xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนยื่นซื้อข้าวกลุ่ม 2 เกือบหมด “พาณิชย์” โต้ทีพีเคประมูลข้าวโปร่งใส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้ประกอบการ 18 รายยื่นประมูลซื้อข้าวกลุ่ม 2 เกือบหมด ปริมาณ 1.48 ล้านตัน มูลค่า 8,441 ล้านบาท เตรียมชง นบข.เคาะขายพร้อมข้าวกลุ่ม 3 ต้นเดือน ก.ค.นี้ “พาณิชย์” โต้ “ทีพีเค” ยันประมูลข้าวทำตามขั้นตอน แจงตัดสิทธิทำถูกต้อง เหตุบริษัทตกคุณสมบัติหลังเคยทำความเสียหายต่อภาครัฐ ชี้ถ้าชะลอประมูลยิ่งเสียหายหนัก ต้องจ่ายค่าฝากเก็บสูงถึงเดือนละ 130 ล้านบาท

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการเปิดซองประมูลข้าวสารในสต๊อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 1/2561 (ข้าวกลุ่ม 2) ปริมาณ 1.49 ล้านตัน จำนวน 91 คลัง วานนี้ (14 มิ.ย.) ว่า มีผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติผู้เสนอซื้อจำนวน 26 ราย และมีผู้ยื่นราคาประมูลทั้งสิ้น 22 ราย โดยยื่นซื้อราคาสูงสุด 18 ราย ใน 88 คลัง ปริมาณ 1.48 ล้านตัน คิดเป็น 99.04% ของปริมาณข้าวที่เปิดประมูลทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าประมาณ 8,441 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยตันละ 4,967 บาท สูงกว่าการประมูลครั้งก่อนที่ราคาเฉลี่ยตันละ 4,870 บาท โดยข้าวที่มีผู้เสนอซื้อมากที่สุด คือ ข้าวขาว 5% ปริมาณ 8.7 แสนตัน คิดเป็น 58.84% รองลงมา คือ ปลายข้าว A1 เลิศ ปริมาณ 4.7 แสนตัน คิดเป็น 31.85%

ทั้งนี้ กรมฯ จะดำเนินการประมวลผลการยื่นซองเสนอซื้อให้คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐพิจารณาในวันที่ 19 มิ.ย. จากนั้นเสนอคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าววันที่ 29 มิ.ย. ก่อนเสนอประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาให้ความเห็นชอบการจำหน่ายต่อไป ซึ่งจะรวมผลการประมูลข้าวกลุ่ม 3 ที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ 5.4 แสนตันที่จะเปิดประมูลในวันนี้ (15 มิ.ย.) ด้วย คาดว่าน่าจะเป็นช่วงต้นเดือน ก.ค.นี้

นายอดุลย์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่บริษัททีพีเค เอทานอล จำกัด กล่าวหาว่ากรมฯ เลือกปฏิบัติสองมาตรฐาน ไม่ให้บริษัททีพีเคฯ เข้าร่วมประมูลสต๊อกข้าวสารรัฐบาล แต่ให้รายอื่นเข้าร่วมประมูลได้นั้น กรมฯ ยืนยันว่าการประมูลข้าวมีมาตรฐานเดียวกัน มีขั้นตอนที่ชัดเจน กำหนดเป็นนโยบายจาก นบข.ลงมา ไม่ได้เป็นการดำเนินการของกรมฯ เพียงลำพัง แต่กรมฯ ดำเนินการตามที่นโยบายระดับประเทศกำหนด

ส่วนการตัดสิทธิบริษัททีพีเคเข้าร่วมการประมูลข้าว เพราะกรมฯ มีหลักฐานชัดเจนว่าเคยทำความเสียหายให้แก่รัฐและศาลมีคำตัดสินถึงชั้นสูงสุดแล้ว จึงถือว่าตกคุณสมบัติ และในกรณีที่อ้างถึงคำสั่งของศาลปกครองกลางที่ระบุว่ากรมฯ ตัดสิทธิไม่ชอบนั้น กรมฯ ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดไปแล้ว ยังไม่มีคำสั่งออกมา จึงยังไม่มีคำสั่งในขั้นที่สุด กรมฯ ก็ต้องยึดตามกฎระเบียบการประมูลที่กำหนด เพราะหากไม่เปิดประมูลข้าวทั้ง 2 กลุ่มปริมาณ 2.03 ล้านตัน จะทำให้รัฐต้องจ่ายค่าฝากเก็บสูงถึงเดือนละ 130 ล้านบาท และหากต่อไปศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้กรมฯ แพ้ก็มีช่องทางชดเชยให้เอกชนอยู่แล้ว แต่ถ้ากรมฯ ชนะก็จะพิจารณาเรียกค่าเสียหายกับบริษัทดังกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น