และแล้วคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ของประเทศไทย จากนี้ไปก็จะเป็นกระบวนการนำความขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง การตั้งคณะรัฐมนตรี การเข้าถวายสัตย์ และการแถลงนโยบาย ซึ่งคงจะใช้เวลาอีกราว 20 วัน ระหว่างนี้ก็ยังคงต้องทำหน้าที่รักษาการไปพลางก่อน
จะว่าเป็นบุญวาสนาหรือเป็นคราวที่จะสิ้นวาสนาของคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็ได้ทั้งสองอย่าง แต่จะเป็นอย่างไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับการกระทำ เพราะผลแห่งกรรมย่อมเกิดจากกรรมนั่นเอง
เรื่องใหญ่ที่สุดที่คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะต้องฝ่าวิบากก็คือความเป็นน้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถูกแกนนำแก๊งออฟโฟร์ออกแถลงการณ์ตราหน้าว่าเป็นเสียยิ่งกว่านอมินี่ คือเป็นแฟมิลี่ไปเลย
หมายความว่าไม่ใช่เป็นแค่ตัวแทนหรือร่างทรงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นเด็กในบ้านที่เป็นร่างทรงไปเลย ซึ่งออกจะเป็นคำกล่าวหาที่หนักหนาและยากที่จะสลัดภาพนี้ให้พ้นตัวไปได้ ดังที่นายทหารอากาศคนสำคัญและนักการเมืองผู้ใหญ่อีกหลายคนได้ชี้ไว้
ภาพลักษณ์ดังกล่าวเป็นภาพลบและทำให้สังคมปรามาสขาดความเชื่อถือว่าถึงแม้จะพูดจาโอนอ่อนผ่อนปรนประการใด แต่ในที่สุดแล้วก็ยังคงต้องทำตัวเป็นหุ่นเชิดและเป็นเด็กในบ้านของคุณทักษิณ ชินวัตร อยู่ดี
เมื่อเป็นอย่างนี้ คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะเอาอย่างไร? และจะทำอย่างไร? เพราะไม่เพียงแค่ภาพภาระและพันธะที่มีกับคุณทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น หากยังมีภาพลักษณ์และพันธะที่มีเงาของภริยาผู้สุดแสนจะมั่งคั่งทะมึนทาบอยู่ข้างหลังอีกด้วย
หลายคนจึงตั้งข้อสังเกตว่าคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้ดีเพราะเมีย ในที่สุดก็คงต้องพังเพราะเมีย
แต่กรณีจะเป็นประการใดนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับการกระทำของคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เอง ว่าเมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วจะเอาอย่างไร จะทำอย่างไร คือจะทำให้เจ๊งเร็วหรือให้เจ๊งช้าก็ได้
การจะเจ๊งเร็ว เจ๊งช้าประการใด เห็นจะขึ้นอยู่กับการกระทำและการไม่กระทำใน เจ็ดเรื่องดังต่อไปนี้
หากจะเลือกวิธีเจ๊งเร็ว ก็ต้องทำในเรื่องดังต่อไปนี้
หนึ่ง รีบสั่งการให้จับกุม 9 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และรีบสลายม็อบที่ชุมนุมอยู่ในทำเนียบรัฐบาล
สอง ระดมตั้งคนชั่วทั้งหลายเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ผลักไสไล่ส่งคนดีอย่าให้มีอำนาจในบ้านเมือง และตรงจุดสำคัญคือกระทรวงกลาโหมนั้นให้เอาอดีตแม่ทัพใหญ่ทางเหนือมาเป็นรัฐมนตรีกลาโหม เพื่อกวาดล้างคณะทหารเสือพระราชินีออกจากกองทัพบกให้หมดเกลี้ยง แล้วดึงนายทหารรุ่น 10 สายคุณทักษิณ ชินวัตร เข้ามามีอำนาจแทน
สาม ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกผิด ฟอกโกง ต่อยอดที่เคยตั้งท่ากันมาก่อนหน้านั้นแล้ว
สี่ เร่งโครงการเมกกะโปรเจ็กต์ที่โกงบ้านผลาญเมืองเพื่อเอาเงินหลวงมาแบ่งปันกันในหมู่พวกพ้อง โดยไม่ต้องแคร์หน้าอินทร์หน้าพรหมไหนทั้งนั้น
ห้า ไม่ถอนพาสปอร์ตแดงของคุณทักษิณ ชินวัตร และนิรโทษกรรมให้กับอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน
หก ส่งเสริมรัฐตำรวจและกลุ่มอันธพาลการเมืองให้ข่มเหงรังแกประชาชน ทุบตีทำร้ายหรือทำลายพวกที่มีความเห็นไม่ตรงกัน
เจ็ด เร่งใช้อำนาจรัฐขยายมวลชนคนเสื้อแดง ส่งเสริมและปกป้องขบวนการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยใช้สื่อของรัฐโดยเฉพาะ NBT เป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อ
รับรองได้เลยว่าหากทำเรื่องเจ็ดประการนี้แล้ว รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็จะเจ๊งไม่เป็นท่าในเวลาอันรวดเร็วที่สุด และถ้าจะเลือกเจ๊งเร็วก็ต้องรีบทำทั้งเจ็ดเรื่องนี้เพราะดีร้ายไม่ต้องทำหมดทุกเรื่อง ทำแค่บางเรื่องก็คงเจ๊งสมใจ
แต่ถ้าอยากจะเจ๊งช้าหรืออยากจะอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้นาน และสามารถสร้างสรรค์ประโยชน์แก่ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ก็ต้องทำหรือไม่ทำเจ็ดเรื่องดังต่อไปนี้
หนึ่ง ส่งเสริมสนับสนุนและเลือกเฟ้นให้คนดีมีฝีมือเข้ามามีอำนาจในบ้านเมือง และป้องกันขัดขวางไม่ให้คนไม่ดีเข้ามามีอำนาจในบ้านเมือง โดยเฉพาะในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี และข้าราชการระดับสำคัญ ๆ เดินตามรอยพระบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้มั่นคง ซึ่งจะเป็นรากฐานของความสงบสุขในบ้านเมือง
การจะแต่งตั้งผู้ใดให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทย ได้ผ่านการร่วมปรึกษาหารือกับคณะผู้นำฝ่ายทหารให้เป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ให้เกิดความหวาดระแวงแคลงใจกัน
สอง ประกาศจุดยืนไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างน้อย 3 ปี และไม่นิรโทษกรรมให้แก่อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย รวมทั้งไม่เข้าแทรกแซงครอบงำกระบวนการยุติธรรมทุกประเภท ทุกระดับ
สาม คืนความเป็นธรรมให้กับประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เริ่มต้นด้วยการถอนข้อหากบฏ 9 แกนนำซึ่งเกิดจากการกลั่นแกล้งใส่ร้ายป้ายสีให้เห็นเป็นที่ประจักษ์
เพื่อเคารพต่อมติของมหาประชาชน จัดตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างรัฐบาลกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อกำหนดแนวทางการเมืองใหม่ที่จะฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเป็นประโยชน์แก่มหาชนชาวไทยอย่างแท้จริง
สี่ สลายรัฐตำรวจและอิทธิพลอำนาจมืดในสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมทั้งสองหน่วยนี้เป็นขื่อแปที่น่านับถือศรัทธาของมหาชนอย่างแท้จริง
ห้า ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หยุดสถานการณ์ที่ทำให้ชาติล่มจมในทันที
หก สร้างความสามัคคีภายในชาติโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์กลาง
เจ็ด มีความเป็นอิสระแก่ตนเอง ไม่เป็นหุ่นเชิด ไม่ขายชาติ เร่งแก้ไขปัญหาการสูญเสียอธิปไตยให้แก่กัมพูชา เร่งแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เร่งแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติและพิบัติทางเศรษฐกิจที่กำลังคุกคามชาติบ้านเมืองอย่างหนักหน่วง
ทำเจ็ดประการนี้ได้ รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็จะอยู่ยาว และได้รับเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญ
คนเรานั้นอุปการะเกื้อกูลกันมา และต้องตอบแทนบุญคุณกันก็จริงอยู่ แต่การเข้าใจสภาพความจริงเพื่อปฏิบัติการใด ๆ ให้เป็นผลดีแก่ประเทศชาติและประชาชนยิ่งกว่าเพื่อคน ๆ เดียวหรือกลุ่มเดียว ย่อมเป็นเรื่องสำคัญกว่า
หากในวันนี้คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตั้งสติคิดได้ว่าสถานการณ์ของคุณทักษิณ ชินวัตร ไม่อาจฟื้นคืนสู่อำนาจได้ และต้องใช้เวลาลี้ภัยในต่างประเทศไปอีกนาน ก็หาประโยชน์อันใดที่จะทำการเหมือนกับรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช
หากตั้งสติคิดได้เช่นนี้ก็อาจปฏิเสธหนทางเจ๊งเร็ว และเลือกเอาหนทางที่จะทำหน้าที่รัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้เป็นประโยชน์และความสุขแก่มหาชนชาวไทยก็ย่อมกระทำได้ ดังที่ได้แสดงวิธีการเจ็ดประการดังกล่าวข้างต้น
แม้กระนั้นแล้ว คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็ยังคงต้องคุมสติให้มั่น เพราะยังคงต้องฝ่าฟันบรรดาคดีความและข้อกล่าวหาอีกมากหลายทั้งที่อยู่ในขั้นของ ป.ป.ช. ทั้งที่อยู่ในขั้นของอัยการ และที่อยู่ในระหว่างดำเนินการของ กกต. ตลอดจนเรื่องที่กำลังจะเกิดหรือที่จะปรากฏขึ้นมาเพิ่มเติมอีกไม่รู้เท่าใด
อุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงจะซ้ำเติมสถานการณ์ให้หนักหน่วงยิ่งขึ้นและเร็วขึ้นหากว่าเลือกหนทางเจ๊งเร็ว แต่จะผ่อนคลายไปหากว่าเลือกหนทางที่จะเป็นรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างแท้จริง
คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะเลือกอย่างไหนก็ได้ผลอย่างนั้น และผลที่ได้รับจะไม่เพียงคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะได้รับคนเดียวเท่านั้น แต่ผู้คนทั้งหลายในครอบครัวก็ย่อมได้รับผลไปด้วย ดังอุทาหรณ์สอนใจกรณีคุณทักษิณ ชินวัตร นั่นแล้ว
คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เคยเป็นศิษย์วัดสำนักวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารมาก่อน ก็น่าจะรู้จักและคิดถึงการใช้วิชาเด็กวัดในการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เพราะชีวิตนี้โอกาสที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีก็คงมีครั้งเดียวนี้แหละ
จะเป็นทรชน หรือวีรชน จะชั่ว จะดี จะถูกคนเขาประณามหยามเหยียด หรือยกย่องสรรเสริญ รวมทั้งตนเองและครอบครัวจะประสบสวัสดิมงคลหรืออัปมงคลก็อยู่ที่การตัดสินใจครั้งนี้.
จะว่าเป็นบุญวาสนาหรือเป็นคราวที่จะสิ้นวาสนาของคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็ได้ทั้งสองอย่าง แต่จะเป็นอย่างไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับการกระทำ เพราะผลแห่งกรรมย่อมเกิดจากกรรมนั่นเอง
เรื่องใหญ่ที่สุดที่คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะต้องฝ่าวิบากก็คือความเป็นน้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถูกแกนนำแก๊งออฟโฟร์ออกแถลงการณ์ตราหน้าว่าเป็นเสียยิ่งกว่านอมินี่ คือเป็นแฟมิลี่ไปเลย
หมายความว่าไม่ใช่เป็นแค่ตัวแทนหรือร่างทรงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นเด็กในบ้านที่เป็นร่างทรงไปเลย ซึ่งออกจะเป็นคำกล่าวหาที่หนักหนาและยากที่จะสลัดภาพนี้ให้พ้นตัวไปได้ ดังที่นายทหารอากาศคนสำคัญและนักการเมืองผู้ใหญ่อีกหลายคนได้ชี้ไว้
ภาพลักษณ์ดังกล่าวเป็นภาพลบและทำให้สังคมปรามาสขาดความเชื่อถือว่าถึงแม้จะพูดจาโอนอ่อนผ่อนปรนประการใด แต่ในที่สุดแล้วก็ยังคงต้องทำตัวเป็นหุ่นเชิดและเป็นเด็กในบ้านของคุณทักษิณ ชินวัตร อยู่ดี
เมื่อเป็นอย่างนี้ คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะเอาอย่างไร? และจะทำอย่างไร? เพราะไม่เพียงแค่ภาพภาระและพันธะที่มีกับคุณทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น หากยังมีภาพลักษณ์และพันธะที่มีเงาของภริยาผู้สุดแสนจะมั่งคั่งทะมึนทาบอยู่ข้างหลังอีกด้วย
หลายคนจึงตั้งข้อสังเกตว่าคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้ดีเพราะเมีย ในที่สุดก็คงต้องพังเพราะเมีย
แต่กรณีจะเป็นประการใดนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับการกระทำของคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เอง ว่าเมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วจะเอาอย่างไร จะทำอย่างไร คือจะทำให้เจ๊งเร็วหรือให้เจ๊งช้าก็ได้
การจะเจ๊งเร็ว เจ๊งช้าประการใด เห็นจะขึ้นอยู่กับการกระทำและการไม่กระทำใน เจ็ดเรื่องดังต่อไปนี้
หากจะเลือกวิธีเจ๊งเร็ว ก็ต้องทำในเรื่องดังต่อไปนี้
หนึ่ง รีบสั่งการให้จับกุม 9 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และรีบสลายม็อบที่ชุมนุมอยู่ในทำเนียบรัฐบาล
สอง ระดมตั้งคนชั่วทั้งหลายเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ผลักไสไล่ส่งคนดีอย่าให้มีอำนาจในบ้านเมือง และตรงจุดสำคัญคือกระทรวงกลาโหมนั้นให้เอาอดีตแม่ทัพใหญ่ทางเหนือมาเป็นรัฐมนตรีกลาโหม เพื่อกวาดล้างคณะทหารเสือพระราชินีออกจากกองทัพบกให้หมดเกลี้ยง แล้วดึงนายทหารรุ่น 10 สายคุณทักษิณ ชินวัตร เข้ามามีอำนาจแทน
สาม ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกผิด ฟอกโกง ต่อยอดที่เคยตั้งท่ากันมาก่อนหน้านั้นแล้ว
สี่ เร่งโครงการเมกกะโปรเจ็กต์ที่โกงบ้านผลาญเมืองเพื่อเอาเงินหลวงมาแบ่งปันกันในหมู่พวกพ้อง โดยไม่ต้องแคร์หน้าอินทร์หน้าพรหมไหนทั้งนั้น
ห้า ไม่ถอนพาสปอร์ตแดงของคุณทักษิณ ชินวัตร และนิรโทษกรรมให้กับอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน
หก ส่งเสริมรัฐตำรวจและกลุ่มอันธพาลการเมืองให้ข่มเหงรังแกประชาชน ทุบตีทำร้ายหรือทำลายพวกที่มีความเห็นไม่ตรงกัน
เจ็ด เร่งใช้อำนาจรัฐขยายมวลชนคนเสื้อแดง ส่งเสริมและปกป้องขบวนการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยใช้สื่อของรัฐโดยเฉพาะ NBT เป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อ
รับรองได้เลยว่าหากทำเรื่องเจ็ดประการนี้แล้ว รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็จะเจ๊งไม่เป็นท่าในเวลาอันรวดเร็วที่สุด และถ้าจะเลือกเจ๊งเร็วก็ต้องรีบทำทั้งเจ็ดเรื่องนี้เพราะดีร้ายไม่ต้องทำหมดทุกเรื่อง ทำแค่บางเรื่องก็คงเจ๊งสมใจ
แต่ถ้าอยากจะเจ๊งช้าหรืออยากจะอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้นาน และสามารถสร้างสรรค์ประโยชน์แก่ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ก็ต้องทำหรือไม่ทำเจ็ดเรื่องดังต่อไปนี้
หนึ่ง ส่งเสริมสนับสนุนและเลือกเฟ้นให้คนดีมีฝีมือเข้ามามีอำนาจในบ้านเมือง และป้องกันขัดขวางไม่ให้คนไม่ดีเข้ามามีอำนาจในบ้านเมือง โดยเฉพาะในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี และข้าราชการระดับสำคัญ ๆ เดินตามรอยพระบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้มั่นคง ซึ่งจะเป็นรากฐานของความสงบสุขในบ้านเมือง
การจะแต่งตั้งผู้ใดให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทย ได้ผ่านการร่วมปรึกษาหารือกับคณะผู้นำฝ่ายทหารให้เป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ให้เกิดความหวาดระแวงแคลงใจกัน
สอง ประกาศจุดยืนไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างน้อย 3 ปี และไม่นิรโทษกรรมให้แก่อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย รวมทั้งไม่เข้าแทรกแซงครอบงำกระบวนการยุติธรรมทุกประเภท ทุกระดับ
สาม คืนความเป็นธรรมให้กับประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เริ่มต้นด้วยการถอนข้อหากบฏ 9 แกนนำซึ่งเกิดจากการกลั่นแกล้งใส่ร้ายป้ายสีให้เห็นเป็นที่ประจักษ์
เพื่อเคารพต่อมติของมหาประชาชน จัดตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างรัฐบาลกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อกำหนดแนวทางการเมืองใหม่ที่จะฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเป็นประโยชน์แก่มหาชนชาวไทยอย่างแท้จริง
สี่ สลายรัฐตำรวจและอิทธิพลอำนาจมืดในสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมทั้งสองหน่วยนี้เป็นขื่อแปที่น่านับถือศรัทธาของมหาชนอย่างแท้จริง
ห้า ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หยุดสถานการณ์ที่ทำให้ชาติล่มจมในทันที
หก สร้างความสามัคคีภายในชาติโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์กลาง
เจ็ด มีความเป็นอิสระแก่ตนเอง ไม่เป็นหุ่นเชิด ไม่ขายชาติ เร่งแก้ไขปัญหาการสูญเสียอธิปไตยให้แก่กัมพูชา เร่งแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เร่งแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติและพิบัติทางเศรษฐกิจที่กำลังคุกคามชาติบ้านเมืองอย่างหนักหน่วง
ทำเจ็ดประการนี้ได้ รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็จะอยู่ยาว และได้รับเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญ
คนเรานั้นอุปการะเกื้อกูลกันมา และต้องตอบแทนบุญคุณกันก็จริงอยู่ แต่การเข้าใจสภาพความจริงเพื่อปฏิบัติการใด ๆ ให้เป็นผลดีแก่ประเทศชาติและประชาชนยิ่งกว่าเพื่อคน ๆ เดียวหรือกลุ่มเดียว ย่อมเป็นเรื่องสำคัญกว่า
หากในวันนี้คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตั้งสติคิดได้ว่าสถานการณ์ของคุณทักษิณ ชินวัตร ไม่อาจฟื้นคืนสู่อำนาจได้ และต้องใช้เวลาลี้ภัยในต่างประเทศไปอีกนาน ก็หาประโยชน์อันใดที่จะทำการเหมือนกับรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช
หากตั้งสติคิดได้เช่นนี้ก็อาจปฏิเสธหนทางเจ๊งเร็ว และเลือกเอาหนทางที่จะทำหน้าที่รัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้เป็นประโยชน์และความสุขแก่มหาชนชาวไทยก็ย่อมกระทำได้ ดังที่ได้แสดงวิธีการเจ็ดประการดังกล่าวข้างต้น
แม้กระนั้นแล้ว คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็ยังคงต้องคุมสติให้มั่น เพราะยังคงต้องฝ่าฟันบรรดาคดีความและข้อกล่าวหาอีกมากหลายทั้งที่อยู่ในขั้นของ ป.ป.ช. ทั้งที่อยู่ในขั้นของอัยการ และที่อยู่ในระหว่างดำเนินการของ กกต. ตลอดจนเรื่องที่กำลังจะเกิดหรือที่จะปรากฏขึ้นมาเพิ่มเติมอีกไม่รู้เท่าใด
อุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงจะซ้ำเติมสถานการณ์ให้หนักหน่วงยิ่งขึ้นและเร็วขึ้นหากว่าเลือกหนทางเจ๊งเร็ว แต่จะผ่อนคลายไปหากว่าเลือกหนทางที่จะเป็นรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างแท้จริง
คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะเลือกอย่างไหนก็ได้ผลอย่างนั้น และผลที่ได้รับจะไม่เพียงคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะได้รับคนเดียวเท่านั้น แต่ผู้คนทั้งหลายในครอบครัวก็ย่อมได้รับผลไปด้วย ดังอุทาหรณ์สอนใจกรณีคุณทักษิณ ชินวัตร นั่นแล้ว
คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เคยเป็นศิษย์วัดสำนักวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารมาก่อน ก็น่าจะรู้จักและคิดถึงการใช้วิชาเด็กวัดในการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เพราะชีวิตนี้โอกาสที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีก็คงมีครั้งเดียวนี้แหละ
จะเป็นทรชน หรือวีรชน จะชั่ว จะดี จะถูกคนเขาประณามหยามเหยียด หรือยกย่องสรรเสริญ รวมทั้งตนเองและครอบครัวจะประสบสวัสดิมงคลหรืออัปมงคลก็อยู่ที่การตัดสินใจครั้งนี้.