เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการรายวัน - รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศออกวีซ่าให้อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร หลังรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำเรื่องร้องขอผ่านไปยังกรุงโตเกียว ให้อนุญาต “พี่ชาย” เข้าประเทศได้ "นพดล" โวนช.แม้วใช้พาสปอร์ตมอนเตเนโกร เดินทางไปประเทศไหนก็ได้ ยันอินเตอร์โพลไม่เคยออกหมายจับ "แม้ว" ด้าน "สุรพงษ์" อ้างกต.ยังไม่ได้คืนพาสปอร์ตแดง แต่ถ้าจะให้ก็เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายอยู่แล้ว "มาร์ค" ชี้ญี่ปุ่นมีสิทธิ์ให้วีซ่าเตือนจะมีความผิด ขณะที่นักวิชาการชี้ การตั้งทักษิณเป็นทูตการค้า ก็แค่แผนจะคืนพาสปอร์ตแดง
ทักษิณ จะพำนักอยู่ในญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 22-28 สิงหาคมนี้ โดยจะไปเยือนพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ซึ่งได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวและสึนามิ เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลไทย ระบุว่า การไปเยือนของ ทักษิณ จะช่วยยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
“รัฐบาลไทย มีนโยบายที่จะไม่ปิดกั้นการเดินทางเยือนประเทศต่างๆ ของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ และขอให้ญี่ปุ่นออกวีซ่าให้” เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นบอกกับผู้สื่อข่าว ทั้งนี้ในระบบการเมืองของแดนอาทิตย์อุทัยนั้น เลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าโฆษกรัฐบาล และเป็นบุคคลที่ถือว่าทรงอิทธิพลที่สุดในคณะรัฐบาลรองจากนายกรัฐมนตรีเท่านั้น
“เมื่อได้รับคำขอจากรัฐบาลไทย และมีการพิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องแล้ว เราจึงตัดสินใจออกวีซ่าให้”
ตามกฎหมายแล้ว ญี่ปุ่นจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่มีความผิดในคดีอาชญากรรม หรือถูกตัดสินจำคุกเกิน 1 ปี เข้าประเทศ ทว่า ก็มีการยกเว้นเป็นกรณีพิเศษในบางโอกาส
***นพเหล่ชี้แม้วใช้พาสปอร์ตมอนเตฯ
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า การเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่นของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อบรรยายถึงบทบาททางธุรกิจของเศรษฐกิจโลก ได้มีการเชิญมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยภารกิจที่สำคัญ คือการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวญี่ปุ่น และจะมีการเดินทางไปเพื่อบรรยายถึงบทบาททางธุรกิจของเศรษฐกิจโลก ประมาณ 2 ชั่วโมง ในวันที่ 23 ส.ค.นี้ ซึ่งจะมีนักธุรกิจ และผู้สื่อข่าวประมาณ 150 คน เข้าร่วมรับฟังการบรรยาย ส่วนในวันที่ 24 ส.ค. จะมีการบรรยายเกี่ยวกับการเกิดเหตุสึนามิ และแผ่นดินไหว
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับเชิญก่อนที่พรรคเพื่อไทย จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง และ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
นายนพดล กล่าวว่า การเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่น ก็เป็นการเดินทางโดยใช้พาสปอร์ตของประเทศมอนเตเนโกร จึงไม่จำเป็นว่าจะต้องมีพาสปอร์ตแดง หรือ พาสปอร์ตของประเทศไทย แต่การใช้พาสปอร์ตของประเทศไทยนั้นเป็นการแสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงเป็นประชาชนสัญชาติไทย ในเวลานี้การเมืองในประเทศไทย กำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยที่เบ่งบาน เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าหลายๆ ประเทศ ก็เริ่มมีการเพิกถอนคำสั่งห้ามเข้าประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเช่น ประเทศเยอรมนี
ส่วนการที่ประเทศญี่ปุ่น เพิ่งจะตัดสินใจออกวีซ่าให้ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายนพดล กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าการออกวีซ่านั้น ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการเดินทางไปเจรจาของ รมว.ต่างประเทศ เพราะทุกประเทศย่อมมีสิทธิออกวีซ่าให้กับใครก็ได้อยู่แล้ว
** อ้างอินเทอร์โพลไม่เคยออกหมายจับ"แม้ว"
นายนพดล ยังกล่าวถึงกรณี กระแสข่าวอินเตอร์โพลได้ยกเลิกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า การเสนอข่าวนั้นคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เพราะอินเทอร์โพลไม่เคยออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ แม้ในรัฐบาลที่ผ่านมาจะใช้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานกับสำนักงานใหญ่ของอินเตอร์โพล ที่เมือง ลียง ประเทศฝรั่งเศส แต่อินเทอร์โพลไม่เคยออกหมายจับ หรือที่เรียกว่า เรดโนติสต์ เพราะเขาเห็นว่า คดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคดีทางการเมือง จึงไม่เคยมีการออกหมายจับใดๆ ตนจึงอยากจะให้นายปณิธาน วัฒนายากร ศึกษาหาข้อมูลให้ถูกต้องก่อนจะให้สัมภาษณ์ เพราะการให้ข้อมูลเท็จ ไม่น่าจะเป็นวิธีการปรองดอง และเป็นการเล่นการเมืองแบบไม่สร้างสรรค์
** ยันพาสปอร์ตแดงทำตามขั้นตอนกม.
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่มีหลายฝ่ายกังวลในการคืนพาสปอร์ตแดงให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ออกมาแถลงแล้วว่า ไม่ได้มีการเตรียมการให้มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด แต่หากในอนาคตทางกระทรวงเห็นว่า ต้องมีการหยิบยกเรื่องนี้มาดำเนินการ ตนก็ต้องการบอกสังคมว่าไม่ต้องเป็นห่วง และยืนยันว่าตนจะทำทุกอย่างตามขั้นตอนของกฏหมายที่ถูกต้อง โดยจะยึดหลักจารีตประเพณีที่ดีของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ ควรจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าราชการประจำ
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ก็ไม่ได้มีนโยบายในเรื่องนี้ เพราะนโยบายของรัฐบาลชุดนี้จะต่างกับนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา โดยการเน้นไปที่เรื่องของการค้าเป็นหลัก
ส่วนการขอวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ทางตนได้ทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้องขอวีซ่าด้วยตนเอง และทางการของประเทศญี่ปุ่น ก็ออกให้แล้ว
ส่วนคำวิจารณ์ที่ระบุว่า ตนช่วยภารกิจทักษิณ เร็วเกินไปนั้น ขอยืนยันว่า ญี่ปุ่นได้มีการเชิญมาก่อนแล้ว เชื่อหลายประเทศขณะนี้เปิดตัวในการให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้เข้าประเทศบ้างแล้ว ส่วนข่าวที่รัฐบาลชุดที่แล้วได้มีการออกหมายจับนั้น ตนต้องไปดูข้อเท็จจริงด้วยว่า มีการออกหมายจับจริงหรือไม่
**อัยการรอก.ต่างประเทศ แจ้งที่อยู่แม้ว
นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่ประเทศญี่ปุ่น อนุญาตให้พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศได้ ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณ อาจเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น ตามที่ได้รับเชิญจากสถาบันการศึกษาของประเทศญี่ปุ่นแห่งหนึ่งให้ไปเป็นวิทยากร และเยี่ยมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิว่า หากพ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นแล้ว การติดตามตัวเพื่อส่งผู้ร้ายข้ามแดน อัยการต้องรอให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งที่อยู่ที่ชัดเจน ขณะพ.ต.ท.ทักษิณ พักอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นมาให้อัยการก่อน ซึ่งถือเป็นขั้นตอนปฏิบัติทุกกรณีอยู่แล้ว เพราะหากยังไม่ทราบที่อยู่ชัดเจน อัยการก็ไม่สามารถที่จะระบุรายละเอียด เพื่อทำหนังสือเพื่อประสานขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ โดยอัยการไม่สามารถที่จะใช้ข้อมูลทั่วไปที่ปรากฏแค่ในหน้าหนังสือพิมพ์ หรือสื่อต่างๆ ได้
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำรัฐบาล แล้วการติดตามตัวส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีปัญหาหรือไม่ นายศิริศักดิ์ กล่าวว่า การติดตามจำเลย หรือนักโทษคดีต่างๆ อัยการก็ยึดหลักปฏิบัติเช่นเดียวกันนี้ ที่ต้องให้กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งรายละเอียดที่อยู่ที่ชัดเจนมาให้ โดยปกติหากจะมีการติดตามตัว กระทรวงการต่างประเทศก็จะประสาน หารือกับอัยการ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานใดๆ ซึ่งข้าราชการประจำ ก็ต้องทำหน้าที่ของตนตามหลักการที่มีอยู่แล้ว ส่วนรัฐบาลจะมีนโยบายอย่างไร ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มารับโทษ ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาในคดีซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก เป็นเวลา 2 ปี ได้ทันภายในอายุความ 10 ปี นับจากที่ศาลตัดสินเมื่อปี 2551 นายศิริศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งอัยการก็ทำตามหน้าที่เท่าที่กฎหมายให้อำนาจ ไม่ใช่ว่าจะนิ่งเฉย แต่ต้องรอให้กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งข้อมูลมาให้ด้วย
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล จะยกเลิกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายศิริศักดิ์ กล่าวปฏิเสธว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ แต่โดยหลักเจ้าหน้าที่ตำรวจสากลไม่ได้มีอำนาจที่จะออก หรือเพิกถอนหมายจับ ซึ่งหมายจับจะเป็นของประเทศสมาชิกนั้นที่ออกมาแล้วประสานกับตำรวจสากล ให้ช่วยในการติดตามตัว โดยเรื่องนี้น่าจะต้องติดตามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยอีกครั้งว่า มีการประสานเรื่องนี้กับตำรวจสากลอย่างไร หรือไม่ เพราะหากจะมีการยกเลิกเข้าใจว่า อาจเป็นหนังสือแจ้งประสานความร่วมมือ ไม่ใช่หมายจับ
นายศิริศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่จะมีการพิจารณาคืนหนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต ) ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า การพิจารณาจะคืนเล่มพาสปอร์ตได้หรือไม่ กระทรวงการต่างประเทศ คงต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ อัยการไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้โดยตรง ถ้าจะมีการหารือกับอัยการ ก็คงเป็นเรื่องข้อกฎหมายมากกว่า และการประสานข้อมูลที่อัยการรับผิดชอบคดีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกศาลฎีกาฯ ตัดสิน
**อินเตอร์โพลไม่ได้ออกหมายจับ
ด้านพล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวอินเตอร์โพล ถอนหมายแดง ( Red notice ) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า กองการต่างประเทศ เคยร้องขอไปยังอินเตอร์โพล สำนักงานใหญ่ที่ประเทศฝรั่งเศส ให้พิจารณาขึ้นหมายแดง พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อ 2 ปีก่อน แต่ทางอินเตอร์โพล ไม่ได้ขึ้นหมายแดงให้ และมีหนังสือตอบกลับมาว่า กรณีของพ.ต.ท.ทักษิณไม่เข้าเงื่อนไขการประกาศหมายแดงของทางอินเตอร์โพล หลังจากนั้น ทางกองการต่างประเทศ ก็ไม่ได้ร้องขอไปอีก จึงยืนยันได้ว่า ไม่มีการร้องถอนหมายแดง แต่อย่างใดเพราะอินเตอร์โพลไม่เคยขึ้นหมายแดง พ.ต.ท.ทักษิณ มาก่อน
**เตือนใครช่วย"แม้ว"จะมีความผิด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ทางการญี่ปุ่น ออกวีซ่าให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้าประเทศญี่ปุ่นว่า เป็นเรื่องของทางการญี่ปุ่น ที่จะอนุญาตให้พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศหรือไม่ แต่สิ่งที่ต้องตรวจสอบต้องดูว่า มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีที่มีรายงานว่า รมว.ต่างประเทศ ได้พบปะกับเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ก่อนหน้านี้ และมีการขอความร่วมมือให้อำนวยความสะดวกให้ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีปัญหาเรื่องหลบหนีคดีอยู่
"หากมีเจ้าหน้าที่บุคคลใดอำนวยความสะดวกให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะมีความผิดตามกฎหมายด้วย โดยเฉพาะกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ระบุว่าได้พบกับทูตญี่ปุ่น เพื่อขอให้อำนวยความสะดวกให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็กำลังหนีคดีอาญาอยู่ "
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ควรอภิปรายอย่างกว้างขวาง เนื่องจากขณะนี้ประชาชนไทยยังไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากรัฐบาลชุดใหม่ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณกลับได้ประโยชน์แล้ว
เมื่อถามถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศตัวเป็นทูตการค้ากับประเทศตะวันออกกลาง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าความหมายเป็นอย่างไร ที่ผ่านมาเห็นแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำธุรกิจส่วนตัว และการที่พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่ารัฐบาลของตน ติดต่อกับประเทศในตะวันออกกลางน้อย ก็ไม่เป็นความจริง เพราะตอนเป็นรัฐบาลได้เพิ่มพูนการค้าการลงทุน เชื่อมสัมพันธ์กับประเทศเหล่านี้ ซึ่งมีหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ที่จะมาลงทุนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
**"สัก"ไม่วิจารณ์ถอนหมายจับ"ทักษิณ"
นายสัก กอแสงเรือง ส.ว.สรรหา อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวปฏิเสธที่จะให้ความเห็น ภายหลังที่มีข่าวว่าอินเตอร์โพลล์ได้ถอนหมายจับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาให้จำคุก 2 ปีว่า ตนในฐานะสมาชิกวุฒิสภาจะสามารถให้ความเห็นได้ต่อเมื่อวุฒิสภา ได้หยิบยกมาพิจารณา หรือตรวจสอบเท่านั้น เนื่องจากตนเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาดขึ้นได้
ทั้งนี้ไม่กลัวการเชคบิลย้อนหลังจากเป็นรัฐบาลเพื่อไทยแน่นอน ส่วนจะมองว่าการถอนหมายจับครั้งนี้ เป็นการทำงานที่สูญเปล่าหรือไม่นั้น นายสัก กล่าวว่า ช่างมัน เราได้ทำหน้าที่ของเราแล้ว เมื่อพ้นจากตำแหน่ง คตส. ก็ถือว่าหมดหน้าที่แล้ว
**ตั้ง“แม้ว”ทูตการค้า แค่แผนคืนพาสปอร์ต
นายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลเตรียมแต่งตั้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งทูตการค้าว่า ต้องตรวจสอบดูว่า การแต่งตั้งตำแหน่งดังกล่าวนั้นมีลักษณะการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ หรือเป็นเพียงตำแหน่งลอยๆ เพราะหากมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ได้รับเงินเดือน หรือมีลักษณะคล้ายกับทูตพาณิชย์ จำเป็นต้องพิจารณาคุณสมบัติ อาทิ มีสัญชาติไทย ไม่ต้องโทษจนพิพากษาจำคุก หรือมีความเชี่ยวชาญงานที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น แต่หากเป็นการแต่งตั้งเป็นตำแหน่งลอยๆ เรื่องของคุณสมบัติ ก็ไม่ต้องนำมาพิจารณาร่วม สามารถแต่งตั้งได้ตามความรู้สึก ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ผิดกฎหมาย แต่ไม่เหมาะสม
" เรื่องนี้ผมมองว่า การแต่งตั้งทูตการค้า เพื่อเปิดช่องคืนหนังสือเดินทางทางการทูต หรือพาสปอร์ตแดงให้กับอดีตนายกฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางไปเจรจาเรื่องการค้าตามประเทศต่างๆ และเมื่ออดีตนายกฯได้รับตำแหน่งแล้ว มีความเป็นไปได้ที่จะเดินทางไปเจรจาการค้าในธุรกิจที่ครอบครัว หรือตนเองได้ดำเนินการ" นายทวีเกียรติ กล่าว
**ยันไม่ได้สั่งการถอนหมายจับทักษิณ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า ตำรวจสากลถอนหมายจับพ.ต.ท.ทักษิณ แล้วว่า เท่าที่ทราบข่าวนี้มีมานานแล้ว มีการขอข้อมูลจากการต่างประเทศ แต่ทางตำรวจสากล ก็ไม่ได้ดำเนินการอะไร และตนก็ไม่ได้มีนโยบายในการสั่งการใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า มีการมองว่าการที่เป็นรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำให้อะไรง่ายขึ้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่หรอกคะ ทุกคนก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองพิจารณาเพื่อให้เกิดเป็นหลักนิติธรรม
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม กล่าวถึงการคืนพาสสปอร์ตแดงให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจากหน่วยงานด้านความมั่นคงก่อน เพราะเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งท่านสามารถทำได้เอง โดยหารือกับรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ไม่ต้องผ่านกระทรวงกลาโหม