ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - พิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายวิลเลียม และ เคต มิดเดิลตัน คือผลผลิตแห่งความรักความเข้าใจที่ทั้งสองร่วมบ่มเพาะกันมานานถึง 10 ปี และนำมาสู่วันแห่งการครองคู่ซึ่งนักวิจารณ์บางคนเคยคาดเดาว่า ไม่มีวันมาถึง
ขณะให้สัมภาษณ์หลังพิธีหมั้นหมายเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เคต ยอมรับว่า ตอนที่พบเจ้าชายวิลเลียมครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน ปี 2001 ขณะที่ทั้งคู่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เซนต์ แอนดรูส์ เธอรู้สึกเขินอายจนหน้าแดง และต้องรีบทูลขออภัยต่อพระองค์
ฝ่ายเจ้าชายวิลเลียมก็ทรงให้สัมภาษณ์ว่า ทรงทราบมาโดยตลอดว่า “เคต มีบางสิ่งที่พิเศษมากๆ”
“เราสองคนเคยผ่านอุปสรรคเล็กๆน้อยๆเหมือนคู่รักทั่วไป แต่เราก็ลุกขึ้นสู้และเดินต่อมาด้วยกัน... ผมสบายใจมากเวลาที่อยู่กับเธอ มันช่างสนุกจริงๆ” เจ้าชายตรัส
คำพูดเปิดอกของเจ้าชายวิลเลียมแตกต่างจากที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลสเคยพระราชทานสัมภาษณ์ในวันประกาศหมั้นหมายกับ น.ส. ไดอานา สเป็นเซอร์ เมื่อปี 1981 อย่างสิ้นเชิง เพราะเมื่อนักข่าวทูลถามว่าทรงรักพระคู่หมั้นหรือไม่ เจ้าฟ้าชายตรัสแต่เพียงว่า “รัก แปลว่าอย่างไรก็อย่างนั้น” (Whatever in love means.) ซึ่งกลายเป็น "วรรคทอง" ที่หลายคนหยิบยกมาวิพากษ์วิจารณ์กันต่อมา
เคต ยังล้อเลียนว่าเจ้าชายวิลเลียมทรงทำกับข้าวไม่เป็นเลย ส่วนเจ้าชายก็ทรงเย้าแหย่เธอด้วยข่าวที่คนลือกันว่า เธอติดโปสเตอร์ของพระองค์ไว้ในห้องนอนตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ทำให้หญิงสาวรีบปฏิเสธด้วยรอยยิ้มว่า “ฝันไปเถอะ ไม่จริงเลย ฉันติดรูปหนุ่มพรีเซ็นเตอร์กางเกงลีวายต่างหาก”
ข่าวลือเรื่องโปสเตอร์ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า เคต อาจจงใจเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย เซนต์ แอนดรูส์ เพื่อจับเจ้าชายวิลเลียม ขณะที่นักวิจารณ์บางคนหยิบยกประเด็นเรื่องอาชีพของ เคต มาโจมตี โดยระบุว่าเธอไม่เคยคิดทำงานเลี้ยงตัวเองอย่างจริงจังเลย อย่างไรก็ตาม โรเบิร์ต จ็อบสัน ผู้แต่งหนังสือ “William and Kate: The Love Story” โต้แย้งว่า คำวิจารณ์เช่นนี้ไม่ยุติธรรมต่อ เคต นัก พร้อมยืนยันว่าหญิงสาวมีอิทธิพลต่อความคิดอ่านของเจ้าชายอย่างยิ่ง ตัวอย่างเช่น เมื่อครั้งที่ทรงเบื่อหน่ายวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะซึ่งทรงศึกษาอยู่ และเกือบจะทรงลาออกอยู่แล้ว เคต ก็ได้ห้ามปรามพระองค์ไว้ และแนะให้ทรงเปลี่ยนไปเรียนวิชาภูมิศาสตร์แทน
เจ้าชายวิลเลียมทรงปกป้องคู่รักของพระองค์มาโดยตลอด ด้วยทรงทราบดีว่า เจ้าหญิงไดอานา พระมารดา ก็เคยประสบปัญหาในการปรับตัวเข้ากับชีวิตในวังมาก่อน ดังนั้นจึงทรงประวิงเวลาเพื่อเปิดโอกาสให้ เคต “เดินจากพระองค์ไปหากเธอต้องการ ก่อนที่จะถลำลึกไปกว่านี้”
เดือนเมษายน ปี 2007 เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังยืนยันว่าเจ้าชายวิลเลียมทรงเลิกรากับ เคต แล้ว ซึ่งหลายฝ่ายโทษว่าเป็นเพราะทรงติดภารกิจทางทหาร ทั้งยังปรากฎภาพถ่ายของพระองค์ขณะสังสรรค์กับหญิงสาวมากหน้าหลายตาตามหน้านิตยสาร แต่ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น ทั้งคู่ก็กลับมาคบหาดูใจกันใหม่ แต่ก็ยังไร้วี่แววของการแต่งงาน เนื่องจากเจ้าชายทรงเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า จะไม่เสกสมรส “จนกว่าจะอายุ 28 ปีเป็นอย่างน้อย หรือไม่ก็ 30”
เมื่อเจ้าชายวิลเลียมทรงมีพระชันษาครบ 28 ปีในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และต้องทรงเริ่มปฏิบัติหน้าที่นักบินค้นหาและช่วยชีวิตที่แคว้นเวลส์ พระองค์และ เคต จึงตัดสินใจย้ายมาอาศัยอยู่ร่วมกัน จากนั้นจึงทรงเอ่ยปากขอแต่งงานกับ เคต ระหว่างวันหยุดพักผ่อนที่ประเทศเคนยา เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
เจ้าชายวิลเลียมตรัสว่า ทรงเกริ่นเรื่องแต่งงานกับ เคต มาเป็นแรมปีก่อนจะเอ่ยปากขออย่างจริงจัง
“เราทั้งคู่คิดว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว”
*********************************
กรุงลอนดอนพร้อมต้อนรับพิธีเสกสมรส
เพื่อให้เมืองหลวงของอังกฤษแลดูงดงามสมพระเกียรติของเจ้าชายวิลเลียมและพระชายา กรุงลอนดอนจึงมอบหมายให้บริษัทผู้รับเหมาทำความสะอาดสถานที่สาธารณะต่างๆ พร้อมประดับริ้วธงอังกฤษตามถนนสายหลักๆทั่วเมือง ขณะที่ตำรวจนครบาลก็ระดมเจ้าหน้าที่กว่า 5,000 นายออกตรวจตราความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายหรือการประท้วงใดๆขึ้นในวันพระราชพิธี
นอกจากความพร้อมของภาครัฐแล้ว บรรดาโรงแรมชั้นนำก็ไม่พลาดโอกาสจำหน่ายที่พักพร้อมบริการชั้นเลิศแก่นักท่องเที่ยวที่อยากจะลองสัมผัสชีวิตแบบพระราชวงศ์ดูบ้าง เช่นที่โรงแรม ไฮแอตต์ รีเจนซี ลอนดอน ซึ่งเสนอแพ็กเกจห้องรอยัลสวีต 4 คืน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้องอาบน้ำซึ่งอุปกรณ์ทุกชิ้นทำจากหินอ่อน, ฟิตเนสส่วนตัว รวมถึงแกรนด์เปียโน ซึ่งช่วยเพิ่มบรรยากาศหรูหราราวกับอยู่ในพระราชวัง ทั้งหมดนี้ด้วยราคาเพียง 36,000 ปอนด์ (1.78 ล้านบาท) สำหรับ 6 ท่าน
โฆษกของโรงแรมบอกว่า แพ็กเกจดังกล่าวได้รับความสนใจจากลูกค้าชาวรัสเซีย, อเมริกัน และอังกฤษ แม้จะยังไม่มีใครตกลงใจซื้อก็ตาม
ส่วน สวิสโซเท็ล เดอะ โฮเวิร์ด เน้นเอาใจลูกค้าวัย 3-8 ขวบที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นเจ้าหญิง โดยเสนอแพ็กเกจทัวร์มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์บนรถม้า พร้อมชุดเจ้าหญิง, กระเป๋าถือ, รองเท้า และมงกุฎเงิน นอกจากนี้มอบห้องพักสุดหรู พร้อมชายามบ่ายกับแชมเปญไร้แอลกอฮอล์ เพียง 2,904 ปอนด์ (140,000 บาท) ต่อคน
นอกจากนี้ธุรกิจจำหน่ายของที่ระลึกเนื่องในพิธีเสกสมรสก็เฟื่องฟูไม่แพ้กัน โดยมีการผลิตสินค้าออกมาหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแก้วน้ำ, จานโชว์ หรือแม้แต่ตุ๊กตา เคต มิดเดิลตัน
