“ยิ่งลักษณ์” เผย “โอบามา” โทร.ยินดีนั่งนายกฯ ชู กต.สร้างสัมพันธ์อาเซียนหาประโยชน์ร่วม แนะประชาชนให้เวลา “สุรพงษ์” พิสูจน์ตัวเอง โอ่สุดทุ่มเท เข้าใจงานระหว่างประเทศ เชื่อเจ้าหน้าที่ป้อนข้อมูลได้ ยันใช้หลักเจรจาป้องอธิปไตย ปัดสั่งช่วย “นช.แม้ว” ยันรู้มานานแล้วตำรวจสากลเมินฟันพี่ชาย - ขอดูงบก่อนจ่าย 10 ล้านทำศพเหยื่อเผาเมืองหรือไม่
วันนี้ (15 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้โทรศัพท์สายตรงถึงตนว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แสดงความยินดีตามปกติ และยินดีที่ประเทศไทยมีการเลือกตั้งอย่างสร้างสรรค์ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นประชาธิปไตยของประเทศไทยให้ก้าวสู่ความปรองดอง และทางสหรัฐอเมริกาเองได้ให้ความสำคัญแก่ประเทศไทยมาก รวมถึงการทำงานร่วมกันของกลุ่มอาเซียน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งดีที่เราได้กระชับความสัมพันธ์ไมตรีเพิ่มขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ เมื่อถามต่อว่าจะทำอย่างไรให้เรากลับไปเป็นหนึ่งในอาเซียนได้อีกครั้ง นายกฯ กล่าวว่า เราต้องช่วยกัน วันนี้ด้านกระทรวงการต่างประเทศได้เร่งสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในอาเซียน และคงจะหารือกันในเชิงผลประโยชน์ของอาเซียนเพื่อร่วมมือกันในด้านต่างๆ แต่ขณะนี้ยังมีอีกหลายความร่วมมือที่จะต้องติดตามดูว่าสิ่งไหนเป็นประโยชน์ ก็จะเร่งรัดนำมาดำเนินการทันที
เมื่อถามว่า นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ต่างประเทศได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อยากให้พี่น้องประชาชนให้เวลาพิสูจน์ ซึ่งตลอดที่ผ่านมานายสุรพงษ์ เป็นคนที่ทุ่มเทการทำงาน มีความรู้ ความสามารถ อยากให้ท่านทำงานไปได้สักระยะหนึ่งก่อน เมื่อถามต่อว่า แต่เริ่มต้นผลสำรวจโพลประชาชนก็ยี้แล้วสำหรับ รมว.ต่างประเทศ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อยู่ที่ความตั้งใจ และผลงาน คำแนะนำหรือเสียงสะท้อนจากประชาชนก็เป็นสิ่งที่ต้องให้เวลาท่านทำงานเพื่อพิสูจน์ผลงาน เมื่อถามต่อว่าจุดเด่นที่ทำให้เลือกนายสุรพงษ์ดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า จุดเด่นของท่านคือทุ่มเทการทำงาน เคยผ่านงานบริษัทที่เป็นบริษัทระดับสากลมา การทำงานในด้านต่างประเทศมีบทบาทหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสร้างสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์ด้านการค้า และมีความเข้าใจพื้นฐานในการติดต่อระหว่างประเทศด้วย ซึ่งท่าน รมว.ต่างประเทศก็มีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างดี ส่วนทางด้านการทูตที่นายสุรพงษ์ถูกมองว่าไม่มีประสบการณ์นั้น เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสามารถให้ความรู้ในเรื่องต่างๆ ได้ และที่สำคัญถ้าทำงานเป็นทีมเวิร์ก และมีข้อมูลจากทีมงานก็สามารถนำข้อมูลจากทีมงานมาพิจารณาและทำอย่างเต็มที่
ต่อกรณีปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาที่ยังเป็นปัญหาอยู่จะเดินหน้าคลี่คลายเรื่องนี้อย่างไร โดยเฉพาะปัญหาบริเวณแนวชายแดน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เราต้องมองเป็น 2 ส่วน ซึ่งในส่วนของกรณีข้อพิพาทเป็นประเด็นที่ต้องใช้การหารือ และวิธีทางการเจรจาทางการทูต โดยที่เราต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศชาติ และไม่ให้เสียอธิปไตยของประเทศชาติ ส่วนเรื่องของการค้าขายก็ขอให้เกิดการค้าขายตามแนวชายแดนตามปกติ เมื่อถามว่าจะลบคำครหาอย่างไรที่มีการระบุว่ารัฐบาลฝั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ยกปราสาทพระวิหารให้กัมพูชาขึ้นทะเบียน นายกฯ กล่าวว่า ทุกอย่างเราจะทำเพื่อปกป้องประเทศ และไม่ให้สูญเสียประเทศชาติ เราจะทำตรงนี้อย่างเต็มที่เพื่อประเทศไทยด้วย เมื่อถามต่อว่าจะสานต่อในสิ่งที่รัฐบาลชุดที่แล้วดำเนินการมาหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตรงนี้เป็นประเด็นที่ค่อยข้างที่จะละเอียดอ่อน ต้องใช้เวลาหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ และผู้ที่มีความรู้ เมื่อถามว่าจะอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ช่วยเจรจาด้วยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ใช้ลักษณะการเจรจาสัมพันธ์ทางการทูต คิดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรกับกรณีที่มีข่าวว่าตำรวจสากลถอนหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เท่าที่ทราบข่าวมานานแล้ว มีการขอข้อมูลจากการต่างประเทศ แต่ทางตำรวจสากลก็ไม่ได้ดำเนินการอะไร และตนก็ไม่ได้มีนโยบายอะไรสั่งการในใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อถามว่า มีการมองว่าการที่เป็นรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำให้อะไรง่ายขึ้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่หรอกคะ ทุกคนก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองพิจารณาเพื่อให้เกิดเป็นหลักนิติธรรม
ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ระบุว่าจะขอนายกฯ ชดเชยให้กับทหาร และคนเสื้อแดงที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการชุมนุมรายละ 10 ล้านบาทของผู้ที่เสียชีวิตนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว่า คงเป็นเรื่องหารือในเชิงนโยบายก่อน ส่วนในเรื่องของตัวเลขต้องคุยกันถึงเรื่องงประมาณ และความเหมาะสมก่อน