ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - แม้การสิ้นพระชมน์ของเจ้าหญิงไดอานาจะผ่านพ้นไปนานกว่าทศวรรษ แต่ “เจ้าหญิงของปวงชน” พระองค์นี้ยังเป็นที่เคารพรักใคร่ของชาวอังกฤษและคนทั่วโลกอย่างไม่เสื่อมคลาย สะใภ้หลวงคนใหม่ของราชวงศ์อังกฤษอย่าง แคทเธอรีน มิดเดิลตัน จะต้องถูกนำไปเปรียบเทียบกับสาวน้อยผมบลอนด์ผู้เลอโฉม ซึ่งเคยเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส เมื่อปี 1981 อย่างไม่ต้องสงสัย
สมาชิกราชวงศ์วินด์เซอร์เองต่างก็รู้สึกเหนื่อยหน่ายกับความพยายามเปรียบเทียบคนทั้งสอง จนกระทั่งเจ้าชายวิลเลียมทรงออกพระโอษฐ์หลังการหมั้นหมายกับ เคต ว่า “ไม่มีใครจะมาแทนที่มารดาของข้าพเจ้า”
การอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลสและเจ้าหญิงไดอานานับเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงในชีวิตคู่ของคนทั้งสอง ซึ่งจบลงด้วยการที่ต่างฝ่ายต่างมีคนใหม่ นำไปสู่การหย่าร้าง และโศกนาฎกรรมสุดสะเทือนใจ เมื่อเจ้าหญิงทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์สิ้นพระชนม์ที่กรุงปารีส เมื่อปี 1997
แม้เรื่องราวของเจ้าหญิงไดอานาอาจไม่ช่วยปลอบประโลมใจว่าที่สะใภ้หลวงอย่าง เคต แต่นักวิจารณ์หลายคนกลับมองว่า สตรีทั้งสองมีความแตกต่างมากกว่าความเหมือน
แม็กซ์ คลิฟฟอร์ด ประชาสัมพันธ์แถวหน้าของอังกฤษซึ่งเป็นตัวแทนผู้มีชื่อเสียงหลายคนกล่าวว่า แม้ เคต จะไม่ได้เกิดในตระกูลชนชั้นสูง แต่เธอก็ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี และมีคนรอบข้างที่เข้าใจการทำงานของสื่อยุคใหม่ เคตทราบดีว่าจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง เธอจึงน่าจะปรับตัวเข้ากับชีวิตในวังได้ดีกว่าเจ้าหญิงไดอานาเมื่อครั้งทรงอภิเษกสมรสใหม่ๆ
ขณะที่เจ้าหญิงไดอานาทรงมีโอกาสทำความคุ้นเคยกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลสเพียง 6 เดือนก่อนการอภิเษกสมรส เคต กับ เจ้าชายวิลเลียมใช้เวลาคบหาดูใจถึง 8 ปี ซึ่งอันที่จริงแล้ว เคต รอคอยให้เจ้าชายทรงเอ่ยปากขอแต่งงานมานานมาก จนสื่อบางแขนงถึงกับตั้งฉายาให้เธอว่า “เคต ผู้เฝ้ารอ” (Waity Katy) ซึ่งกับเรื่องนี้ คลิฟฟอร์ด มองในแง่ดีว่า ระยะเวลาที่ยาวนานจะช่วยให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
เจ้าชายวิลเลียม และ เคต คบหากันแบบหนุ่มสาวสมัยใหม่ ทั้งคู่เคยอาศัยอยู่ด้วยกันระหว่างเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เซนต์ แอนดรูส์ ในสกอตแลนด์ และเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เคต ก็ติดตามเจ้าชายไปพำนักที่เกาะแองเกิลซีย์ในแคว้นเวลส์ เนื่องจากพระองค์ต้องเสด็จไปปฏิบัติภารกิจนักบินค้นหาและช่วยชีวิตที่นั่น
ด้วยวัย 29 ปี เคต ผ่านประสบการณ์ชีวิตก่อนแต่งงานมากกว่าเจ้าหญิงไดอานา ซึ่งเข้าพิธีอภิเษกสมรสเมื่ออายุได้เพียง 20 ปี และทรงอ่อนวัยกว่าเจ้าฟ้าชายชาร์ลสถึง 12 ปี ขณะที่เจ้าชายวิลเลียมทรงมีพระชนมายุห่างจากพระคู่หมั้นเพียง 5 เดือนเท่านั้น
ขณะที่เจ้าหญิงไดอานาทรงลาออกจากโรงเรียนก่อนจะสำเร็จการศึกษา และทรงเคยทำงานเพียงเล็กน้อยในศูนย์รับเลี้ยงเด็ก เคต มีดีกรีเป็นถึงบัณฑิตสาขาประวัติศาสตร์ศิลปะจากมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆของอังกฤษ แต่อย่างไรก็ตาม อาชีพผู้จัดซื้อเครื่องประดับที่ เคต ทำหลังเรียนจบ และธุรกิจจำหน่ายสินค้าสำหรับงานรื่นเริงของครอบครัวมิดเดิลตัน ก็ถูกนักวิจารณ์ติเตียนว่าเป็นงานที่ไร้แก่นสาร
เคต ยังมีช่วงชีวิตวัยเด็กที่อบอุ่นและเปี่ยมสุขกว่าเจ้าหญิงไดอานา เธอสนิทกับมารดาและน้องสาว ปิปปา ซึ่งจะทำหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวคนสนิทให้กับเธอในวันเสกสมรสด้วย ขณะที่บิดามารดาของเจ้าหญิงไดอานาหย่าร้างกันตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์
นอกจากนี้ เคต ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อบรรดาสื่อมวลชน ซึ่งเคยไล่ติดตามเจ้าหญิงไดอานาจนนำไปสู่อุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ปลิดพระชนม์ชีพลงในปี 1997
ฮูโก วิกเกอร์ส นักประวัติศาสตร์ราชวงศ์ ให้ความเห็นว่า พระราชวงศ์อังกฤษน่าจะพึงพอใจในตัว เคต ซึ่งเป็นสตรีที่ฉลาดมีไหวพริบ และมีวุฒิภาวะมากกว่าเจ้าหญิงไดอานา เคตเป็นคนรอบคอบ ไม่ถึงกับมั่นใจในตัวเอง แต่ก็เชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองทำ และเหนือสิ่งอื่นใด เธอเป็นคนที่รู้ใจเจ้าชายวิลเลียมดีที่สุด
เจ้าหญิงไดอานาทรงมีรูปโฉมงดงาม มีเสน่ห์ดึงดูด และเป็นที่รักใคร่ของผู้คนทั่วโลก ทรงโดดเด่นเหนือพระบรมวงศานุวงศ์คนอื่นๆด้วยการปฏิบัติภารกิจด้านการกุศลอย่างต่อเนื่อง และทรงเป็นที่สนใจของประชาชนแม้จะหย่าขาดจากพระสวามีแล้วก็ตาม แต่บางครั้งก็ทรงมีพระอารมณ์แปรปรวน และที่ข่าวเสื่อมเสียติดตามมาหลังจากการหย่าร้างของพระองค์กับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส ก็สร้างรอยด่างพร้อยให้แก่ราชวงศ์อังกฤษอย่างยากจะลบเลือน
“เจ้าหญิงไดอานาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกมากกว่าพระราชวงศ์อังกฤษเองเสียอีก ทรงเป็นผู้ที่ชาวอังกฤษทุกคนอยากพบ, อยากได้ยินเสียง และอยากอยู่ใกล้ๆ ทั้งนี้พระราชวงศ์คนอื่นๆก็คงจะเรียนรู้จากจุดนี้ด้วย” คลิฟฟอร์ด กล่าว
แม้ เคต ในวันนี้จะยังไม่มีทีท่าอยากเป็นจุดสนใจเหมือนเจ้าหญิงไดอานา แต่เวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เธอสามารถฝ่าฟันแรงกดดันของการเข้าเป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษอย่างเต็มตัวได้หรือไม่
ประสบการณ์อันเลวร้ายของเจ้าหญิงไดอานายังทำให้ชาวอังกฤษบางคนนึกเป็นห่วง เคต ว่าอาจจะต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกันหลังเข้าเป็นสมาชิกพระราชวงศ์ ทว่าผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ราชวงศ์กลับเชื่อมั่นว่า เคต จะไม่ช้ำใจเหมือนเจ้าหญิงไดอานาอย่างแน่นอน ซึ่งหนึ่งในคนที่เชื่อเช่นนั้นก็คือ แอนดรูว์ มอร์ตัน ผู้เขียนหนังสือเรื่อง “Diana: Her True Story” ขึ้นจากเทปที่บันทึกเสียงของเจ้าหญิงไดอานาเอง
มอร์ตัน อ้างเหตุผลเรื่องวัยวุฒิของ เคต ตลอดจนกำลังใจจากครอบครัวและเพื่อนๆที่เธอได้รับ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในสภาวะที่ตัวเธอเองอาจถูกครอบงำโดยสำนักพระราชวัง แต่ปัจจัยสำคัญที่ มอร์ตัน เชื่อว่าจะรับประกันความสุขของ เคต ได้ นั่นก็คือ เธอกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายที่รักเธอจริงๆ
ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ขณะที่เจ้าหญิงไดอานาทรงพระดำเนินเคียงคู่เจ้าฟ้าชายชาร์ลสในโบสถ์เซนต์ปอลนั้น พระองค์ยังต้องทรงลอบสังเกต คามิลลา ปาร์กเกอร์ โบว์ลส ซึ่งสวมชุดสีเทามาร่วมพิธีด้วย และทรงหวังอยู่ลึกๆว่าความสัมพันธ์ระหว่างพระสวามีกับ คามิลลา จะสิ้นสุดลงในวันนั้น แต่ทรงคิดผิดถนัด เพราะเจ้าฟ้าชายชาร์ลสไม่ทรงเคยลืมรักแรกของพระองค์ได้เลย
8 ปีหลังจากที่เจ้าหญิงไดอานาและ โดดี อัลฟายเอ็ด ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตที่กรุงปารีส เจ้าฟ้าชายชาร์ลสก็ทรงอภิเษกสมรสใหม่อีกครั้งกับ คามิลลา ในปี 2005 โดยทรงรอคอยมานานถึง 35 ปี ก่อนจะได้ร่วมชีวิตกับสตรีที่เป็นรักแรกและรักแท้ของพระองค์
มอร์ตัน ยังเล่าว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลสทรงเคร่งครัดธรรมเนียมและหัวโบราณกว่าเจ้าชายวิลเลียม จนแม้แต่เจ้าหญิงไดอานาเองก็ต้องเรียกพระองค์ว่า “ท่าน” (Sir) จนกระทั่งถึงวันอภิเษกสมรสในปี 1981 แต่อย่างไรก็ตาม เขาคิดว่าพระองค์ไม่ใช่แบบอย่างของเจ้าในยุคปัจจุบัน
“โลกเปลี่ยนไปแล้ว พระราชวงศ์ก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย แม้แต่สมเด็จพระราชินีนาถก็ยังทรงเล่นเฟสบุ๊ก คนยุคเก่าๆได้ล้มหายตายจากไปหมด เหลือแต่คนยุคใหม่อย่างเจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด, เจ้าฟ้าชายแอนดรูว์, เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ และ ซารา ฟิลลิปส์ ดังนั้นผมคิดว่า เคต จะใช้ชีวิตได้อย่างสบายท่ามกลางพระราชวงศ์ยุคใหม่เหล่านี้” เขากล่าว