตเมื่อวันที่ 28 ก.ค.51 ซึ่งในข้อเท็จจริง คำอนุญาตดังกล่าวถือว่าสิ้นสุดไปแล้ว เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณได้ฝ่าฝืนคำสั่งศาลไม่กลับมารายงานตัว ดังนั้น การที่กระทรวงการต่างประเทศไม่ใช้ระเบียบข้อ 21(3) ในการระงับการออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงเข้าข่ายกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

นอกจากนี้ นายสุรพงษ์ยังเคยแสดงเจตนาที่จะฝ่าฝืนกฎระเบียบโดยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ว่า จะออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ แต่ยังไม่ได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ต่อมาโฆษกกระทรวงต่างประเทศก็แถลงว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ขอหนังสือเดินทางที่กรุงอาบูดาบี เมื่อ 25 ต.ค. และกระทรวงการต่างประเทศออกให้เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ขณะที่นายนพดล ปัทมะ คนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่รู้เรื่อง

นี่คือพิรุธของการออกหนังสือเดินทางให้แก่นักโทษหนีคดีที่มีคำพากษาสิ้นสุดแล้วทั้งยังมีหมายจับติดตัวอยู่มากมาย ซึ่งนายสุรพงษ์ ในฐานะรัฐมนตรีที่รับผิดชอบโดยตรง และเป็นตัวตั้งตัวตีอย่างออกนอกหน้า คงจะหลีกหนีความผิดไปไม่พ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น