“พาณิชย์” เคาะจ่ายส่วนต่างโครงการประกันรายได้ข้าว มีมติชดเชยงวดที่ 28 เฉพาะข้าวเปลือกเจ้าชนิดเดียว หลังราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาประกันรายได้ เผยเป็นครั้งแรกในรอบ 5 งวด ส่วนข้าวชนิดอื่นไม่ต้องจ่ายเหมือนเดิม คาดราคาข้าวยังทรงตัวสูงต่อเนื่องจากการบริโภคทั้งใน และต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น
รายงานจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2563 ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้พิจารณาการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง โดยมีมติจ่ายเงินส่วนต่างงวดที่ 28 ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่แจ้งเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 10-16 พ.ค. 2563 จำนวน 1 ชนิด คือ ข้าวเปลือกเจ้า เพราะราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาประกันรายได้ และถือเป็นการจ่ายส่วนต่างครั้งแรกในรอบ 5 งวด จากที่ก่อนหน้านี้ไม่จ่าย จากการที่ราคาสูงขึ้นเกินตันละ 10,000 บาท ส่วนข้าวชนิดอื่นไม่ต้องจ่าย เนื่องจากราคายังเกินราคาประกันรายได้
ทั้งนี้ การคำนวณราคาส่วนต่างไม่ได้มีการคำนวณราคาอ้างอิงข้าวเปลือกหอมมะลิเพราะสิ้นสุดฤดูกาลไปแล้ว ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ราคาอ้างอิงอยู่ที่ตันละ 15,081.20 บาท สูงกว่าราคาประกันรายได้ ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 9,891.04 บาท ต่ำกว่าราคาประกันรายได้ ข้าวเปลือกหอมปทุมธานีตันละ 11,128.32 บาท สูงกว่าราคาประกันรายได้ และข้าวเปลือกเหนียวตันละ 17,046.17 บาท สูงกว่าราคาประกันรายได้
โดยผลจากการคำนวณส่วนต่างงวดที่ 28 เกษตรกรจะได้รับเงินชดเชยข้าวเปลือกเจ้า จากเงินส่วนต่างที่จะต้องจ่าย 108.96 บาท คูณจำนวน 30 ตัน จะได้รับเงินรวม 3,268.8 บาท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาข้าวในภาพรวมปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ประเมินว่าราคาจะยังคงทรงตัวในระดับสูงใกล้เคียงกับราคาประกันรายได้ต่อไป เพราะยังมีความต้องการบริโภคข้าวในประเทศที่เพิ่มขึ้น จากการที่รัฐบาลปลดล็อกการทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และยังมีความต้องการซื้อข้าวจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น
