กสท โทรคมนาคม ผนึกภาคีสมาชิกสร้างเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศเส้นใหม่ Asia Direct Cable ความยาว 9,400 กิโลเมตร รองรับผู้ให้บริการคอนเทนต์ระดับนานาชาติใน Digital Park Thailand ตลอดจนแอปพลิเคชันความจุสูง และ 5G ในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดแล้วเสร็จปี 2565
พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยเกี่ยวกับความคืบหน้าในการจัดสร้างเคเบิลใต้น้ำ ASIA Direct Cable (ADC) ในฐานะที่ บริษัทเป็นหนึ่งในภาคีสมาชิก ADC ว่าภาคีสมาชิกได้มีการประกาศความร่วมมือที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างระบบเคเบิลใต้น้ำระบบใหม่เชื่อมต่อกับประเทศจีน (เขตบริหารพิเศษฮ่องกงและมณฑลกวางตุ้ง), ญี่ปุ่น, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ไทยและเวียดนาม โดยได้คัดเลือกบริษัท NEC Corporation ให้รับหน้าที่ก่อสร้างระบบเคเบิล ADC ที่มีความยาว 9,400 กิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565
การร่วมมือนี้เกิดขึ้นภายใต้โครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ สู่การเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Digital Hub) ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
สำหรับระบบเคเบิล ADC จะเป็นโครงการหลักในการยกระดับโครงข่ายโทรคมนาคมระหว่างประเทศของบริษัท เพื่อรองรับความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย โดยการสร้างระบบเคเบิลใต้น้ำ ADC ครั้งนี้จะเพิ่มศักยภาพในการขยายโครงข่ายโทรคมนาคมระหว่างประเทศของบริษัทให้เพียงพอ มั่นคงและหลากหลายเพื่อรองรับเทรนด์การสื่อสารและการเชื่อมต่อระหว่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแค่ในประเทศไทย แต่ยังรวมถึงความต้องการใช้งานของอาเซียนอีกด้วย
ทั้งนี้ ระบบเคเบิล ADC จะช่วยสนับสนุนธุรกิจของผู้ให้บริการคอนเทนต์ระดับนานาชาติ (International Content Provider) ในพื้นที่โครงการ Digital Park Thailand และยังเอื้อต่อเทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ 5G, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), บริการคลาวด์, IoT, Smart City และ Big Data นอกจากนั้นยังสอดคล้องกับแผนงานระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพราะระบบเคเบิล ADC มีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนนโยบาย Thailand 4.0 โดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาสังคม เพื่อสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจของประเทศให้มั่นคงยิ่งขึ้นและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในระดับโลก
พ.อ.สรรพชัย กล่าวว่า ด้วยเสถียรภาพของระบบเคเบิลใต้น้ำใยแก้วนำแสง ADC ที่จัดสร้างใหม่ จะทำให้การเชื่อมต่อไปยังประเทศต่าง ๆ เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะผลักดันการเติบโตของธุรกิจในเอเชียให้สามารถสนองตอบความต้องการของตลาดดิจิทัลที่มีการเติบโตอย่างมากในยุค New Normal
“ความพิเศษของสายเคเบิลจะประกอบไปด้วยสายใยแก้วนำแสงที่มีความจุสูงจำนวนหลายคู่ และถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทราฟิกที่มากกว่า 140 Tbps (เทราบิตต่อวินาที) ทำให้สามารถรับส่งข้อมูลจำนวนมากและรวดเร็วได้ทั่วเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คุณสมบัติที่มีความจุสูงของเคเบิล ADC ยังพร้อมรองรับแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่จะใช้ความจุสูงขึ้นในอนาคต รวมถึงรองรับเทคโนโลยี 5G, คลาวด์ (Cloud), อินเทอร์เน็ต (IoTs) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองจะพัฒนาการติดต่อสื่อสารในระดับภูมิภาคให้กว้างไกลมากยิ่งขึ้น”