xs
xsm
sm
md
lg

Royal Wedding: “ปรินซ์วิลเลียม-เคต มิดเดิลตัน” 10 ปีแห่งความรัก สู่วันอภิเษกสมรส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจ้าชายวิลเลียม องค์รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ และ น.ส.แคทเธอรีน มิดเดิลตัน พระคู่หมั้น ซึ่งจะเข้าพิธีอิภเษกสมรสในวันที่ 29 เมษายน ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ กรุงลอนดอน
เอเอฟพี - พิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าชายวิลเลียม องค์รัชทายาทลำดับ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ และ เคต มิดเดิลตัน คือผลผลิตแห่งความรักความเข้าใจที่บ่มเพาะร่วมกันมานานถึง 10 ปี เริ่มต้นจากมิตรภาพฉันเพื่อน ก่อนจะพัฒนาจนกลายเป็นความรัก ซึ่งนำมาสู่วันสำคัญของทั้งคู่ที่นักวิจารณ์บางคนเคยคาดเดาว่า ไม่มีวันมาถึง

ขณะที่หลายคนเชื่อว่า ประสบการณ์ที่ผ่านมาจะทำให้ทั้งคู่พร้อมสำหรับชีวิตแต่งงาน แต่การที่เจ้าชายวิลเลียมทรงรีรออยู่นานก็ทำให้สังคมตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ จนสื่อซุบซิบบางรายถึงกับตั้งฉายาให้ เคต ว่า “เคตผู้เฝ้ารอ” (Waity Katy)

แม้จะเคยเลิกรากันจนเป็นข่าวคึกโครมในปี 2007 อีกทั้งเจ้าชายวิลเลียมเองก็ทรงมีภารกิจในราชการทหารเพิ่มมากขึ้น แต่ในที่สุดทั้งคู่ก็ผ่านพ้นมรสุมชีวิตรัก จนประกาศลั่นระฆังวิวาห์ที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ในวันที่ 29 เมษายนนี้

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส เคยตรัสหลังจากที่พระโอรสองค์ใหญ่ประกาศหมั้นหมายกับ เคต อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วว่า “พวกเขาก็ฝึกซ้อมกันมานานพอดูแล้ว”

เคต ยอมรับว่า เมื่อได้พบกับเจ้าชายวิลเลียมเป็นครั้งแรกในเดือนกันยายน ปี 2001 ขณะที่ทั้งคู่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเซนต์ แอนดรูส์ ในสกอตแลนด์ เธอรู้สึก “เขินจนหน้าแดง” และต้องรีบขออภัยต่อพระองค์

ด้านเจ้าชายวิลเลียมก็ทรงให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์หลังพิธีหมั้นหมายว่า ทรงทราบมาโดยตลอดว่า “เคต มีบางสิ่งที่พิเศษมากๆ”

“เราสองคนผ่านอุปสรรคเล็กๆน้อยๆเหมือนกับคู่รักทั่วไป แต่เราก็ลุกขึ้นสู้และเดินต่อมาด้วยกัน... ผมสบายใจมากเวลาที่อยู่กับเธอ มันช่างสนุกจริงๆ” เจ้าชาย ตรัส

คำพูดของเจ้าชายวิลเลียมแตกต่างจากที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลสเคยพระราชทานสัมภาษณ์ในวันประกาศหมั้นหมายกับ น.ส. ไดอานา สเป็นเซอร์ เมื่อปี 1981 อย่างสิ้นเชิง เมื่อนักข่าวทูลถามว่าทรงรักพระคู่หมั้นหรือไม่ เจ้าฟ้าชายตรัสเพียงว่า “รัก แปลว่าอย่างไรก็อย่างนั้น” (Whatever in love means.)

เคต ล้อเลียนว่า เจ้าชายวิลเลียมทรงทำกับข้าวไม่เป็นเลย ส่วนเจ้าชายก็ทรงเย้าแหย่เธอด้วยรายงานที่ว่า เคต ติดโปสเตอร์ภาพพระองค์ไว้ในห้องนอนตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ซึ่งหญิงสาวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ฝันไปเถอะ ไม่จริงเลย ฉันติดรูปหนุ่มพรีเซ็นเตอร์กางเกงลีวายต่างหาก”

ข่าวลือเรื่องโปสเตอร์ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า เคต อาจจงใจเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย เซ็นต์ แอนดรูส์ เพื่อจับเจ้าชายวิลเลียม ขณะที่นักวิจารณ์บางคนหยิบยกประเด็นเรื่องอาชีพของ เคต มาโจมตี โดยระบุว่า เธอไม่เคยคิดทำงานเลี้ยงตัวเองอย่างจริงจังเลย

อย่างไรก็ตาม โรเบิร์ต จ็อบสัน ผู้แต่งหนังสือ “William and Kate: The Love Story” แย้งว่า คำวิจารณ์เช่นนี้ไม่ยุติธรรมต่อ เคต พร้อมยืนยันว่า หญิงสาวมีอิทธิพลต่อความคิดของเจ้าชายอย่างยิ่ง

“ผมว่าเธอเป็นคนที่เจ้าชายทรงไว้วางพระทัยที่สุด ทุกคนน่าจะเบาใจที่ทรงพบคู่ครอง ที่จะเป็นเพื่อนคู่คิดทั้งในเรื่องส่วนพระองค์ และหน้าที่ต่อส่วนรวมด้วย” จ็อบสัน ให้สัมภาษณ์

จ็อบสัน เล่าว่า เมื่อครั้งที่เจ้าชายวิลเลียมทรงเบื่อหน่ายวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะซึ่งทรงศึกษาอยู่ และเกือบจะทรงลาออกอยู่แล้ว แต่ เคต ก็ห้ามพระองค์ไว้ และแนะให้ทรงเปลี่ยนไปเรียนวิชาภูมิศาสตร์แทน

เจ้าชายวิลเลียมเองก็ทรงปกป้องคู่รักของพระองค์มาโดยตลอด ทรงทราบดีว่า เจ้าหญิงไดอานา พระมารดา เคยประสบปัญหาในการปรับตัวเข้ากับชีวิตแบบเจ้า ดังนั้นจึงทรงประวิงเวลาเพื่อเปิดโอกาสให้ เคต “เดินจากพระองค์ไปหากเธอต้องการ ก่อนที่จะถลำลึกไปกว่านี้”

ในเดือนเมษายน ปี 2007 เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังยืนยันว่า เจ้าชายวิลเลียมทรงเลิกรากับ เคต จริง โดยหลายฝ่ายโทษว่าเป็นเพราะทรงติดภารกิจทางทหาร ทั้งยังปรากฎภาพถ่ายของพระองค์ขณะสังสรรค์กับหญิงสาวมากหน้าหลายตา

เคต ยอมรับว่า เธอไม่มีความสุขเลยที่ต้องเหินห่างจากเจ้าชาย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้เธอ “เข้มแข็งมากขึ้น”

ทั้งคู่กลับมาคบหาดูใจกันอีกครั้งในอีกไม่กี่เดือนให้หลัง แต่ก็ยังไร้วี่แววของการแต่งงาน เนื่องจากเจ้าชายทรงเคยให้สัมภาษณ์ว่า จะไม่อภิเษกสมรส “จนกว่าจะอายุ 28 ปีเป็นอย่างน้อย หรือไม่ก็ 30”

เมื่อเจ้าชายวิลเลียมทรงมีพระชันษาครบ 28 ปีในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว พระองค์และ เคต จึงตัดสินใจย้ายมาอาศัยอยู่ร่วมกัน พร้อมกับทรงเริ่มปฏิบัติหน้าที่นักบินค้นหาและช่วยชีวิตที่แคว้นเวลส์ จากนั้นจึงทรงเอ่ยปากขอแต่งงานกับ เคต ระหว่างวันหยุดพักผ่อนที่เคนยา เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

เจ้าชายวิลเลียม ตรัสว่า ทรงเกริ่นเรื่องแต่งงานกับ เคต มาเป็นปี “และเราทั้งคู่ก็คิดว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว”

กำลังโหลดความคิดเห็น