xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“ปรินซ์วิลเลียม-เคต มิดเดิลตัน” เปิดตำนานรักราชวงศ์อังกฤษยุคใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - พระราชพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายวิลเลียม องค์รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งราชวงศ์วินด์เซอร์ กับ เคต มิดเดิลตัน นับเป็นพระราชพิธีมงคลครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปีของอังกฤษ ถัดจากงานอภิเษกสมรสของเจ้าฟ้าชายชาร์ลสและเจ้าหญิงไดอานาเมื่อปี 1981 และเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสถาบันกษัตริย์ซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุด ณ วันนี้ผู้คนทั่วโลกต่างรอคอยที่จะได้สัมผัสตำนานรักราวเทพนิยายของเจ้าชายหนุ่มรูปงามกับหญิงสาวสามัญชน ซึ่งเกิดขึ้นจริงอีกครั้งในศตวรรษที่ 21

เคต มิดเดิลตัน เจ้าหญิงสามัญชน

ด้วยภาพลักษณ์ของหญิงสาวติดดินที่สุขุมรอบคอบและเฉิดฉายอย่างเหมาะเจาะ ทำให้ แคทเธอรีน “เคต” มิดเดิลตัน ว่าที่พระชายาของเจ้าชายวิลเลียม กลายเป็นแบบอย่างของเจ้าหญิงยุคใหม่ที่หลายคนจับตามอง

ย้อนหลังไปเมื่อ 3 รุ่นก่อน คุณตาทวดของ เคต เป็นเพียงคนงานเหมืองถ่านหินทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ แต่เนื่องจากมีลูกหลานเป็นกุลสตรีที่มีบุคลิกน่าพึงใจ ครอบครัวฝ่ายมารดาของ เคต จึงค่อยๆขยับฐานะสู่ความเป็นชนชั้นกลางในสังคมอังกฤษ

ไมเคิล และ คาโรล มิดเดิลตัน บิดามารดาของ เคต เป็นอดีตสจ๊วตและแอร์โฮสเตสของสายการบินบริติชแอร์เวย์ส ก่อนจะผันตัวมาเปิดธุรกิจจำหน่ายสินค้าสำหรับจัดงานรื่นเริงจนกลายเป็นเศรษฐีเงินล้านในปัจจุบัน

ในฐานะบุตรสาวคนโตจากทั้งหมด 3 คน เคต ถูกส่งเข้าเรียนที่วิทยาลัยมาร์ลโบโร(Marl Borough College) ซึ่งเป็นสถานศึกษาสำหรับลูกผู้ดีมีเงิน และนอกจากการเรียนตามปกติแล้ว เคต ยังเป็นนักกีฬาของโรงเรียน และสามารถเล่นกีฬาได้หลากหลายประเภท ทั้งเทนนิส, ฮ็อกกี และ เน็ตบอล

หลังจบวิทยาลัยแล้ว เคต ใช้เวลาว่าง 1 ปีเดินทางไปหาประสบการณ์ชีวิตไกลถึงชิลีและเมืองฟลอเรนซ์ของอิตาลี ก่อนจะเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีสาขาประวัติศาสตร์ศิลปะ ที่มหาวิทยาลัย เซนต์ แอนดรูส์ ในสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เธอได้พบกับเจ้าชายวิลเลียม

เมื่อจบการศึกษา เคต ได้งานเป็นผู้จัดซื้อเครื่องประดับให้กับเสื้อผ้าแบรนด์ "จิกซอว์" ก่อนจะลาออกมาทำธุรกิจร่วมกับครอบครัว

เคต เป็นคนสวยน่ารักแต่ไม่หวือหวา รูปร่างผอมแต่แข็งแรงแบบนักกีฬา สไตล์การแต่งตัวของเธอเหมือนผู้มีอันจะกินมากกว่าชนชั้นสูง ดังจะเห็นได้จากชุดสีขาวเรียบๆที่เธอสวมในวันประกาศหมั้นหมายกับเจ้าชายวิลเลียม ซึ่งมีราคาเพียง 159 ปอนด์ หรือประมาณ 7,800 บาทเท่านั้น

นักวิจารณ์จากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเคยกล่าวชื่นชมเธอไว้ว่า “คุณมิดเดิลตันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความเป็นสามัญ กับความงามดึงดูดใจ”

ตลอดระยะเวลาที่คบกับเจ้าชายวิลเลียม เคต เคยมีข่าวเสื่อมเสียเพียง 2 เรื่องเท่านั้น เรื่องแรกคือภาพหลุดที่เธอสวมชุดกระโปรงซีทรูในงานแฟชั่นโชว์ของมหาวิทยาลัย เซนต์ แอนดรูส์ ขณะยังไม่ได้คบหากับเจ้าชายวิลเลียม ซึ่งบางคนตั้งข้อสงสัยว่าเธออาจทำไปเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเจ้าชาย และครั้งที่สองเมื่อมีผู้ถ่ายภาพ เคต สวมหูกระต่ายเพล์บอยไปเที่ยวไนต์คลับ หลังจากเธอเลิกรากับเจ้าชายวิลเลียมในปี 2007

เจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทผู้ติดดิน

ด้วยฐานะรัชทายาทอันดับ2 ของราชวงศ์ เจ้าชายวิลเลียมซึ่งเป็นพระโอรสองค์โตของเจ้าหญิงไดอานาผู้ล่วงลับ จึงทรงเป็นความหวังอันยิ่งใหญ่สำหรับสถาบันพระมหากษัตริย์อังกฤษในศตวรรษที่ 21

เจ้าชายวิลเลียมประสูติเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ปี 1982 หลังจากที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลสและเจ้าหญิงไดอานาทรงเข้าพิธีอภิเษกสมรสได้ไม่ถึง 1 ปี ชีวิตวัยเยาว์ของพระองค์และเจ้าชายแฮร์รี พระอนุชา เปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานและความอบอุ่นที่ได้รับจากพระมารดา ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลสทรงขาดแคลน

เพนนี จูเนอร์ นักประพันธ์ผู้แต่งพระประวัติของเจ้าชายวิลเลียมเคยกล่าวไว้ว่า เจ้าชายวิลเลียมทรงเป็นผู้สืบราชวงศ์ที่เพียบพร้อม พระอุปนิสัยตรงไปตรงมา ไม่ยึดติดกับความเป็นเจ้ามากนัก และทรงพอพระทัยที่จะถูกเรียกว่า “วิลเลียม” มากกว่า ฝ่าพระบาท

“ทรงทำอาหารเอง เก็บที่นอนเอง และทำทุกอย่างเหมือนคนปกติทั่วไป และดูเหมือนจะทรงพระสำราญเสียด้วย” จูเนอร์ เผย

หลังทรงสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยอีตัน เจ้าชายวิลเลียมจึงทรงเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย เซนต์ แอนดรูส์ ในสกอตแลนด์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “ออกซ์ฟอร์ดแห่งภาคเหนือ” นอกจากนี้ยังทรงปฏิบัติตามธรรมเนียมของพระราชวงศ์ซึ่งเป็นชาย โดยทรงศึกษาวิชาทหารที่โรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิร์สต์ ก่อนจะเข้ารับราชการในตำแหน่งนักบินค้นหาและช่วยชีวิตของกองทัพอากาศอังกฤษ

เจ้าชายวิลเลียมทรงได้รับความไว้วางใจจากราชวงศ์ให้เริ่มปฏิบัติพระกรณียกิจมากขึ้นทีละน้อย โดยพระองค์ได้เสด็จเยือนออสเตรเลียและนิวซีแลนด์อย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว และเมื่อเสด็จเยี่ยมผู้ประสบภัยธรรมชาติที่เมืองไครสต์เชิร์ชและรัฐควีนส์แลนด์ในปีนี้ ก็ทรงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชนที่นั่น

แม็กซ์ คลิฟฟอร์ด ผู้เชี่ยวชาญด้านการประชาสัมพันธ์ ระบุว่า ชาวอังกฤษส่วนใหญ่ต่างชื่นชมในตัวเจ้าชายวิลเลียมและว่าที่พระชายาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่ยังรักและคิดถึงเจ้าหญิงไดอานา

“คนอังกฤษเห็นพระองค์เป็นโอรสของเจ้าหญิงไดอานา ดังนั้นผู้ที่รักเจ้าหญิงไดอานาก็รักพระองค์ด้วย”

วิลเลียม-แคทเธอรีน ความหวังใหม่ของราชวงศ์วินด์เซอร์

งานอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าชายวิลเลียมและ เคต มิดเดิลตัน ถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับราชวงศ์อังกฤษที่จะกอบกู้ภาพลักษณ์ให้กลับมาสวยหรูอีกครั้ง หลังเผชิญมรสุมข่าวร้ายตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งภาพสำคัญที่ทุกคนเฝ้ารอคือวินาทีที่เจ้าชายวิลเลียมทรงจุมพิตพระชายา ณ ระเบียงของพระราชวังบักกิงแฮม โดยมีสมาชิกราชวงศ์อังกฤษทุกพระองค์และประชาชนทั่วโลกร่วมเป็นสักขีพยาน

พระราชพิธีเสกสมรสของเจ้าชายวิลเลียมถูกจัดเตรียมและวางแผนไว้อย่างเหมาะเจาะรัดกุมที่สุด เพื่อกันมิให้ประวัติศาสตร์อันมัวหมองของราชวงศ์อังกฤษรุ่นก่อนๆต้องซ้ำรอยอีกครั้ง

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เคยตรัสไว้ว่า จุดต่ำที่สุดของราชวงศ์อังกฤษอยู่ใน “ปีอันเลวร้าย” ซึ่งหมายถึงปี 1992 ซึ่งเจ้าฟ้าชายชาร์ลสและเจ้าหญิงไดอานาทรงแยกทางกัน หลังจากที่เข้าพิธีอภิเษกสมรสอย่างเอกเกริกเมื่อ 11 ปีก่อนหน้านั้น ปีดังกล่าวยังเป็นปีที่ชีวิตสมรสของพระราชโอรสและพระราชธิดาพระองค์อื่นๆต้องมีอันสิ้นสุดลงด้วย ไม่ว่าจะเป็นคู่ของ เจ้าฟ้าชายแอนดรูว์ กับ ซาราห์ เฟอร์กูสัน หรือ เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ กับ กัปตันมาร์ก ฟิลลิปส์

ไม่เพียงเท่านั้น พระราชวังวินด์เซอร์ซึ่งเป็นที่ประทับสุดโปรดของสมเด็จพระราชินีเอง ก็ถูกเพลิงไหม้เสียหายอย่างหนักในปีเดียวกัน

สถานการณ์ภายในราชวงศ์ยิ่งเลวร้ายมากขึ้นในอีกไม่กี่ปีต่อมา เมื่อความสัมพันธ์ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลสและเจ้าหญิงไดอานาดิ่งลงเหว หนังสือพิมพ์ซุบซิบหลายฉบับต่างก็ลงข่าวฉาวของทั้งคู่อย่างเอาเป็นเอาตาย จนนำมาสู่การหย่าร้างอย่างเป็นทางการในปี 1996

การสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานาที่กรุงปารีสในปี 1997ทำให้ราชวงศ์อังกฤษก้าวสู่ยุคที่มืดมนที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เนื่องจากชาวอังกฤษไม่พอใจที่พระราชวงศ์แสดงท่าทีเย็นชาต่อการจากไปของ "เจ้าหญิงแห่งปวงชน" ปฏิกิริยาตอบสนองของชาวอังกฤษรุนแรงเทียบได้กับการสละราชสมบัติของเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ในปี 1936 เมื่อทรงตัดสินพระทัยเสกสมรสกับสตรีหม้ายชาวอเมริกัน วอลลิส ซิมป์สัน

แต่ถึงแม้จะเกิดวิกฤตนานัปการ นักวิจารณ์หลายคนก็ยังเชื่อมั่นว่า พระราชวงศ์จะสามารถปรับตัวเพื่อความอยู่รอดต่อไปได้ เช่นเดียวกับ ดิกกี อาร์บิเตอร์ อดีตราชเลขาธิการฝ่ายสื่อมวลชนของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งกล่าวว่า “ราชวงศ์วินด์เซอร์มีการเปลี่ยนแปลงมาตลอด 1,000 ปี และจะสามารถปรับตัวเข้ากับศตวรรษที่ 21 ได้อย่างแน่นอน”

นักวิเคราะห์บางคนถึงกับฟันธงว่า เจ้าชายวิลเลียม และ เคต น่าจะกลายเป็น "ไอดอล" สำหรับคนรุ่นใหม่แทนที่บุคคลดังอย่าง เบคแฮม ได้ไม่ยาก ซึ่งผลสำรวจความคิดเห็นชาวอังกฤษที่เผยแพร่ก่อนพิธีเสกสมรสไม่กี่วันก็สนับสนุนแนวคิดดังกล่าว โดยพบว่าประชาชน 2 ใน 3 เชื่อว่าประเทศชาติดีขึ้นเนื่องจากมีสถาบันกษัตริย์ แต่ยังมีเพียง 37 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่สนใจและรู้สึกตื่นเต้นกับพิธีเสกสมรสจริงๆ

นอกจากนี้ดูเหมือนว่า การเสกสมรสของ เจ้าชายวิลเลียม กับ เคต จะทำให้ประชาชนอังกฤษมีความนิยมในพระราชวงศ์เพิ่มมากขึ้นด้วย โดยผลสำรวจของไอซีเอ็มที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์การ์เดียนพบว่า ประชาชน 63 เปอร์เซ็นต์คิดว่าอังกฤษจะย่ำแย่กว่านี้หากไม่มีสถาบันกษัตริย์ อีก 74 เปอร์เซ็นต์เชื่อว่าพิธีเสกสมรสคราวนี้จะเป็นปัจจัยให้ประเทศชาติเกิดความแข็งแกร่ง


พ่อและแม่ของเคต
กำลังโหลดความคิดเห็น