“พาณิชย์” เผยยอดใช้สิทธิ FTA ส่งออก 4 เดือนแรกปี 61 มีมูลค่า 21,706.39 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 20.33% อาเซียนแชมป์ใช้สิทธิสูงสุด ระบุใช้สิทธิส่งออกกระปุกเกียร์ไปจีนเพิ่ม 5 เท่า หลังลดภาษีเพิ่มเติม ส่วนการใช้สิทธิ GSP ส่งออก มีมูลค่า 1,470.95 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 0.13% สหรัฐฯ ใช้สิทธิมากสุด โดยเครื่องใช้ในการเดินทาง เม็ดพลาสติก มาแรง เหตุเพิ่งได้ GSP ชี้ญี่ปุ่นตัด GSP ไทยไม่กระทบ สามารถไปลดภาษีภายใต้ FTA แทนได้
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงภาพรวมการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) และการใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ในช่วง 4 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-เม.ย.) ว่า ไทยมีการส่งออกไปยัง 17 ประเทศ ซึ่งเป็นคู่เจรจา FTA มูลค่า 45,695.68 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.78 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ซึ่งมีมูลค่า 40,516.34 ล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นการส่งออกโดยใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA มูลค่า 21,706.39 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.33% คิดเป็นสัดส่วน 73.06% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ได้รับสิทธิภายใต้ FTA ที่มีมูลค่าถึง 29,709.89 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ ความตกลง FTA ที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อาเซียน 8,090.63 ล้านเหรียญสหรัฐ อาเซียน-จีน 5,364.90 ล้านเหรียญสหรัฐ ไทย-ออสเตรเลีย 3,006.44 ล้านเหรียญสหรัฐ ไทย-ญี่ปุ่น 2,285.44 ล้านเหรียญสหรัฐ และอาเซียน-อินเดีย 1,156.08 ล้านเหรียญสหรัฐ และประเทศคู่ค้าที่มีอัตราการใช้สิทธิ FTA สูงที่สุด 5 ประเทศ คิดตามสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ได้แก่ ชิลี ออสเตรเลีย เปรู ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
“เป็นที่น่าสังเกตว่าการส่งออกโดยใช้สิทธิ FTA ไปจีนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2561 จีนมีการลดภาษีภายใต้ FTA อาเซียน-จีนเพิ่มเติม มีสินค้าที่มีศักยภาพของไทย คือ กระปุกเกียร์และส่วนประกอบ ที่เดิมเป็นสินค้าอ่อนไหวของจีน ได้มีการลดภาษีลงจาก 10% เหลือ 5% ทำให้ไทยมีการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ไปจีนเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าตัว”นายอดุลย์กล่าว
นายอดุลย์กล่าวว่า สำหรับการส่งออกไปยังประเทศที่ให้ GSP กับไทยในช่วง 4 เดือนของปี 2561 มีมูลค่ารวม 18,632.75 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ซึ่งมีมูลค่า 16,461.16 ล้านเหรียญสหรัฐ และในจำนวนนี้เป็นการส่งออกโดยใช้สิทธิ GSP มูลค่า 1,470.95 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 0.13% คิดเป็นสัดส่วน 55.38% ของการส่งออกสินค้าที่ได้รับสิทธิ GSP ทั้งหมด โดยสหรัฐฯ เป็นประเทศที่ไทยใช้สิทธิ GSP สูงสุด มีมูลค่า 1,368.92 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.12% คิดเป็นสัดส่วน 93% ของมูลค่าการใช้สิทธิ GSP รวมทุกระบบ รองลงมา คือ รัสเซียและเครือรัฐเอกราช มีมูลค่าการใช้สิทธิรวม 53 ล้านเหรียญสหรัฐ สวิตเซอร์แลนด์ 41 ล้านเหรียญสหรัฐ นอร์เวย์ 4 ล้านเหรียญสหรัฐ และญี่ปุ่น 4 ล้านเหรียญสหรัฐตามลำดับ
"การใช้สิทธิ GSP ไปสหรัฐฯ ในกลุ่มของสินค้าเครื่องใช้เดินทาง และเม็ดพลาสติกเซลลูโลสไนเตรต เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก หลังจากที่สหรัฐฯ ได้ให้สิทธิ GSP ไทยตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2560 ที่ผ่านมา โดยสินค้าเซลลูโลสไนเทรต มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 5.76% ส่วนสินค้าเครื่องใช้ในการเดินทางที่มีการใช้สิทธิ GSP สูง ได้แก่ กระเป๋าถือด้านนอกทำจากหนัง กระเป๋าถือด้านนอกทำจากหนังอัด กระเป๋ากีฬา กระเป๋าถือทำจากหนังเคลือบเงา เป็นต้น"
ส่วนกรณีที่ญี่ปุ่นจะตัดสิทธิ GSP ไทยตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2562 นั้น ยืนยันว่าผู้ส่งออกไทยไม่ต้องกังวล เพราะไทยสามารถไปใช้สิทธิส่งออกภายใต้ FTA ทั้งกรอบไทย-ญี่ปุ่น และอาเซียน-ญี่ปุ่นได้ ยกเว้นสินค้าเพียงรายการเดียว คือ สารให้ความหวานแคลอรี่ต่ำ ที่เดิมถูกเก็บภาษีนำเข้า 10% เมื่อไม่ได้ GSP ภาษีจะเพิ่มเป็น 17% โดยมีมูลค่าการส่งออกในช่วง 4 เดือนของปี 2561 มูลค่า 928,808 เหรียญสหรัฐ