ค่อนข้างจะแน่นอนแล้วว่าพรรคพลังประชาชนจะพร้อมใจกันเสนอนายสมัคร สุนทรเวช กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งเป็นสมัยที่สอง
เป็นไปดังที่แกนนำพรรคพลังประชาชนได้แถลงไว้ว่า พวกเขาจะสั่งสอนระบบยุติธรรมของประเทศไทยว่าทำอะไรพวกเขาไม่ได้
ก็ต้องคอยดูกันต่อไปว่านายสมัคร สุนทรเวช จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองหรือไม่? เพราะสถานการณ์ในขณะนี้ยังไม่นิ่ง ยังคงผันแปรเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
อุปมาดั่งเมฆที่ลอยอยู่ในนภากาศ หานิ่งอยู่กับที่ไม่ ลมฝนบนฟ้าไหนเลยจะนิ่งเฉยดูดายปล่อยให้บ้านเมืองพังพินาศฉิบหายไปต่อหน้าต่อตา อะไรต่อมิอะไรที่เกินไปจากความคาดคะเนของผู้คนย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ
ทว่าท่าทีที่จะสนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช ให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งนั้นได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่าพรรคพลังประชาชนไม่สนใจแยแสแก้ไขปัญหาวิกฤตของบ้านเมือง
เป็นทำนองว่าเจ้านายกูเดือดร้อน คนไทยทั้งหมดก็ต้องเดือดร้อนด้วย และเป็นที่แน่นอนด้วยว่าในพลันที่มีการเสนอชื่อนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี กระแสต่อต้านคัดค้านก็จะยิ่งกึกก้องกระหึ่มไปทั้งบ้านทั้งเมือง
ชะดีชะร้ายอาจเป็นการปิดฉากบรรยากาศอึมครึมและทุกข์ตรมของอาณาประชาราษฎร์ไปอีกฉากหนึ่ง
เอาเป็นว่าถ้าหากนายสมัคร สุนทรเวช ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยหนึ่ง กระบวนการต่าง ๆ ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ก็จะเป็นดังต่อไปนี้
ขั้นแรก สภาผู้แทนราษฎรก็จะเสนอชื่อนายสมัคร สุนทรเวช ต่อพระมหากษัตริย์เพื่อทรงแต่งตั้งตามรัฐธรรมนูญ ที่ถ้าหากปกติก็จะทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตามเสนอ แต่พระมหากษัตริย์ก็มีพระราชอำนาจที่จะไม่ทรงแต่งตั้งก็ได้ และถ้าเป็นเช่นนั้นสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องสรรหากันใหม่ เพราะหากทรงใช้พระราชอำนาจนี้ก็เป็นอันที่สุด อุทธรณ์ ฎีกาอันใดมิได้อีกแล้ว
ขั้นที่สอง เมื่อทรงแต่งตั้งแล้ว นายกรัฐมนตรีก็ต้องเข้าถวายสัตย์ต่อพระมหากษัตริย์ จากนั้นก็นำชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ และนำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าถวายสัตย์เพื่อเข้ารับตำแหน่ง
ขั้นที่สาม คณะรัฐมนตรีต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งหน้าที่
กระบวนการทั้งสามขั้นตอนดังกล่าวนี้ก็ต้องใช้เวลา 10-15 วัน และดูไปแล้วก็จะคาบเกี่ยวกับวันที่ศาลอุทธรณ์นัดฟังคำพิพากษาคดีที่ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งศาลชั้นต้นนัดฟังคำสั่งขอเลื่อนการฟังคำพิพากษาในวันเดียวกัน
หากศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นก็จะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ คงฎีกาได้เฉพาะแต่ปัญหาข้อกฎหมาย และถ้าเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีศาลก็จะไม่รับฎีกา แล้วจะส่งนายสมัคร สุนทรเวช เข้าเรือนจำไปตามระเบียบ
ดูปมเงื่อนเวลาตรงนี้แล้ว หากนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองก็อาจไม่ทันได้แถลงนโยบายหรือไม่ทันได้บริหารราชการแผ่นดิน คณะรัฐมนตรีก็อาจสิ้นสุดลงอีกครั้งหนึ่ง
ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เป็นทั้งความอัปลักษณ์และความอัปยศของเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรที่ไม่มีสำนึกรับผิดชอบและไม่มีความเป็นประชาธิปไตย
ดูปัจจัยความเสี่ยงตรงนี้แล้วก็มีแนวโน้มให้เห็นเช่นเดียวกันว่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่อาจทำให้นายสมัคร สุนทรเวช ไม่ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง
ถ้าใครจะให้ฟันธง ก็ต้องขอฟันธงว่านายสมัคร สุนทรเวช ไม่มีโอกาสกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง!
ส่วนนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นหุ่นเชิดในค่ายเดิม หรือจะเป็นนายบรรหาร ศิลปอาชา หรือจะเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะนี้ยังไม่มีความแน่ชัด ความจริงจะเปิดเผยให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นหลังเที่ยงคืนวันนี้ไปแล้ว
ทำไมถึงต้องดึงดันจะเอานายสมัคร สุนทรเวช กลับมา? เหตุผลสำคัญอยู่ตรงที่การตัดสินใจเสี่ยงตายยืมมือนายสมัคร สุนทรเวช กดข่มกองทัพให้สยบอยู่ในกำมือ หรือมิฉะนั้นก็จะมีการปลดผู้นำเหล่าทัพคนสำคัญ ๆ
แล้วเอานายทหารบางกลุ่มเข้ามาทำหน้าที่แทน ก่อเงื่อนไขรัฐประหารตนเองเพื่อฟอกเรื่องราวทั้งหลายที่คาราคาซังอยู่ให้จบสิ้นไป บุกเบิกหนทางสายใหม่ชนิดพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินกันเลยทีเดียว
ความสำเร็จที่จะผลักดันนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ตรงที่พรรคร่วมรัฐบาล 5 พรรคว่าจะร่วมสังฆกรรมประหัตประหารชาติบ้านเมืองและประชาชนดังที่นายเสนาะ เทียนทอง ได้พูดไว้หรือไม่
หากพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรคตัดสินใจฆ่าตัวตายโดยแบบวิธีเดียวกันกับเหตุการณ์เดือนพฤษภาทมิฬ ก็คงได้ตายสมใจ แล้วจะถูกกลบฝังไว้ในประวัติศาสตร์อันเลวร้ายของชาติบ้านเมืองให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป
แต่ถ้าหากพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรคสำนึกรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ไม่ยอมยกมือให้นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี และไม่ยอมจำนนต่อแรงกดดันอีกต่อไป ก็อาจไปหนุนนายบรรหาร ศิลปอาชา หรือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี
อายุขัยของรัฐบาลใหม่ก็พอจะยืดยาวไปได้ เพราะไม่ต้องเสี่ยงที่จะต้องพ้นจากตำแหน่งหากว่า ป.ป.ช. หรือศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาเกี่ยวกับกรณีแถลงการณ์ร่วมเรื่องเขาพระวิหาร
มีโอกาสที่จะกอบกู้วิกฤตที่หนักที่สุดในโลก และใกล้ทำให้ชาติล่มจมได้บ้าง!
เป็นไปดังที่แกนนำพรรคพลังประชาชนได้แถลงไว้ว่า พวกเขาจะสั่งสอนระบบยุติธรรมของประเทศไทยว่าทำอะไรพวกเขาไม่ได้
ก็ต้องคอยดูกันต่อไปว่านายสมัคร สุนทรเวช จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองหรือไม่? เพราะสถานการณ์ในขณะนี้ยังไม่นิ่ง ยังคงผันแปรเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
อุปมาดั่งเมฆที่ลอยอยู่ในนภากาศ หานิ่งอยู่กับที่ไม่ ลมฝนบนฟ้าไหนเลยจะนิ่งเฉยดูดายปล่อยให้บ้านเมืองพังพินาศฉิบหายไปต่อหน้าต่อตา อะไรต่อมิอะไรที่เกินไปจากความคาดคะเนของผู้คนย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ
ทว่าท่าทีที่จะสนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช ให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งนั้นได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่าพรรคพลังประชาชนไม่สนใจแยแสแก้ไขปัญหาวิกฤตของบ้านเมือง
เป็นทำนองว่าเจ้านายกูเดือดร้อน คนไทยทั้งหมดก็ต้องเดือดร้อนด้วย และเป็นที่แน่นอนด้วยว่าในพลันที่มีการเสนอชื่อนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี กระแสต่อต้านคัดค้านก็จะยิ่งกึกก้องกระหึ่มไปทั้งบ้านทั้งเมือง
ชะดีชะร้ายอาจเป็นการปิดฉากบรรยากาศอึมครึมและทุกข์ตรมของอาณาประชาราษฎร์ไปอีกฉากหนึ่ง
เอาเป็นว่าถ้าหากนายสมัคร สุนทรเวช ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยหนึ่ง กระบวนการต่าง ๆ ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ก็จะเป็นดังต่อไปนี้
ขั้นแรก สภาผู้แทนราษฎรก็จะเสนอชื่อนายสมัคร สุนทรเวช ต่อพระมหากษัตริย์เพื่อทรงแต่งตั้งตามรัฐธรรมนูญ ที่ถ้าหากปกติก็จะทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตามเสนอ แต่พระมหากษัตริย์ก็มีพระราชอำนาจที่จะไม่ทรงแต่งตั้งก็ได้ และถ้าเป็นเช่นนั้นสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องสรรหากันใหม่ เพราะหากทรงใช้พระราชอำนาจนี้ก็เป็นอันที่สุด อุทธรณ์ ฎีกาอันใดมิได้อีกแล้ว
ขั้นที่สอง เมื่อทรงแต่งตั้งแล้ว นายกรัฐมนตรีก็ต้องเข้าถวายสัตย์ต่อพระมหากษัตริย์ จากนั้นก็นำชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ และนำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าถวายสัตย์เพื่อเข้ารับตำแหน่ง
ขั้นที่สาม คณะรัฐมนตรีต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งหน้าที่
กระบวนการทั้งสามขั้นตอนดังกล่าวนี้ก็ต้องใช้เวลา 10-15 วัน และดูไปแล้วก็จะคาบเกี่ยวกับวันที่ศาลอุทธรณ์นัดฟังคำพิพากษาคดีที่ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งศาลชั้นต้นนัดฟังคำสั่งขอเลื่อนการฟังคำพิพากษาในวันเดียวกัน
หากศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นก็จะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ คงฎีกาได้เฉพาะแต่ปัญหาข้อกฎหมาย และถ้าเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีศาลก็จะไม่รับฎีกา แล้วจะส่งนายสมัคร สุนทรเวช เข้าเรือนจำไปตามระเบียบ
ดูปมเงื่อนเวลาตรงนี้แล้ว หากนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองก็อาจไม่ทันได้แถลงนโยบายหรือไม่ทันได้บริหารราชการแผ่นดิน คณะรัฐมนตรีก็อาจสิ้นสุดลงอีกครั้งหนึ่ง
ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เป็นทั้งความอัปลักษณ์และความอัปยศของเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรที่ไม่มีสำนึกรับผิดชอบและไม่มีความเป็นประชาธิปไตย
ดูปัจจัยความเสี่ยงตรงนี้แล้วก็มีแนวโน้มให้เห็นเช่นเดียวกันว่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่อาจทำให้นายสมัคร สุนทรเวช ไม่ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง
ถ้าใครจะให้ฟันธง ก็ต้องขอฟันธงว่านายสมัคร สุนทรเวช ไม่มีโอกาสกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง!
ส่วนนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นหุ่นเชิดในค่ายเดิม หรือจะเป็นนายบรรหาร ศิลปอาชา หรือจะเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะนี้ยังไม่มีความแน่ชัด ความจริงจะเปิดเผยให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นหลังเที่ยงคืนวันนี้ไปแล้ว
ทำไมถึงต้องดึงดันจะเอานายสมัคร สุนทรเวช กลับมา? เหตุผลสำคัญอยู่ตรงที่การตัดสินใจเสี่ยงตายยืมมือนายสมัคร สุนทรเวช กดข่มกองทัพให้สยบอยู่ในกำมือ หรือมิฉะนั้นก็จะมีการปลดผู้นำเหล่าทัพคนสำคัญ ๆ
แล้วเอานายทหารบางกลุ่มเข้ามาทำหน้าที่แทน ก่อเงื่อนไขรัฐประหารตนเองเพื่อฟอกเรื่องราวทั้งหลายที่คาราคาซังอยู่ให้จบสิ้นไป บุกเบิกหนทางสายใหม่ชนิดพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินกันเลยทีเดียว
ความสำเร็จที่จะผลักดันนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ตรงที่พรรคร่วมรัฐบาล 5 พรรคว่าจะร่วมสังฆกรรมประหัตประหารชาติบ้านเมืองและประชาชนดังที่นายเสนาะ เทียนทอง ได้พูดไว้หรือไม่
หากพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรคตัดสินใจฆ่าตัวตายโดยแบบวิธีเดียวกันกับเหตุการณ์เดือนพฤษภาทมิฬ ก็คงได้ตายสมใจ แล้วจะถูกกลบฝังไว้ในประวัติศาสตร์อันเลวร้ายของชาติบ้านเมืองให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป
แต่ถ้าหากพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรคสำนึกรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ไม่ยอมยกมือให้นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี และไม่ยอมจำนนต่อแรงกดดันอีกต่อไป ก็อาจไปหนุนนายบรรหาร ศิลปอาชา หรือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี
อายุขัยของรัฐบาลใหม่ก็พอจะยืดยาวไปได้ เพราะไม่ต้องเสี่ยงที่จะต้องพ้นจากตำแหน่งหากว่า ป.ป.ช. หรือศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาเกี่ยวกับกรณีแถลงการณ์ร่วมเรื่องเขาพระวิหาร
มีโอกาสที่จะกอบกู้วิกฤตที่หนักที่สุดในโลก และใกล้ทำให้ชาติล่มจมได้บ้าง!
