"นพเหล่" ท้า ปชป. ยื่นศาล-ป.ป.ช. หากเห็นว่าการคืนพาสปอร์ตแม้วผิดกฎหมาย ซัดไล่บี้ไม่เลิก แต่ต่างชาติเข้าใจว่าเป็นเรื่องการเมืองจึงไม่จับกุม เผยแม้วใช้พาสปอร์ตมอนเตฯ เดินทางได้ทั่วโลกอยู่แล้ว "มาร์ค" จี้นายกฯ และ ขรก. ออกมายืนยันว่าทำถูกกฎหมายหรือไม่ ขณะที่ "โฆษกศาล" ระบุ ศาลไม่มีหน้าที่เอาข้อมูลคดีถูกฟ้อง คัดค้านบัวแก้ว
เมื่อวานนี้ (18 ธ.ค.) นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ส่งแถลงการณ์มายังสื่อมวลชน ชี้แจงกรณีกระทรวงการต่างประเทศ ออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ ต้องทำใจว่าตอนนี้ไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้ว ในสมัยเป็นรัฐบาลนายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ ได้ยกเลิกหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไม่เป็นธรรม และผิดกฎหมาย เลือกปฏิบัติ เพราะไม่ยกเลิกพาสปอร์ตคนอื่นที่มีโทษหนักกว่า เช่น นายสมชาย คุณปลื้ม หรือ กำนันเป๊าะ รวมทั้ง นายวัฒนา อัศวเหม
นายนพดล กล่าวว่า รัฐบาลที่แล้ว และนายกษิต ใช้เวลากว่า 2 ปีไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณ โดยใช้เงินภาษีของประชาชน รวมทั้งเงินภาษีคนเสื้อแดงซื้อตั๋วโดยสารชั้นหนึ่ง และนอนโรงแรมชั้นหนึ่ง แต่ก็ล้มเหลว เพราะต่างประเทศเขารู้กันหมดว่า เป็นเรื่องการเมือง และหลายประเทศจึงหยิบยื่นพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ
นอกจากนั้น รัฐบาลที่แล้วยังเผยแพร่ความเท็จว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในหมายแดงของตำรวจสากล แต่เป็นความเท็จ ตำรวจสากลจึงไม่จับกุม ในขณะนี้ก็บอกว่า พ.ต.ท. ทักษิณอยู่ในบัญชีดำของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งไม่ทราบว่า เป็นบัญชีอะไร และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ทำไมข้าราชการกรมการกงสุล จึงออกหนังสือเดินทางให้ ขออย่าให้เป็นความเท็จเหมือนหมายแดง ของตำรวจสากลอีก
**"แม้ว"ถือพาสปอร์ตมอนเตฯไปได้ทั่ว
นายนพดล กล่าวว่า ขณะนี้ พ.ต.ท. ทักษิณ เดินทางโดยใช้พาสปอร์ตมอนเตเนโกร ซึ่งไปได้ทุกที่อยู่แล้ว แม้ไม่มีหนังสือเดินทางของไทย ดังนั้นการที่พ.ต.ท. ทักษิณได้พาสปอร์ตไทย ไม่ได้ทำให้ประเทศเสียหายใดๆ เลย มีแต่พรรคประชาธิปัตย์ ที่ทนเห็นการคืนความเป็นธรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ เพราะพวกตนเองไปกระทำกับเขาไว้ และถ้าเห็นว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ในการออกหนังสือเดินทาง ก็ไปดำเนินการตามกฎหมายได้เลย จะยื่น ป.ป.ช.หรือ ยื่นศาล ก็เป็นสิทธิที่ทำได้ เพราะช่วงนี้เป็นฝ่ายค้าน มีเวลามากอยู่แล้ว
นอกจากนั้นโฆษกศาลยุติธรรม ออกมาพูดชัดเจนว่า อำนาจในการออกหนังสือเดินทาง เป็นของกระทรวงการต่างประเทศ ศาลไม่เกี่ยว และฟังว่าศาลไม่เคยขอให้กระทรวง งดการออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท. ทักษิณ
ดังนั้น จึงอยากเชิญชวนให้พรรคประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่ตรวจสอบเนื้อหาสาระของนโยบายของรัฐบาล และร่วมมือในการตรวจสอบทุจริต เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์ เลิกตอดเล็กตอดน้อยรายวัน และมุ่งแต่จะทำลายความน่าเชื่อถือของคนอื่น อยากเห็นนักการเมืองเป็นเจ้าของบริษัทรับสร้างบ้าน มากกว่าบริษัทรับรื้อตึก ให้เวลารัฐบาลได้ทำงานบ้าง แต่ถ้ายังนิยมการทำงานการเมืองแนวนี้ ก็โปรดทำต่อไปตามอัธยาศัย แต่ผลการเลือกตั้งทั่วไปในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา ทำให้เห็นชัดว่าประชาชนต้องการพรรคการเมืองที่มีประสิทธิภาพในการจัดการปัญหาให้ประชาชน
**ศาลแจงไม่มีหน้าที่ค้าน"บัวแก้ว"
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าข่ายติดบัญชีดำ ในการพิจารณาออกหนังสือเดินทาง ซึ่งมีการอ้างถึงหมายศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จากเลขานุการแผนกคดีอาญา มีถึงปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.51 ที่รายละเอียดข้อหนึ่ง ห้ามจำเลย คือ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกนอกประเทศ เว้นจะได้รับอนุญาตจากศาลว่า การออกคำสั่งของศาลขณะนั้น ก็เพื่อป้องกันจำเลยหลบหนี เมื่อศาลออกคำสั่งใดๆไม่ว่าจะเป็นจำเลยสัญชาติไทย หรือต่างประเทศในคดีอุกฉกรรจ์แล้ว ก็จะต้องส่งหมายศาลแจ้งให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องรับทราบเพื่อการติดตามตัว ขณะที่หมายศาล จะมีอายุบังคับใช้เท่ากับอายุความในคดีนั้นๆ เช่น หากคดีถึงที่สุดที่ศาลมีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี คดีมีอายุความ 10 ปี
ทั้งนี้ หมายศาลที่ออกเป็นการออกคำสั่งในคดี จะไม่เกี่ยวกับการออกหนังสือเดินทาง เว้นแต่การพิจารณาออกหนังสือเดินทาง ของกระทรวงการต่างประเทศ มีหลักเกณฑ์กำหนดห้ามไว้ในเรื่องนี้ ก็ต้องไปตรวจสอบ ซึ่งการจะเพิกถอนหนังสือเดินทาง หรือออกหนังสือเดินทางเป็นอำนาจ ความรับผิดชอบกระทรวงการต่างประเทศ
นายสิทธิศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ศาลไม่มีหน้าที่จะต้องนำข้อมูลคดีใดๆ แจ้งให้กระทรวงต่างประเทศทราบ เพื่อคัดค้านการออกหนังสือเดินทาง เพราะไม่ใช่หน้าที่ศาล การจะพิจารณาออกหนังสือเดินทางเป็นหน้าที่ อำนาจ ของกระทรวงการต่างประเทศ ก็ต้องตรวจสอบข้อมูลเอง แต่ถ้าก่อนจะพิจารณาออกหนังสือเดินทาง หากกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับบคดีของบุคคลที่จะพิจารณาออกหนังสือเดินทาง เพราะมีหลักเกณฑ์กำหนดไว้ แล้วจะแจ้งขอทราบข้อมูลจากศาลยุติธรรมเกี่ยวกับคดี ก็สามารถทำได้ แต่การให้ข้อมูล จะเป็นการระบุข้อมูลทั่วไปเพียงว่า ถูกฟ้อง ดำเนินคดีใดบ้าง แต่ไม่ใช่การลงถึงรายละเอียดเนื้อหาที่ถูกดำเนินคดี เพราะจะกระทบความได้เปรียบเสียเปรียบของคู่ความทางคดีได้
**"มาร์ค"ลั่นเอาผิดขรก.ยันนายกฯ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า การออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ว่า เรายืนยันว่า สถานะของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เหมาะสมที่จะออกหนังสือเดินทางให้ และมีระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรค และทีมกฎหมาย กำลังติดตามดูรายละเอียดก่อนดำเนินการ และสิ่งสำคัญอยากตั้งข้อสังเกตว่า หากดำเนินการทุกอย่างถูกต้อง เหตุใดจึงปิดบังประชาชนตั้งแต่แรก ที่บอกว่ายังไม่ได้ดำเนินการ ทั้งๆ ที่ได้มีการดำเนินการไปแล้ว ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม
นอกจากนี้ยังมีความเห็นที่ขัดแย้งกันเอง ที่กระทรวงการต่างประเทศบอกว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ยื่นหนังสือร้องขอทำหนังสือเดินทาง ขณะที่นายนพดล ปัทมะ ทนายความ ส่วนตัวบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ทราบเรื่อง และการที่นายชวนนท์ ได้แสดงหลักฐานออกมา ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศจะต้องกลับไปทบทวนเรื่องนี้ สิ่งสำคัญคือ จะต้องกลับไปดูว่า คำขอหนังสือเดินทางมีจริงหรือไม่ และอยู่ที่ไหน อย่างไร และระบุที่อยู่อาศัยอย่างไร
ส่วนที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่าเป็นการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้นายกรัฐมนตรี ทราบแล้วว่าเรื่องเป็นอย่างไร ก็ต้องมายืนยันว่า เป็นการดำเนินการที่ถูก หรือผิด จะหนีความรับผิดชอบไม่ได้ และหากนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าถูกต้อง ก็จะต้องรับโทษไปด้วย หากมีความผิดเกิดขึ้น ซึ่งจะต้องดูตามข้อกฎหมายว่า ดำเนินการได้ถึงขั้นไหน
เมื่อถามว่า ส่วนข้าราชการประจำจะต้องรับผิดชอบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังดูก่อนว่า เมื่อมีข่าวออกมาแล้ว ทางกระทรวงที่มีหน้า ที่ยังจะยืนยันความเห็นว่าถูกหรือไม่ อย่างไร เพราะคนเหล่านี้ต้องรับผิดชอบด้วย
** "แม้ว"โผล่เนปาลทูตไทยแห่ต้อนรับ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเกียวโด นิวส์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่สนามบิน เผย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวจากประเทศพม่า ถึงท่าอากาศยานตรีภูวัน ในนครกาฑมาณฑุ ประเทศเนปาล ในวันที่ 16 ธ.ค. โดยมีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เอกอัครราชทูตไทย และเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย ได้ไปคอยให้การต้อนรับถึงที่สนามบิน
จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมด้วยคณะผู้ติดตามประมาณ 12 คน ซึ่งรวมถึงเอกอัครราชทูต ได้เดินทางไปสักการะวิหารมายาเทวี ในเมืองลุมพินี ซึ่งเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า และอยู่ห่างจากเมืองหลวงของเนปาล ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 300 กิโลเมตร
เจ้าหน้าที่สนามบิน เผยด้วยว่า แม้เราไม่ทราบแผนการเดินทางอย่างเป็นทางการ แต่เราทราบมาว่า เขาจะบินออกจากเนปาล ในวันเสาร์ ( 17 ธ.ค. )
ทางด้านเว็บไซต์ข่าวฮิมาลายันไทมส์ ของประเทศเนปาล รายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศเนปาล กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้ามาเนปาล แต่จะสอบถามไปทางทูตไทยอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในกระทรวงต่างประเทศ ยืนยันกับฮิมาลายันไทมส์ ว่า ฝ่ายไทยแจ้งเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ มาเนปาล ให้กระทรวงต่างประเทศทราบล่วงหน้าหลายสัปดาห์แล้ว แต่ทางการเนปาล พยายามปิดเป็นความลับ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีสถานะเป็นนักโทษหนีคดีติดตัวอยู่.
เมื่อวานนี้ (18 ธ.ค.) นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ส่งแถลงการณ์มายังสื่อมวลชน ชี้แจงกรณีกระทรวงการต่างประเทศ ออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ ต้องทำใจว่าตอนนี้ไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้ว ในสมัยเป็นรัฐบาลนายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ ได้ยกเลิกหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไม่เป็นธรรม และผิดกฎหมาย เลือกปฏิบัติ เพราะไม่ยกเลิกพาสปอร์ตคนอื่นที่มีโทษหนักกว่า เช่น นายสมชาย คุณปลื้ม หรือ กำนันเป๊าะ รวมทั้ง นายวัฒนา อัศวเหม
นายนพดล กล่าวว่า รัฐบาลที่แล้ว และนายกษิต ใช้เวลากว่า 2 ปีไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณ โดยใช้เงินภาษีของประชาชน รวมทั้งเงินภาษีคนเสื้อแดงซื้อตั๋วโดยสารชั้นหนึ่ง และนอนโรงแรมชั้นหนึ่ง แต่ก็ล้มเหลว เพราะต่างประเทศเขารู้กันหมดว่า เป็นเรื่องการเมือง และหลายประเทศจึงหยิบยื่นพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ
นอกจากนั้น รัฐบาลที่แล้วยังเผยแพร่ความเท็จว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในหมายแดงของตำรวจสากล แต่เป็นความเท็จ ตำรวจสากลจึงไม่จับกุม ในขณะนี้ก็บอกว่า พ.ต.ท. ทักษิณอยู่ในบัญชีดำของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งไม่ทราบว่า เป็นบัญชีอะไร และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ทำไมข้าราชการกรมการกงสุล จึงออกหนังสือเดินทางให้ ขออย่าให้เป็นความเท็จเหมือนหมายแดง ของตำรวจสากลอีก
**"แม้ว"ถือพาสปอร์ตมอนเตฯไปได้ทั่ว
นายนพดล กล่าวว่า ขณะนี้ พ.ต.ท. ทักษิณ เดินทางโดยใช้พาสปอร์ตมอนเตเนโกร ซึ่งไปได้ทุกที่อยู่แล้ว แม้ไม่มีหนังสือเดินทางของไทย ดังนั้นการที่พ.ต.ท. ทักษิณได้พาสปอร์ตไทย ไม่ได้ทำให้ประเทศเสียหายใดๆ เลย มีแต่พรรคประชาธิปัตย์ ที่ทนเห็นการคืนความเป็นธรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ เพราะพวกตนเองไปกระทำกับเขาไว้ และถ้าเห็นว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ในการออกหนังสือเดินทาง ก็ไปดำเนินการตามกฎหมายได้เลย จะยื่น ป.ป.ช.หรือ ยื่นศาล ก็เป็นสิทธิที่ทำได้ เพราะช่วงนี้เป็นฝ่ายค้าน มีเวลามากอยู่แล้ว
นอกจากนั้นโฆษกศาลยุติธรรม ออกมาพูดชัดเจนว่า อำนาจในการออกหนังสือเดินทาง เป็นของกระทรวงการต่างประเทศ ศาลไม่เกี่ยว และฟังว่าศาลไม่เคยขอให้กระทรวง งดการออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท. ทักษิณ
ดังนั้น จึงอยากเชิญชวนให้พรรคประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่ตรวจสอบเนื้อหาสาระของนโยบายของรัฐบาล และร่วมมือในการตรวจสอบทุจริต เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์ เลิกตอดเล็กตอดน้อยรายวัน และมุ่งแต่จะทำลายความน่าเชื่อถือของคนอื่น อยากเห็นนักการเมืองเป็นเจ้าของบริษัทรับสร้างบ้าน มากกว่าบริษัทรับรื้อตึก ให้เวลารัฐบาลได้ทำงานบ้าง แต่ถ้ายังนิยมการทำงานการเมืองแนวนี้ ก็โปรดทำต่อไปตามอัธยาศัย แต่ผลการเลือกตั้งทั่วไปในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา ทำให้เห็นชัดว่าประชาชนต้องการพรรคการเมืองที่มีประสิทธิภาพในการจัดการปัญหาให้ประชาชน
**ศาลแจงไม่มีหน้าที่ค้าน"บัวแก้ว"
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าข่ายติดบัญชีดำ ในการพิจารณาออกหนังสือเดินทาง ซึ่งมีการอ้างถึงหมายศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จากเลขานุการแผนกคดีอาญา มีถึงปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.51 ที่รายละเอียดข้อหนึ่ง ห้ามจำเลย คือ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกนอกประเทศ เว้นจะได้รับอนุญาตจากศาลว่า การออกคำสั่งของศาลขณะนั้น ก็เพื่อป้องกันจำเลยหลบหนี เมื่อศาลออกคำสั่งใดๆไม่ว่าจะเป็นจำเลยสัญชาติไทย หรือต่างประเทศในคดีอุกฉกรรจ์แล้ว ก็จะต้องส่งหมายศาลแจ้งให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องรับทราบเพื่อการติดตามตัว ขณะที่หมายศาล จะมีอายุบังคับใช้เท่ากับอายุความในคดีนั้นๆ เช่น หากคดีถึงที่สุดที่ศาลมีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี คดีมีอายุความ 10 ปี
ทั้งนี้ หมายศาลที่ออกเป็นการออกคำสั่งในคดี จะไม่เกี่ยวกับการออกหนังสือเดินทาง เว้นแต่การพิจารณาออกหนังสือเดินทาง ของกระทรวงการต่างประเทศ มีหลักเกณฑ์กำหนดห้ามไว้ในเรื่องนี้ ก็ต้องไปตรวจสอบ ซึ่งการจะเพิกถอนหนังสือเดินทาง หรือออกหนังสือเดินทางเป็นอำนาจ ความรับผิดชอบกระทรวงการต่างประเทศ
นายสิทธิศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ศาลไม่มีหน้าที่จะต้องนำข้อมูลคดีใดๆ แจ้งให้กระทรวงต่างประเทศทราบ เพื่อคัดค้านการออกหนังสือเดินทาง เพราะไม่ใช่หน้าที่ศาล การจะพิจารณาออกหนังสือเดินทางเป็นหน้าที่ อำนาจ ของกระทรวงการต่างประเทศ ก็ต้องตรวจสอบข้อมูลเอง แต่ถ้าก่อนจะพิจารณาออกหนังสือเดินทาง หากกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับบคดีของบุคคลที่จะพิจารณาออกหนังสือเดินทาง เพราะมีหลักเกณฑ์กำหนดไว้ แล้วจะแจ้งขอทราบข้อมูลจากศาลยุติธรรมเกี่ยวกับคดี ก็สามารถทำได้ แต่การให้ข้อมูล จะเป็นการระบุข้อมูลทั่วไปเพียงว่า ถูกฟ้อง ดำเนินคดีใดบ้าง แต่ไม่ใช่การลงถึงรายละเอียดเนื้อหาที่ถูกดำเนินคดี เพราะจะกระทบความได้เปรียบเสียเปรียบของคู่ความทางคดีได้
**"มาร์ค"ลั่นเอาผิดขรก.ยันนายกฯ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า การออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ว่า เรายืนยันว่า สถานะของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เหมาะสมที่จะออกหนังสือเดินทางให้ และมีระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรค และทีมกฎหมาย กำลังติดตามดูรายละเอียดก่อนดำเนินการ และสิ่งสำคัญอยากตั้งข้อสังเกตว่า หากดำเนินการทุกอย่างถูกต้อง เหตุใดจึงปิดบังประชาชนตั้งแต่แรก ที่บอกว่ายังไม่ได้ดำเนินการ ทั้งๆ ที่ได้มีการดำเนินการไปแล้ว ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม
นอกจากนี้ยังมีความเห็นที่ขัดแย้งกันเอง ที่กระทรวงการต่างประเทศบอกว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ยื่นหนังสือร้องขอทำหนังสือเดินทาง ขณะที่นายนพดล ปัทมะ ทนายความ ส่วนตัวบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ทราบเรื่อง และการที่นายชวนนท์ ได้แสดงหลักฐานออกมา ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศจะต้องกลับไปทบทวนเรื่องนี้ สิ่งสำคัญคือ จะต้องกลับไปดูว่า คำขอหนังสือเดินทางมีจริงหรือไม่ และอยู่ที่ไหน อย่างไร และระบุที่อยู่อาศัยอย่างไร
ส่วนที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่าเป็นการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้นายกรัฐมนตรี ทราบแล้วว่าเรื่องเป็นอย่างไร ก็ต้องมายืนยันว่า เป็นการดำเนินการที่ถูก หรือผิด จะหนีความรับผิดชอบไม่ได้ และหากนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าถูกต้อง ก็จะต้องรับโทษไปด้วย หากมีความผิดเกิดขึ้น ซึ่งจะต้องดูตามข้อกฎหมายว่า ดำเนินการได้ถึงขั้นไหน
เมื่อถามว่า ส่วนข้าราชการประจำจะต้องรับผิดชอบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังดูก่อนว่า เมื่อมีข่าวออกมาแล้ว ทางกระทรวงที่มีหน้า ที่ยังจะยืนยันความเห็นว่าถูกหรือไม่ อย่างไร เพราะคนเหล่านี้ต้องรับผิดชอบด้วย
** "แม้ว"โผล่เนปาลทูตไทยแห่ต้อนรับ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเกียวโด นิวส์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่สนามบิน เผย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวจากประเทศพม่า ถึงท่าอากาศยานตรีภูวัน ในนครกาฑมาณฑุ ประเทศเนปาล ในวันที่ 16 ธ.ค. โดยมีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เอกอัครราชทูตไทย และเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย ได้ไปคอยให้การต้อนรับถึงที่สนามบิน
จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมด้วยคณะผู้ติดตามประมาณ 12 คน ซึ่งรวมถึงเอกอัครราชทูต ได้เดินทางไปสักการะวิหารมายาเทวี ในเมืองลุมพินี ซึ่งเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า และอยู่ห่างจากเมืองหลวงของเนปาล ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 300 กิโลเมตร
เจ้าหน้าที่สนามบิน เผยด้วยว่า แม้เราไม่ทราบแผนการเดินทางอย่างเป็นทางการ แต่เราทราบมาว่า เขาจะบินออกจากเนปาล ในวันเสาร์ ( 17 ธ.ค. )
ทางด้านเว็บไซต์ข่าวฮิมาลายันไทมส์ ของประเทศเนปาล รายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศเนปาล กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้ามาเนปาล แต่จะสอบถามไปทางทูตไทยอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในกระทรวงต่างประเทศ ยืนยันกับฮิมาลายันไทมส์ ว่า ฝ่ายไทยแจ้งเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ มาเนปาล ให้กระทรวงต่างประเทศทราบล่วงหน้าหลายสัปดาห์แล้ว แต่ทางการเนปาล พยายามปิดเป็นความลับ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีสถานะเป็นนักโทษหนีคดีติดตัวอยู่.