xs
xsm
sm
md
lg

“ทูตสุรพงษ์” ชี้หากนิรโทษ “แม้ว” นิติรัฐล่มสลาย คนไทยจะไม่ต่างสัตว์เดรัจฉาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ทูตสุรพงษ์” เชื่อหาก “แม้ว” ได้พาสปอร์ตคืน จะเป็นการล้มล้างความผิดทั้งหมดจนนำไปสู่นิรโทษกรรม ชี้เป็นการทำลายนิติรัฐ ซึ่งถ้าคนไทยเพิกเฉย จะต้องอยู่กันแบบไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉาน ด้าน “พิชาย” มั่นใจ “เพื่อไทย” ค่อยๆ รุกคืบทดสอบเสียงต่อต้าน หากรับมือได้ไปถึงขั้นนิรโทษกรรมแน่

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “คนเคาะข่าว”  

เมื่อเวลา 20.30 น. นายสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูต 5 ประเทศ และ รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว” โดยมี นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ

ดร.พิชาย กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจสากลไม่เคยขึ้นหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า เรื่องนี้ตัวละครที่ออกมาดูแปลกๆ อัยการก็ออกมาแถลงว่ารอกระทรวงต่างประเทศแจ้งที่อยู่ พ.ต.ท.ทักษิณ พอไม่ทราบก็เลยไม่สามารถประสานการส่งผู้ร้ายข้ามแดน แสดงว่ากระทรวงการต่างประเทศผิดที่ไม่ยอมส่งข้อมูลให้ ทีนี้ทำไมอัยการต้องรอทั้งๆที่ก็เป็นหน้าที่ แทนที่จะไปขอกระทรวงต่างประเทศแล้วทำไมถึงไม่ประสาน อย่างตอนนี้แน่ชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณไปญี่ปุ่น ทำไมไม่ประสานญี่ปุ่นให้จับกุมที่สนามบินก็ได้

พอมาดูที่กระทรวงต่างประเทศ มีคำถามว่าทำไมไม่ทำงาน ทำไมไม่ส่งรายละเอียดให้อัยการ หรือไม่มีคนทำงานเรื่องนี้ หรือทำแล้วแต่ว่าไม่มีปัญญารู้ว่านายทักษิณอยู่ที่ไหน หรือรู้แต่ปิดปากไว้ ปล่อยให้ล่วงเลยมา 2 ปี

ทีนี้มาดูอินเตอร์โพล ไทยส่งเรื่องไป 2 ครั้งตอนปี 52 และ 53 ส่งไปปรากฎว่าตำรวจสากลบอกว่าเป็นคดีการเมือง จึงไม่ยอมขึ้นบัญชีแดง ซึ่งเมื่ออินเตอร์โพลตอบมาแบบนี้ ทำไมรัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่อธิบายว่ามันเป็นคดีเกี่ยวกับการคอร์รัปชัน การก่อการร้าย เป็นไปได้หรือไม่ว่ารัฐบาลคงกลัวเสียเวลาสู้กับเสื้อแดง หรือขี้เกียจ ไม่มีปัญญา เมื่อเป็นอย่างนี้ตอนนี้เลยสร้างความสับสน เพราะเมื่อก่อนเราเข้าใจว่าพ.ต.ท.ทักษิณถูกขึ้นทะเบียนอินเตอร์โพล แต่ก็ไม่ยอมบอกเลย ปกปิดประชาชนมา 2 ปี น่าสนใจว่าเกิดอะไรขึ้น ประชาธิปัตย์เคยยืนยันว่าขึ้นบัญชีแดงแล้ว แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติบอกไม่เคย คงต้องพิสูจน์กันหน่อยว่าใครโกหก

ดร.พิชายกล่าวอีกว่า เป็นเรื่องที่คนในรัฐบาลประชาธิปัตย์ อาจไม่ได้มองว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นอาชญากร กลัวอีกฝ่ายกลับมามีอำนาจจะโดนสวนกลับ เลยซูเอี๋ยกัน ระบบการเมืองมันเลยเป็นระบบที่ล้มละลาย ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ใช่แค่นายทักษิณ นักการเมืองคนอื่นที่หนีคดีด้วย ได้ตามกันหรือเปล่า อันนี้สะท้อนภาพชัดว่าบรรดานักการเมืองวางเฉยเรื่องพวกนี้ เป็นการบ่งบอกอันหนึ่งของรัฐที่ล้มเหลว เพราะรัฐที่มีประสิทธิภาพต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก

สังคมไทยจงรักภักดีต่อตัวบุคคลมาอันดับแรก ต่อมาคือพรรค หรือองค์กร ส่วนความจงรักภักดีต่อประเทศชาติมาหลังสุด แต่ถ้าประเทศอื่นจงรักภักดีต่อประเทศต้องมาก่อน นายสุรพงษ์กล่าวว่า ถ้าหนังสือเดินทางนี่ผ่านไป มันจะไปสู่เรื่องการนิรโทษกรรม ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็อาจไปหาทางออกจากการทำประชามติ อันนี้ก็คือเผด็จการของเสียงข้างมาก ซึ่งอันนี้นิติรัฐจะไม่มีความหมายเลย

กลับมาดูว่า 2 ปีที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์ไม่ได้ใช้อำนาจที่ตัวเองมีอยู่ช่วงชิงพื้นที่ในการล้มล้างชุด ความคิดที่พลังประชาชนผลิตขึ้นมาเลย แสดงว่าที่เห็นพรรคการเมืองทะเลาะกัน แต่จริงๆแล้วมีผลประโยชน์ร่วมกัน คือตกลงกันผลัดกันเลือกตั้ง ใครชนะก็อย่ามาเล่นงานอีกฝ่าย ทำให้ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์ต้องการจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาจริงหรือเปล่า เพราะกลัวฐานอำนาจไม่มั่นคง ให้อยู่นอกประเทศอุ่นใจกว่า ต่อหน้าก็บอกว่าดำเนินการ เพียงเพื่อลดกระแสกดดันจากประชาชนเท่านั้น

นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า อินเตอร์โพลมองว่าเป็นคดีการเมือง สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนก็ไม่ส่งคดีการเมืองกัน แม้ไม่เอาชื่อขึ้นพอเข้าใจได้ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณไปอยู่ไหน รัฐบาลประชาธิปัตย์สามารถพูดได้ว่า อยู่ประเทศนั้นได้แต่ต้องไม่ให้เคลื่อนไหวทางการเมือง อันนี้เป็นหลักสากลเลย ถ้าเขายังให้ทำต้องตัดความสัมพันธ์ทางการทูต แต่นี่ไม่เคยทำเลย ความจริงแล้วอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณไปเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจให้กัมพูชา ยังไม่ร้ายแรงเท่ากับการที่ผู้ต้องหาไทยหลายคนพักพิงอยู่ที่นั่น ท่าทีไทยยังเป็นอย่างนี้เลยจะโทษต่างชาติไม่ได้

นายสุรพงษ์กล่าวอีกว่า คิดว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์พยายามเอาใจทุกฝ่าย กระทั่งเสื้อแดงก็ตาม เลยไม่จัดการเด็ดขาด หวังดึงคะแนนเหนือ-อีสานมาได้บ้าง สรุปได้ว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ที่ผ่านมา คิดแต่จะอยู่ในตำแหน่งเท่านั้น ไม่ได้คิดว่าจะอยู่ในอำนาจไม่อย่างนั้นต้องคิดแล้วว่าอะไรถูกอะไรผิด สิ่งที่เราเห็นอยู่เป็นเพียงภาพลวงตา ภาพจริงจะค่อยๆเผยออกมา

ดร.พิชายกล่าวว่า การคืนพาสปอร์ต พ.ต.ท.ทักษิณเป็นไปได้ และก้าวต่อไปอาจวางนิรโทษกรรมให้ วางแผนเป็นขั้นๆ เพื่อทดสอบการต่อต้าน ถ้าควบคุมแรงต้านได้ก็จะไปอีกขั้นหนึ่งเรื่อยๆ

นายสุรพงษ์กล่าวเสริมว่า ถ้าคืนพาสปอร์ตก็จะเท่ากับไปลบล้างข้อกล่าวหาที่ พ.ต.ท.ทักษิณโดนทั้งหมด จะรองรับความชอบธรรมในการนิรโทษกรรมได้ ซึ่งต้องชี้แจงที่มีความผิดมา 2 ปี กลายเป็นอย่างนี้ คำตอบคืออะไร แสดงว่านิติรัฐไม่มีแล้ว ประเทศไทยมนุษย์ปกครองกันเองแล้ว ไม่ใช่กฎหมายปกครองมนุษย์ อันตรายมากสิ่งนี้

นายสุรพงษ์กล่าวอีกว่า ตามหลักรัฐศาสตร์ มนุษย์คือสัตว์การเมือง ต้องการระบบใดระบบหนึ่งมาควบคุมให้เคารพกฎหมายเพื่อการอยู่ร่วมกัน ฉะนั้นประเทศไทยจะเป็นอย่างไรต้องกลับมาเป็นสัตว์การเมืองให้ได้ ถ้าคนไทยยังเห็นว่าธุระไม่ใช่ ไม่ใช่สัตว์การเมืองแต่คือสัตว์เดรัจฉาน ไม่มีนิติรัฐทุกสิ่งทุกอย่างล่มสลาย ประชาธิปไตยที่ทุกคนเรียกร้องอยากได้ แต่ประชาธิปไตยอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีนิติรัฐ

ถ้าเรายอมรับว่าประชาธิปไตยคือเสียงข้างมาก ถ้าเพื่อไทยไม่สามารถตัด พ.ต.ท.ทักษิณไปได้ เราจะเห็นเสียงข้างมากทำลายประชาธิปไตยในประเทศไทย เขาจะใช้ประชาธิปไตยเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย

ดร.พิชายกล่าวว่า มันมีนักการเมืองคอยบั่นทอนประชาธิปไตยมาตลอด วิธีคิดแบบประชาธิปไตยมันเลยเติบโตไม่ได้ในไทย ตอนนี้ก็จะอาศัยหลักประชาธิปไตยหลักหนึ่งทำลายหลักอื่น คือประชาธิปไตยมีหลายองค์ประกอบต้องสอดคล้องกลมกลืนกันไปถึงจะพัฒนาได้ บางสังคมก็ยึดเอาหลักใดหลักหนึ่งโดยทำลายหลักอื่น อย่างไทยใช้เสียงข้างมาทำลายนิติรัฐ และเป็นมากกว่าที่อื่นๆ ท้ายที่สุดเราจะคิดแต่ว่าเป็นประชาธิปไตยโดยหลอกตัวเอง หลอกชาวบ้าน ทั้งๆ ที่เนื้อหาไม่ใช่เลย



กำลังโหลดความคิดเห็น