“อธิบดีอัยการต่างประเทศ” เผยตามตัว “นช.ทักษิณ” ส่งผู้ร้ายข้ามแดนต้องรอ ก.ต่างประเทศ แจ้งที่อยู่ชัดเจน อาศัยแค่ข่าวลงสื่อไม่ได้ ย้ำ เป็นข้าราชการประจำทำหน้าที่กฎหมายกำหนดอยู่แล้ว ส่วนกรณีคืนพาสปอร์ต เป็นหน้าที่ก.ต่างประเทศ ต้องยึดหลักเกณฑ์ที่มี อัยการแค่ให้ข้อมูลทางคดี
วันนี้ (15 ส.ค.) นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่ ประเทศญี่ปุ่นอนุญาตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าประเทศได้ ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น ตามที่ได้รับเชิญจากสถาบันการศึกษาของประเทศญี่ปุ่นแห่งหนึ่งให้ไปเป็นวิทยากร และเยี่ยมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นแล้ว การติดตามตัวเพื่อส่งผู้ร้ายข้ามแดนอัยการต้องรอให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งที่อยู่ที่ชัดเจนขณะ พ.ต.ท.ทักษิณ พักอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นมาให้อัยการก่อน ซึ่งถือเป็นขั้นตอนปฏิบัติทุกกรณีอยู่แล้ว เพราะหากยังไม่ทราบที่อยู่ชัดเจนอัยการก็ไม่สามารถที่จะระบุรายละเอียดเพื่อทำหนังสือเพื่อประสานขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ โดยอัยการไม่สามารถที่จะใช้ข้อมูลทั่วไปที่ปรากฏแค่ในหน้าหนังสือพิมพ์ หรือสื่อต่างๆ ได้
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาล แล้วการติดตามตัวส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ต.ท.ทักษิณจะมีปัญหาหรือไม่ นายศิริศักดิ์กล่าวว่า การติดตามจำเลย หรือนักโทษคดีต่างๆ อัยการก็ยึดหลักปฏิบัติเช่นเดียวกันนี้ที่ต้องให้กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งรายละเอียดที่อยู่ที่ชัดเจนมาให้ โดยปกติหากจะมีการติดตามตัวกระทรวงการต่างประเทศก็จะประสานหารือกับอัยการแต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานใดๆ ซึ่งข้าราชการประจำก็ต้องทำหน้าที่ของตนตามหลักการที่มีอยู่แล้ว ส่วนรัฐบาลจะมีนโยบายอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มารับโทษที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคดีซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก เป็นเวลา 2 ปี ได้ทันภายในอายุความ 10 ปีนับจากที่ศาลตัดสินเมื่อปี 2551 นายศิริศักดิ์ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งอัยการก็ทำตามหน้าที่เท่าที่กฎหมายให้อำนาจ ไม่ใช่ว่าจะนิ่งเฉย แต่ต้องรอให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งข้อมูลมาให้ด้วย
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล จะยกเลิกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายศิริศักดิ์กล่าวปฏิเสธว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ แต่โดยหลักเจ้าหน้าที่ตำรวจสากลไม่ได้มีอำนาจที่จะออกหรือเพิกถอนหมายจับ ซึ่งหมายจับจะเป็นของประเทศสมาชิกนั้นที่ออกมาแล้วประสานกับตำรวจสากล ให้ช่วยในการติดตามตัว โดยเรื่องนี้น่าจะต้องติดตามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยอีกครั้งว่ามีประสานเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสากลอย่างไรหรือไม่ เพราะหากจะมีการยกเลิกเข้าใจว่าอาจเป็นหนังสือแจ้งประสานความร่วมมือ ไม่ใช่หมายจับ
นายศิริศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่จะมีการพิจารณาคืนหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าการพิจารณาจะคืนเล่มพาสปอร์ตได้หรือไม่กระทรวงการต่างประเทศ คงต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ อัยการไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้โดยตรง ถ้าจะมีการหารือกับอัยการก็คงเป็นเรื่องข้อกฎหมายมากกว่า และการประสานข้อมูลที่อัยการรับผิดชอบคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกศาลฎีกาฯ ตัดสิน