ความอำมหิตที่มุ่งหวังเพียงแค่ช่วยเพื่อนกระทั่งดันทุรังมติ ก.ตร.ออกมาสวนกับมติ ป.ป.ช.นั้นถือเป็นความโหดร้ายที่น่าสยดสยองยิ่ง เพราะเป็นเกมแห่งอำนาจที่มีชีวิตประชาชนที่บาดเจ็บและล้มตายเดิมพัน
แน่นอน เป็นที่รับรู้กันว่าเรื่องนี้มีเบื้องหน้าและเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา
“ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์” มีโอกาสได้สัมภาษณ์พิเศษ “นายวิชา มหาคุณ” 1 ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อคลี่ปมของเรื่องนี้ทีละขดเพื่อให้สังคมได้รับทราบความจริงในแง่มุมของกฎหมาย
**มีความคิดเห็นอย่างไรที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีมติสวนกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ?
ไม่มีอะไร เรายังยืนเรื่องของการทำงานของเราว่าเรามีอำนาจในการตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทุจริตคดีอาญาหรือทางวินัย เราทำมาเยอะแล้ว ถ้าผิดก็คงผิดทั้งหมด แต่ทางศาลก็รับรองการทำงานของเรามาตลอด เดิมก็มีหน่วยงานที่โต้แย้งมาเหมือนกัน ก็อย่างที่รู้ เราได้โต้แย้งไป และศาลรัฐธรรมนูญชี้มา ก็โอเค เราทำต่อ และทางกพ. (สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน) เขาก็ยอมรับแล้ว เขาไม่โต้แย้งเรื่องนี้
**กรณีตำรวจนี้ เป็นกรณีแรกใช่ไหมที่ ก.ตร.มีมติสวนทางกับป.ป.ช.?
เป็นกรณีแรกครับ เพราะว่าเดิมท่านไม่ยุ่งอะไร ท่านก็ปฏิบัติตาม เพราะว่าทางคณะรัฐมนตรีแจ้งทุกหน่วยว่าให้ถือตามมติของป.ป.ช ส่วนผู้ที่ได้รับความเสียหายหรือว่าเขาถูกกระทบกระเทือน เขาเป็นผู้จะต้องถูกปลดออก ไล่ออก ก็เป็นเรื่องที่เขาจะไปขอต่อศาลปกครอง ซึ่งก็โต้แย้งกัน อันนี้ไม่ได้หมายความว่าเรายอมว่าที่ศาลปกครองชี้มาแล้วจะถูกต้องอะไรนะ เพียงแต่ว่าเราเห็นว่ามันเป็นกระบวนการที่เป็นไปได้ ก็ไปที่ศาล ก็หมดแล้ว ก็แค่นี้ ส่วนว่าจะเป็นยังไง ก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี เพราะท่านเป็นประธานก.ตร.โดยตำแหน่ง ไม่ใช่ท่านสุเทพ (เทือกสุบรรณ) ท่านสุเทพท่านเป็นเพียงผู้ได้รับการมอบหมายให้ทำงาน
**แล้วอย่างที่ก.ตร. อ้างว่าความผิดวินัยนั้นไม่น่าจะอยู่ในฐานความผิดที่กำหนดไว้ในกฎหมายป.ป.ช.?
เรายืนยันว่าอยู่แน่นอน
**ตำรวจบางนายถึงขั้นออกมาบอกว่า ป.ป.ช ลากเรื่องนี้เข้าไปทำเอง?
คงไม่ใช่ๆ เรายืนยันว่าเรามีอำนาจตามกฎหมายแน่นอน อันนี้ก็ไม่มีใครโต้แย้งเราได้
**ตอนนี้ช่องทางก็คือ ต้องไปยื่นที่ศาลปกครอง มีช่องทางเดียวเท่านั้นที่พอจะทำได้?
มันก็ทำกันอย่างนั้น ที่ผ่านมาเขาก็ทำกันอย่างนั้น ก็คงไม่มีอะไร ผมไม่อยากให้เป็นเรื่องโต้แย้งเพราะว่าเราไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะไปโต้แย้งใครอยู่แล้ว เราชี้ ก็คือจบของฝ่ายเรา ส่วนเขาจะโต้แย้งอะไรก็เป็นเรื่องของเขา
**คิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นเกมของก.ตร.หรือไม่
ท่านต้องยืนยันอย่างนี้ เพราะว่าท่านโต้แย้งเรามาตลอด ทางผู้ที่ถูกกล่าวหา ท่านก็โต้แย้งท่านก็ยกเรื่องนี้ขึ้นมาตลอดทุกเรื่อง ท่านโต้แย้งไปที่ศาลท่านก็โต้แย้งอันนี้ เราก็ถูกกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาฟ้องหมด ฟ้องศาลอาญา ศาลอาญากรุงเทพใต้ แถมยังผ่านทางพรรคฝ่ายค้านด้วย ที่จะให้เราผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแน่งทางการเมือง เขาก็ใช้อำนาจทางนั้น โต้แย้งมาโดยตลอด คงไม่มีกลุ่มของผู้ถูกกล่าวหาคนไหนที่เล่นงานเราหนักขนาดนี้
**จริงๆ แล้ว ก.ตร. ก็ต้องรู้ว่าไม่สามารถทำได้ แต่ก็มีมติกลับสวนมา คิดว่าเป็นเพราะอะไร
คงต้องการแสดงให้กลุ่มพวกท่านทั้งหลาย หรือกลุ่มตำรวจ เห็นว่าได้มีการปกป้อง หรือได้มีการช่วยเหลือถึงที่สุดแล้ว เพราะว่าตำรวจเขาก็เป็นอย่างนี้ คือ 'ใจถึงพึ่งได้' อันนี้คือมอตโต้ของตำรวจ
**แล้วมติก.ตร.ที่ออกมาขัดแย้งกับมติป.ป.ช.อย่างนี้ ถือว่าผิดกฎหมายไหม หรือถือว่า ก.ตร.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือเปล่า?
ยังๆ ครับ เราถึงขอดูมติ เรายังไม่เห็นมติอะไรเลย ยังไม่รู้เขาโต้แย้งยังไง เขาก็อาจจะอ้างว่าเป็นความเห็นในเชิงกฎหมาย ซึ่งไม่ตรงกัน เดี๋ยวผมขอดูก่อน ทางคณะกรรมการบอกว่าขอดูมติตรงนี้ให้ชัดเจนก่อน แล้วใครเป็นคนลงมติบ้าง แล้วก็มีการโต้แย้งอะไรกันในที่ประชุมไหม
**แล้วอย่างที่ พล.ต.อ.ปทีป (ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. ) บอกว่าอาจส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฏีกาตีความอีกรอบ?
ก็ไม่เป็นไร ก็ปล่อยท่าน ก็เคยยื่นมาแล้ว ยื่นมาสดๆ ร้อนๆ แล้วท่านจะยื่นอีกก็เป็นสิทธิ์ของท่าน
**ทำเรื่องให้สุด ให้หมดเรื่องหมดราว?
ก็อาจจะมีการตกลงกันว่าทำให้สุด ให้จบให้ได้
**อย่างที่ป.ป.ช ตัดสินไปแล้ว, แล้วมีการอุทธรณ์ไปที่ศาลปกครอง แล้วศาลปกครองมีคำสั่งที่ขัดแย้งกับป.ป.ช. อย่างนี้จะได้ไหม?
ทางเราเคยมีข้อโต้แย้งว่า ที่ศาลปกครองจะดำเนินการน่าจะไม่ใช่ในเนื้อหา แต่ว่าในกระบวนการ ถ้าท่านแจ้งว่ากระบวนการของเราไม่ชอบอย่างไร เช่น ว่าไม่ส่งเอกสารให้เขา แล้วก็ไปวินิจฉัยทั้งๆ ที่ข้อมูลยังไม่ครบ อันนี้ก็เป็นเรื่องของกระบวนการ ไม่ใช่ในเนื้อหาว่าฟังพยานหลักฐานผิด แต่อย่างไรก็ตามเราก็ดูเป็นเรื่องๆ บางเรื่องเราก็ยอมรับ บางเรื่องก็ขอโต้แย้ง อย่างกรณีของคุณมานิต (นพอมรบดี) เราก็กำลังโต้แย้งอยู่ ว่าขอให้พิจารณาใหม่
**แล้วถ้าไม่ยอมกันเรื่องจะไปจบอย่างไร ?
ก็อาจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญ อย่างคดีของ 'โอ๋ สืบ 6' เราก็เสนอให้ส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด แต่ว่าทางศาลท่านบอกว่าไม่จำเป็นต้องส่ง แต่เรากำลังโต้แย้งไปที่ศาลปกครองสูงสูด ศาลปกครองสูงสุดสั่งให้ศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่ตั้งองค์คณะใหม่ขึ้นมาพิจารณา ซึ่งกำลังอยู่ในกระบวนการ
**จริงๆ แล้วกระบวนการก็ต้องเป็นไปตามที่ โอ๋ สืบ 6 เคยทำมา กรณี 3 นายพลนี้ก็น่าจะเหมือนกันไหม?
ก็อาจจะอาศัยปรึกษาโอ๋ สืบ 6 ได้ เพราะท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญ
**แล้วอย่างที่คุณสุเทพบอกว่าเรื่องนี้ส่งผลต่อขวัญและกำลังใจของตำรวจ ท่านมองเรื่องนี้อย่างไร?
เรื่องทุกเรื่องส่งผลต่อกำลังใจหมด ผมมีเรื่องที่ตำรวจมีปัญหาอยู่ในมือเยอะแยะเลย เป็นร้อย เรื่อง ก็ส่งผลทั้งนั้น จะทำยังไงได้ เป็นหน้าที่ของเราต้องตรวจสอบ
**คิดว่าหากนายกฯ ไม่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ปัญหาจะจบจริงๆ ไหม?
ก็อย่างที่ว่าไง ในเมื่อท่านนายกฯ ไม่ยอมรับลูก ท่านเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของตำรวจ ตามกฎหมายเลย แล้วท่านบอกว่า ไม่เอา มันก็ไปไหนไม่ได้ มันก็อยู่ที่ตรงนั้น
** แล้วถ้า ก.ตร. เขาจะถูลู่ถูกังดำเนินการอะไรต่อไปอีกล่ะ?
มันไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นคุณขัดคำสั่งนายกรัฐมนตรีเหรอ แต่ยังไม่ถึงตอนนั้นไง ก็ต้องว่ากันอย่างนั้น ให้ท่านนายกฯ เป็นคนดำเนินการ เพราะเป็นผู้บังคับบัญชา เราคณะกรรมการป.ป.ช ไม่ได้เป็นผู้บังคับบัญชาใคร เราเป็นคนตรวจสอบเฉยๆ เหมือนเราปรุงอาหารแล้วเอาให้เขา เขาบอกไม่กิน! เพียงแต่ว่าคนที่จะสั่งให้กินมันอยู่ที่ท่านนายกฯ
