บริษัท ทีพีเคฯ งัดคำพิพากษาศาล ปค. ตอก “กรมการค้าต่างประเทศ” ที่ยังไม่ถอนคำสั่งตัดสิทธิ์ร่วมประมูลข้าว เล็งฟ้องล้มประมูลข้าวเสื่อมรอบใหม่ที่จะยื่นซองพรุ่งนี้ ซัด 2 มาตรฐานปล่อย บ.หลายรายที่ผิดเงื่อนไขชัดเข้าร่วมประมูล
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายสุเมธ เลิศตันติสุนทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด (บริษัท ทีพีเคฯ) ผู้เสนอราคาสูงสุดในการประมูลข้าวในสต๊อกของรัฐประเภทอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 1/2560 เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.จักร เพ็งสาธร รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ปปป. เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี และยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม จากกรณีที่เคยได้ร้องเรียนให้ นายกรัฐมนตรี ตรวจสอบการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของโครงการจำหน่ายข้าวในสต๊อกของรัฐที่สร้างความเสียหายต่อประเทศและเป็นอันตรายต่อประชาชน
โดย นายสุเมธ ระบุว่า ขณะนี้ทาง กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กำลังดำเนินการประมูลข้าวสารในสต๊อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน และประเภทที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 1/2561 รวมกว่า 2 ล้านตันเศษ ซึ่งทราบว่า ได้พิจารณาคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประมูล และจะเปิดให้ยื่นเสนอราคาในวันที่ 14 - 15 มิ.ย. นี้ บริษัท ทีพีเคฯ เห็นว่า การดำเนินการดังกล่าว เป็นการละเลยคำพิพากษาศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2561 ที่ระบุว่า คำสั่งของอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ที่ตัดสิทธิ์ บริษัท ทีพีเคฯ เป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการเสนอซื้อข้าวในสต๊อกรัฐนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ในข้าวจำนวนกว่า 2 ล้านตัน ที่กรมการค้าต่างประเทศกำลังทำการประมูลในตอนนี้ มีข้าวประเภทที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ในส่วนที่ บริษัท ทีพีเคฯ เป็นผู้ชนะประมูลกว่า 5.25 แสนตัน รวมอยู่ด้วย เมื่อศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเช่นนนั้น ทางกรมการค้าต่างประเทศ จึงควรที่จะคืนสิทธิ์ทั้งในส่วนของข้าว 5.25 แสนตัน ที่เราประมูลได้ รวมทั้งสิทธิ์ในการเข้าร่วมการประมูลรอบใหม่ด้วย แต่เท่าที่ได้ประสานไปเบื้องต้น ปรากฏว่า ยังไม่มีการถอนคำสั่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศที่ตัดสิทธิ์บริษัท ทีพีเคฯ แต่อย่างใด และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับเงินวางประกันมูลค่ารวม 25 ล้านบาทคืน
“ขณะนี้กำลังให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาแนวทาง หากว่าทางกรมการค้าต่างประเทศยังจะเดินหน้าประมูลข้าวรอบใหม่ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะยื่นฟ้องเพื่อให้การประมูลรอบใหม่นี้เป็นโมฆะ และหากจำเป็นจริงๆ ก็จะต้องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับ กรมการค้าต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกด้วย เนื่องจากทำให้ บริษัท ทีพีเคฯ เสียโอกาส” นายสุเมธ ระบุ
นายสุเมธ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ บก.ปปป. ได้เชิญบริษัท ทีพีเคฯ มาให้ข้อมูลแล้ว 2 - 3 ครั้ง แต่คดีก็ดูเหมือนจะไม่มีความคืบหน้า วันนี้จึงถือโอกาสมาสอบถามความคืบหน้า และนำคำพิพากษาของศาลปกครองกลางมามอบให้กับ บก.ปปป. เพื่อประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม ทั้งนี้ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การดำเนินการของกรมการค้าต่างประเทศ เข้าข่าย 2 มาตรฐาน เพราะในขณะที่ตัดสิทธิ์บริษัท ทีพีเคฯ แต่กลับปล่อยให้หลายบริษัทที่มีคุณสมบัติไม่ตรงตามทีโออาร์เข้าร่วมประมูลได้ โดยเงื่อนไขสำคัญคือบริษัทที่เข้าร่วมประมูลต้องไม่ใช่อุตสาหกรรมเพื่อการบริโภคของคนหรือสัตว์ แต่ก็มีบางบริษัทที่เข้าประมูลเพื่อนำไปผลิตเป็นอาหารสัตว์ รวมทั้งข้อกำหนดที่ว่าจะต้องมีโรงงานที่พร้อมดำเนินการกับข้าวที่ประมูลได้ทันที แต่หลายบริษัทก็มีหลักฐานจากการลงพื้นที่ของผู้บริหารองค์การคลังสินค้า (อคส.) ซึ่งมีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชน ว่า โรงงานยังสร้างไม่แล้วเสร็จด้วยซ้ำ เหตุใดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังปล่อยให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น