“อภิสิทธิ์” จี้เช็กใครขอ “นช.แม้ว” เข้าญี่ปุ่น แย้มให้ฝ่ายกฎหมาย ปชป.จ่อฟัน “สุรพงษ์” แล้ว สับอำนวยความสะดวกให้คนหนีคดี เตือน “ยิ่งลักษณ์” ช่วยชาวบ้านก่อน รับตำรวจสากลไม่ออกหมายจับคดีที่ดินรัชดาฯ จริง โบ้ยตำรวจ-อัยการไม่สานต่อฟันก่อการร้าย
วันนี้ (16 ส.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ทางการญี่ปุ่นอนุญาตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้ายเดินทางข้าประเทศได้ว่า เรื่องนี้คงต้องมีการดำเนินการว่าใครเป็นผู้เข้าไปดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ของไทยมีหน้าที่ในการที่ปฏิบัติตามกฎหมาย ฝ่ายค้านจะตรวจสอบต่อไปว่าเป็นใคร อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางการญี่ปุ่นมีระเบียบว่าห้ามผู้ที่ต้องโทษ เข้าประเทศนั้น เราต้องดูจากคำชี้แจงของเขา เพราะทางเจ้าหน้าที่ทางการของไทยเองเป็นผู้เข้าไปร้องขอ ก็คงจะต้องมีการตรวจสอบและดำเนินการ ซึ่งการที่ พ.ต.ท.ทักษิณสามารถเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ แสดงให้เห็นว่ามีการไปดำเนินการในส่วนของทางการไทย ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เพราะเรามีหน้าที่ในการที่จะปกป้องระบบกฎหมายของเรา เมื่อศาลไทยมีการวินิจฉัยตัดสิน ไม่ว่าใครจะพอใจหรือไม่ก็ตาม คนที่เป็นฝ่ายบริหารมีหน้าที่ในการที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามหลักการนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ จะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร เพราะเป็นเจ้ากระทรวงที่ไปขอเข้าพบทูตญี่ปุ่น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องเป็นเรื่องที่ต้องมีการดำเนินการ ซึ่งตนได้ให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ดูอยู่ว่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างไร โดยต้องดูในข้อเท็จจริงว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้าง แต่ในทางกฎหมายถ้ามีการไปดำเนินการก็ไม่เหมาะสม ส่วนจะเข้าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ตนเห็นว่าใครก็ตามที่เป็นเจ้าหน้าที่ และแทนที่จะเดินหน้าในการทำให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์ กลับไปช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้แก่คนหลบหนีคดี ก็มีความผิด ตนคิดว่ารัฐบาลต้องมีความชัดเจน ส่วนตามระเบียบ หรือการตัดสินใจของญี่ปุ่น เราไม่ทราบว่าเขามีหลักเกณฑ์กติกา และวิธีปฏิบัติอย่างไร แต่ในส่วนของฝ่ายเราเป็นสิ่งที่จะต้องรับผิดชอบต่อประชาชน
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยืนยันมาตลอดว่าเรื่องช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีในนโยบยาย แต่ขณะนี้สิ่งแรกที่ทำคือการดำเนินการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนอยากจะเตือนรัฐบาลว่าความคาดหวังของประชาชนคือการมาเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งความจริงไม่จำเป็นต้องมีการตัดสินใจเชิงนโยบายที่ซับซ้อนมากนัก เช่น เรื่องน้ำท่วม หรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ ในการกำกับดูแลเรื่องราคาสินค้า สิ่งเหล่านี้เป็นความคาดหวังของประชาชน แต่ข่าวที่ได้ยินกลายเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
เมื่อถามว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณสามารถเริ่มต้นที่ประเทศญี่ปุ่นได้ ในประเทศอื่นก็จะต้องมีการดำเนินการในลักษณะนี้อีก นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนคิดว่าเราจะตรวจสอบในเรื่องการดำเนินการทางกฎหมาย และคิดว่าคงจะต้องมีการปราม ไม่ให้ทำอย่างนี้อีก เมื่อถามต่อว่า รัฐบาลยังไม่ได้แถลงนโยบาย แต่กลับมาดำเนินการในฐานะที่เป็นรัฐบาล นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องนโยบายหรือไม่ แต่เป็นเรื่องที่ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายเพราะฉะนั้นเราคงต้องดำเนินการ
ส่วนเรื่องตำรวจสากลในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์มีการดำเนินการหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง 2 ส่วน คือ 1.คดีที่ตัดสินจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ เกี่ยวกับที่ดินรัชดาภิเษก มีการขอไปแต่ทางต่างประเทศเห็นว่าความผิดทางกฏหมายของเราไม่สามารถเทียบเคียงต่างประเทศได้ เพราะเป็นบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ที่ขัดกันทางตำรวจสากล จึงไม่ออกหมายจับ ส่วนกรณีคดีการก่อการร้ายทางดีเอสไอ ได้ส่งเรื่องให้ตำรวจและอัยการ ซึ่งปรากฏว่าจนถึงวันนี้ทางตำรวจอัยการยังดำเนินการไม่เสร็จ
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ทางตำรวจออกมาระบุว่าได้ส่งเรื่องไปแล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เขาประสานไปทางอัยการ เห็นว่ามีปัญหาในเรื่องการแปลข้อความ เข้าใจว่า เป็นความกังวลที่เกิดจากกรณีแรกว่าทำอย่างไรให้ความผิดต่างๆสามารถเทียบเคียงได้ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องไปติดตามและเร่งรัดต่อ เมื่อถามย้ำว่าเป็นความกังวลหรือตั้งใจที่จะถ่วงเรื่องเพื่อไม่ดำเนินการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ทราบชัดเจนว่าเรื่องอยู่ที่อัยการหรือตำรวจ ทราบแต่เพียงว่ามีการประสานงานกันไปมา แต่คิดค้างอยู่
เมื่อถามว่า ถือเป็นความสะเพร่าของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์หรือไม่ ที่ไม่ติดตามเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องยอบรับว่าเราไม่ได้ทราบชัดเจนว่าขั้นตอนดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้วหรือไม่ เพราะเมื่อดีเอสไอส่งไปเข้าใจว่าตำรวจและอัยการก็ว่าไปตามกระบวนการ