ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ผลการเลือกตั้งนายกสมาคมมวยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย สุดท้ายก็กลายเป็นคนที่ไม่เคยมีชื่อเป็นแคนดิเดตมาก่อน “พล.อ.นรินทร์ แทบประสิทธิ์” อดีตอุปนายกสมาคมฯ
กลายเป็นตาอยู่ ได้ครองตำแหน่งแบบไร้คู่แข่ง หลังจากตัวเต็งอย่าง “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ และทีมงานไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้
การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2553 ของสมาคมมวยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ กรุงเทพฯ เมื่อ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา ถูกจับตามองมาเป็นพิเศษ เพราะมีวาระสำคัญคือ “การเลือกตั้งนายกสมาคมมวยฯ คนใหม่” แทน “เสธ.วีป” พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ ที่ดำรงตำแหน่งครบวาระ และประกาศวางมือ
ก่อนการประชุม “เต็งหาม” แบบไร้คู่แข่งอย่าง พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ได้รับการคาดหวังว่า จะเป็นนายกฯเสื้อกล้าม คนต่อไป
ภายใต้การสนับสนุนของเพื่อนซี้ “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
แต่บทสรุปของการเลือกตั้งกลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ สาเหตุสำคัญมาจาก การที่ พล.อ.บุญเลิศ และกลุ่มผู้สนับสนุนไม่สามารถเข้าห้องประชุมได้
ทั้งนี้ก่อนการประชุมได้เกิดความวุ่นวายขึ้น เมื่อ “เสธ.อ้าย” ที่ประกาศขอชิงตำแหน่งเก้าอี้นายกสมาคมฯ ได้มารออยู่ก่อน พร้อมทหารคนสนิทหลายนาย แต่ไม่สามารถเข้าห้องประชุมได้ เนื่องจากไม่มีไอดีการ์ดในการเลือกตั้ง
เนื่องจากตามระเบียบที่สมาคมมวยฯ จะส่งหนังสือให้สโมสรสมาชิกแจ้งชื่อผู้มาใช้สิทธิภายในวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อออกไอดีการ์ดให้ ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนพล.อ.บุญเลิศ ไม่พอใจ รวมทั้งผู้แทนหลายสโมสรที่ไม่สามารถเข้าห้องประชุมได้เช่นกัน โดยมีการประท้วงต่อเจ้าหน้าที่ของสมาคมฯ สมาชิกที่ไม่ได้เข้าร่วมลงเลือกตั้งต่างเชื่อว่า น่าจะมีการบล็อกคะแนนเสียง
ต่างกับ พล.อ.ทวีป ที่ออกมายืนยันว่า ขอให้เป็นไปตามระเบียบของสมาคมฯ พร้อมเข้าไปทักทายกับพล.อ.บุญเลิศ ในฐานะรุ่นน้อง ก่อนพล.อ.บุญเลิศ จะเดินทางกลับ นัยว่า เป็นการเคลียร์ปัญหาทางเทคนิค ที่ไม่นำไปสู่ปัญหาใหญ่
ผลการประชุมเลือกนายกสมาคมฯ ซึ่งเป็นการประชุมลับ และห้ามสื่อมวลชนเข้าไปทำข่าว ปรากฏว่า พล.อ.นรินทร์ แทบประสิทธิ์ กลายเป็นนายกสมาคมมวยสมัครเล่นคนใหม่ จากการเสนอชื่อของ อ.อดุลย์ ทัพมาโนช ตัวแทนจากสโมสรราชโอรส
ชนะแบบม้วนเดียวจบโดยไร้คู่แข่งขัน ด้วยคะแนนเสียง 39 คะแนน
จนกระทั่งถูกสื่อมวลชนเชื่อว่า เป็นการวางแผนมอบหมายให้ทายาทของ พล.อ.ทวีป นั่งเก้าอี้ เพื่อผลักดันให้ พล.อ.ทวีป เข้าสู่ตำแหน่งประธานไอบ้า หลังจากวางมือจากสมาคมมวยสมัครเล่น ที่ครองเก้าอี้นี้มาอย่างยาวนาน
นั่นแสดงว่า ขุมกำลังในสมาคมมวยสมัครเล่น โดยเฉพาะสมาชิกสมาคม ยังเป็นของ พล.อ.ทวีป อยู่มาก
พล.อ.ทวีป ต้องประกาศวางมือจากเก้าอี้นายกสมาคมมวยสมัครเล่น หลังจากเกิดความขัดแย้งกับสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ (ไอบ้า) จนกระทั่งถูกถอดจากบอร์บริหารไอบ้า
หลังจากนั้นจึงมีผู้เสนอตัวเพื่อเป็นนายกสมาคมคนใหม่ 2 คน ได้แก่ “บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ กรรมการและเหรัญญิก คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย และ “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ อดีตเลขาธิการสมาคมมวยสากลสมัครเล่นฯ
ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีเพื่อนายกสมาคม มีผู้มีสิทธิโหวตเสียงเลือกตั้งทั้งหมด 58 เสียง แบ่งเป็นสโมสรสมาชิกสามัญ 39 เสียง และคณะกรรมการบริหารสมาคมชุดเดิม 19 เสียง
การเลือกตั้งนายกสมาคมนั้น จะดำเนินการตามอำนาจตามกฎระเบียบข้อ 11.2 ของสมาคม แต่งตั้งคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งขึ้นมา 1 ชุด โดยมี ดร.พรชัย อรัณยกานนท์ เป็นประธาน และออกใบมอบอำนาจเพียงหนึ่งเดียว ให้ทุกสโมสรสมาชิก และผู้มีสิทธิออกเสียงส่งกลับมายังสมาคมภายในวันที่ 25 มี.ค.นี้ ว่าจะส่งใคร หรือมอบอำนาจให้ใครมาใช้สิทธิ เพื่อออกบัตรประจำตัวให้เข้าร่วมประชุม
ใครไม่มีบัตร ก็จะไม่สามารถเข้ามาใช้สิทธิได้ !!
นี่จุดอ่อนสำคัญของทีมงาน พล.อ.บุญเลิศ เพราะไม่มีไอดีการ์ดสำหรับเข้าประชุม ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง เชื่อกันอย่างไม่มีข้อสงสัยว่า คณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง ก็คือคนของ พล.อ.ทวีป
แม้ว่าผู้สมัครลงแข่งขันทั้ง 2 คน คือ “บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ กรรมการ และเหรัญญิกคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย และ “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ อดีตเลขาธิการสมาคมมวยสมัครเล่น จะถูกกล่าวถึงมาตลอด
แม้กระทั่ง เสธ.วีป ยังหยอดคำหวานบอกกับนักข่าวว่า ทั้ง 2 คนต่างมีคุณสมบัติเหมาะสม โดยนายธนา เคยเป็นกรรมการบริหารสมาคมมวยสมัครเล่นถึง 3 สมัย ส่วน พล.อ.บุญเลิศ เคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการสมาคมมวยสมัครเล่น 1 สมัยในยุค “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นนายกสมาคม
แต่นั่นเป็นเรื่องชั้นเชิงการจัดการสมาคมมวยฯ
เสธ.วีป ต้องลุกจากเก้าอี้โดยไม่เต็มใจ เนื่องจากความขัดแย้งกับไอบ้า ทำให้การทำงานของสมาคมฯ และนักมวย เกิดอุปสรรคใหญ่หลวง
ถึงขั้นเกือบจะทำให้นักมวยไทยไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 กวางโจวเกมส์ ที่ผ่านมาได้
เสธ.วีป ยืนกรานเสียงแข็งว่า จะไม่เจรจากับไอบ้า เพราะเขาได้ยื่นเรื่องต่อศาลโลกกีฬาให้ตัดสินชี้ขาด นั่นทำให้เขาไม่มีสิทธิลงสมัครเข้าชิงตำแหน่งประธานไอบ้า อย่างที่ต้องการได้
รวมทั้งไม่มีสิทธิ์เป็นกรรมการไอบ้าด้วย นั่นทำให้ เสธ.วีป ต้องวางมือจากสมาคมฯ หลังจากหมดวาระในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
“ขณะนี้กำลังพิจารณาหาผู้สืบทอดตำแหน่งนายกสมาคมอยู่” ผู้ยิ่งใหญ่ของวงการมวยสากลสมัครเล่นบอกไว้อย่างนั้น
ปัญหาความขัดแย้งระหว่าง เสธ.วีป กับไอบ้า เกิดจากการที่ เสธ.วีป วิจารณ์การตัดสินของกรรมการในศึกมวยสากลสมัครเล่นกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 29 "ปักกิ่งเกมส์" และส่งกระทบไปถึงความไม่ชอบมาพากลของสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ (ไอบ้า)
ทำให้ พล.อ.ทวีป ถูกถอดออกจากการเป็นกรรมการบริหารไอบ้า จน พล.อ.ทวีป ต้องร้องต่อศาลกีฬาโลก เพื่อขอความคุ้มครอง
แต่ไอบ้าไม่หยุดแค่นั้น ยังกดดันให้คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ให้ดำเนินการตามความเห็นของไอบ้า โดยเฉพาะการทำหน้าที่ในตำแหน่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับการบริหารงานของไอบ้า
จนกระทั่ง "บิ๊กจา" พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เห็นว่า บทลงโทษของไอบ้า ที่ให้พักงาน พล.อ.ทวีป ชั่วคราวนั้น ไม่มีผลกับการทำงานในระดับประเทศ ของ พล.อ.ทวีป แต่อย่างใด ทั้งในฐานะนายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และรองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เพราะเป็นการทำงานคนละส่วนกัน เพราะเสธ.วีป ได้รับการเลือกตั้งมาอย่างถูกต้อง จากสโมสรสมาชิก
"บิ๊กจา เชื่อว่า ปัญหาของเสธ.วีป ต้องการการตัดสินของศาลกีฬาโลก
แต่ในระหว่างรอการตัดสิน การทำงานของสมาคม และการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นของไทย จะมีอุปสรรคใหญ่หลวงมาก โดยเฉพาะในเวทีระดับโลก ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจากไอบ้าทุกเวที แต่แล้วเมื่อศาลกีฬาโลกตัดสินคุ้มครอง เสธ.วีป และล้างทุกคำสั่ง ของไอบ้า
เสธ.วีป ก็รู้ตัวเองว่าไม่สามารถทำงานต่อไปได้ !!
แม้ศาลกีฬาโลกจะมีคำสั่งคุ้มครองตน และสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมของสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ (ไอบ้า) เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ปีที่แล้ว รวมทั้งการเป็นคณะกรรมการบริหารไอบ้าของเสธ.วีป ด้วย
แต่โอกาสเสนอตัวเข้าชิงเก้าอี้ประธานไอบ้า แข่งกับ นายชิง กั๋วะ วู ประธานไอบ้า คนปัจจุบัน ถูกปิดสนิทแล้ว
ที่สำคัญตำแหน่งนายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่น ยังต้องถูกเปลี่ยน ทั้งๆ ที่ เสธ.วีป วางแผนจะเกษียณตัวเอง หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 2012
ต้องไปก่อนเวลาที่วางไว้ !!
นั่นทำให้ เสธ.วีป เดินสายทาบทาม นายกทหารที่เกษียณอายุราชการ แต่มีบารมีพอที่จะประสานงานกับองค์กรต่างๆได้ จนได้ชื่อ พล.อ.บุญเลิศ และ นายธนา
แต่นายธนา ประกาศถอนตัวจากการแข่งขันก่อนวันเลือกตั้งเพียง 5 วัน ด้วยข้ออ้างว่า มีภาระงานจำนวนมาก เช่น รับผิดชอบงานของบริษัทโอสถสภา ที่จะครบรอบ 120 ปี ประธานบริษัทในเครือ ประธานคณะกรรมาธิการสภาที่ปรึกษาสังคมเศรษฐกิจแห่งชาติ (สาขากีฬา) กรรมการบริหารการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) หัวหน้านักกีฬาทีมชาติชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย หัวหน้านักกีฬาโอลิมปิก 2012 ที่ประเทศอังกฤษ
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ สมาชิกสมาคม และกรรมการบริหารสมาคมหลายคนสนับสนุน นายธนา อย่างท้วมท้น เพราะเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ของสมาคมมวยสากลสมัครเล่น รวมทั้ง “บิ๊กแอ๊ว” พล.อ.อัครเดช ศศิประภา ที่ปรึกษาคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยยังสนับสนุนนายธนา
นั่นจึงทำให้ไม่มีใครเชื่อ...ตรงกันข้ามคนในวงการเชื่อกันว่า ถูกขอร้องแกมบังคับจากนักการเมืองมากกว่า
ส่งผลให้ เสธ.วีป ต้องเดินสายทาบทาม พล.อ.อภิชาติ เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม แต่ พล.อ.อภิชาติ ได้ปฏิเสธ
แม้กระทั่ง ชื่อของพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก ก็ยังมีชื่อโผล่เข้ามาในใจเสธ.วีป
แต่ท้ายที่สุด “ทายาทตัว จริงเสียง” ของ เสธ.วีป กลายเป็น พล.อ.นรินทร์
แผนซ้อนแผนในวงการมวยของ เสธ.วีป ยังทำงานได้ดีเหมือนเดิม แม้บารมี เสธ.หนั่น ก็ยังไม่สามารถช่วยเพื่อนรักได้ !!