บอร์ด กนอ.เห็นชอบในหลักการแนวทางจัดระเบียบสายสื่อสารในนิคมอุตสาหกรรมลงใต้ดินปรับภูมิทัศน์พื้นที่นิคมอุตสาหกรรม สอดรับการเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) พร้อมวางระบบ 5G ครอบคลุมพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม 14 แห่ง และท่าเรืออุตสาหกรรม 1 แห่ง คาดสามารถเริ่มดำเนินการตามแผนได้ปี 2567
นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้บอร์ด กนอ.ที่มี นายนรินทร์ กัลยาณมิตร เป็นประธาน ได้เห็นชอบตามแนวทางที่ กนอ.เสนอจัดระเบียบโครงข่ายโทรคมนาคมลงใต้ดิน พร้อมวางโครงสร้างระบบ 5G ในนิคมอุตสาหกรรมที่ กนอ.กำกับดูแล 14 แห่ง และท่าเรืออุตสาหกรรม 1 แห่ง โดยให้เริ่มศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุนฯ ในปี 2564 และคาดว่าหากผลการศึกษาแล้วเสร็จจะสามารถเริ่มดำเนินโครงการวางท่อร้อยสายสื่อสารใต้ดินในนิคมอุตสาหกรรมได้ในปี 2567 โดยจะเป็นการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP)
“กนอ.จะเป็นผู้วางโครงสร้างระบบ 5G ในนิคมอุตสาหกรรมที่ กนอ.กำกับดูแล 14 แห่ง และท่าเรืออุตสาหกรรม 1 แห่ง โดยมีเอกชนมาเป็นผู้ร่วมดำเนินการ ซึ่งจะทำให้โรงงานที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมีระบบสัญญาณที่มีเสถียรภาพ และสะดวก รวดเร็วขึ้น ตอบโจทย์การเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนทั้งภายใน และต่างประเทศในด้านมาตรฐานการให้บริการที่มีศักยภาพ” ผู้ว่าการ กนอ.กล่าว
ปัจจุบันโครงข่ายระบบโทรคมนาคมมีเพิ่มมากขึ้นตามทิศทางการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการพัฒนาไปสู่ยุค 4.0 ตามนโยบายรัฐบาล จึงทำให้การใช้เส้นเคเบิลใยแก้วนำแสง (Optical Fiber Cable) เคเบิลทองแดง (Copper Cable) สายกระจาย (Drop Wire) มีจำนวนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเมื่อรวมกับที่มีอยู่เดิมแล้วจึงอาจทำให้เกิดความไม่เป็นระเบียบและบางครั้งอาจเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน หรืออาจเกิดไฟไหม้สายสื่อสารได้ กนอ.ตระหนักถึงเรื่องดังกล่าวจึงมีแนวคิดจัดระเบียบสายสื่อสารในนิคมอุตสาหกรรมลงใต้ดินเพื่อเพิ่มความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน
นอกจากนี้ยังเป็นการจัดเตรียมระบบสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการให้แก่ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ เนื่องจากอุตสาหกรรมดิจิทัลเป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของการพัฒนาในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อุตสาหกรรมดิจิทัล เพื่อพัฒนาระบบ 5G และนวัตกรรมด้านดิจิทัลสมัยใหม่ ซึ่ง กนอ.มองเห็นลู่ทางดังกล่าวจึงได้เตรียมความพร้อมรองรับระบบสาธารณูปโภค ระบบสื่อสารภายในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มความสะดวกในระบบ Big Data (ระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่) ที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลที่จำเป็นต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม สอดรับกับแผนการพัฒนาประเทศที่มุ่งเน้นสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วย ICT โดยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มศักยภาพในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน