กทพ.จัดประชุมชี้แจงรายละเอียดทำความเข้าใจเอกชน 13 บริษัทก่อนยื่นข้อเสนอ (Pre-bid Meeting) ชิงสัมปทานทางด่วน "กะทู้-ป่าตอง" มูลค่า 1.46 หมื่นล้านบาท 10 ก.พ.นี้ ลง จ.ภูเก็ตดูพื้นที่ก่อสร้าง "ผู้ว่าฯ กทพ." คาดลงนามสัญญาได้ใน ธ.ค. 2566 สร้างเสร็จปี 2570
วันนี้ (31 ม.ค. 2566) เวลา 09.15 น. ณ ห้องประชุม 0307 อาคารศูนย์บริหารทางพิเศษ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. เป็นประธานการประชุมก่อนการยื่นข้อเสนอของเอกชน (Pre-bid Meeting) โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้เอกชนได้รับทราบข้อมูลรายละเอียดของโครงการอย่างรอบด้าน รวมทั้งเข้าใจรายละเอียดการจัดทำข้อเสนอได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน พร้อมทั้งตอบข้อสงสัย เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเอกชนยื่นซองข้อเสนอต่อไป
จากที่ กทพ.เปิดขายเอกสารสำหรับคัดเลือกเอกชน (RFP) ถึงวันที่ 25 ม.ค. 2566 ปรากฏว่ามีบริษัทเอกชนทั้ง ไทย จีน และฝรั่งเศส สนใจซื้อเอกสารและเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้จำนวน 13 ราย
ในการประชุมก่อนการยื่นข้อเสนอของเอกชน (Pre-bid Meeting) โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ในครั้งนี้ ได้มีการนำเสนอถึงความเป็นมาของโครงการฯ ที่ระบุว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2566 อนุมัติให้ กทพ. ดำเนินงานโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต โดยการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนในรูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐรับผิดชอบการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ในขณะที่ภาคเอกชนรับผิดชอบการออกแบบรายละเอียดและการก่อสร้าง (รวมถึงค่าควบคุมงาน) และการดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance : O&M) โดยเอกชนเป็นผู้จัดเก็บรายได้ค่าผ่านทางทั้งหมด ทั้งนี้ เอกชนจะต้องโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ลงทุนทั้งหมดให้แก่ภาครัฐก่อนเริ่มเปิดบริการในลักษณะของ BTO (Build-Transfer-Operate) มีระยะเวลาร่วมลงทุนรวม 35 ปี นับจากวันที่ กทพ.มีหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (Notice to Proceed)
โดยแบ่งขอบเขตความรับผิดชอบระหว่างภาครัฐและเอกชนเป็น 2 ระยะ ได้แก่
Proceed) ระยะที่ 2 การดำเนินงานและบำรุงรักษา ระยะเวลานับจากสิ้นสุดระยะเวลาสำหรับงานในระยะที่ 1 โดยมีระยะเวลารวมทั้งระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ไม่มากกว่า 35 ปี มูลค่าเงินลงทุนโครงการรวม 14,670.57 ล้านบาท
ประกอบด้วย ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 5,792.24 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง (รวมค่าควบคุมงาน) 8,878.33 ล้านบาท คาดการณ์ปริมาณจราจร ณ ปีเปิดให้บริการประมาณ 71,000 คัน/วัน (รถยนต์ 36,000 คัน/วัน รถจักรยานยนต์ 35,000 คัน/วัน) ผลตอบแทนด้านการเงิน NPV 1,734.37 ล้านบาท Equity IRR เป้าหมาย 8.50% B/C Ratio 1.12 เท่า Payback Period 21 ปี โครงการมีความเหมาะสมด้านเศรษฐกิจ โดยมีอัตราผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจ (EIRR) เท่ากับ 20.44%
“ตามที่ กทพ.ได้ประกาศจำหน่ายเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน ในระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2565 จนถึงวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา มีภาคเอกชนจำนวน 13 รายได้ให้ความสนใจซื้อเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนดังกล่าว จึงได้มีการจัดประชุมก่อนการยื่นข้อเสนอของเอกชนในวันนี้ และการเยี่ยมชมพื้นที่ก่อสร้างโครงการที่จังหวัดภูเก็ตในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อให้เอกชนได้รับทราบข้อมูลรายละเอียดของโครงการอย่างรอบด้าน รวมทั้งเข้าใจรายละเอียดการจัดทำข้อเสนอได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน พร้อมทั้งตอบข้อสงสัยในประเด็นที่เกี่ยวข้อง เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเอกชนยื่นซองข้อเสนอในวันที่ 7 เมษายน 2566 และลงนามสัญญากับภาคเอกชนที่ร่วมลงทุนได้ภายในธันวาคม 2566” นายสุรเชษฐ์กล่าว
ในการนี้ โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงการเดินทางจากอำเภอกะทู้ไปยังหาดป่าตอง และอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับคนในพื้นที่ นักท่องเที่ยว รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต โดยโครงการฯ จะสามารถช่วยบรรเทาปัญหาการจราจร และอุบัติเหตุบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4029 รวมทั้งสามารถใช้เป็นเส้นทางอพยพกรณีเกิดภัยพิบัติอีกด้วย
ทั้งนี้ คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างโครงการนี้ได้ในช่วงปี 2566-2570 และจะสามารถเปิดให้บริการได้ทันการจัดงาน Specialised Expo 2028 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม ถึงมิถุนายน 2571