“พาณิชย์” เร่งผู้ผลิต-ผู้ส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วนไทย ส่งข้อมูลโต้แย้งข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ ภายใน 22 มิ.ย.นี้ แนะยันการส่งออกไทยไม่เป็นภัยคุกคามและกระทบอุตสาหกรรมภายในของสหรัฐฯ หลังสหรัฐฯ เปิดไต่สวนให้ขึ้นภาษีนำเข้าและเปิดให้แต่ละประเทศชี้แจง
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกา อยู่ระหว่างการเปิดไต่สวนเพื่อพิจารณาขึ้นภาษีนำเข้าสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วนจากทั่วโลก ตามมาตรา 232 กฎหมาย Trade Expansion Act of 1962 ว่า ตามขั้นตอนของการไต่สวน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะเปิดรับความเห็น ข้อมูล ข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้เสียและสาธารณชนทั่วไป เพื่อประกอบการพิจารณาผลกระทบของสินค้านำเข้าดังกล่าวที่มีต่ออุตสาหกรรมภายในของสหรัฐฯ และจะเปิดให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ยื่นข้อคิดเห็นเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมแจ้งความเห็นได้จนถึงวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามเว็บไซต์ www.regulations.gov และยังได้เปิดให้ผู้มีส่วนได้สวนเสียของสหรัฐฯ แสดงความเห็นโต้แย้งต่อความเห็นจากประเทศต่างๆ ที่ได้ยื่นไปแล้วก่อนหน้านี้ ได้จนถึงวันที่ 6 ก.ค. และจะเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะระหว่างวันที่ 19-20 ก.ค.ต่อไป
“ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของไทยสามารถยื่นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลด้านการผลิต ปริมาณการส่งออก ปริมาณความต้องการของไทยและอัตราการขยายตัว การใช้แรงงาน การใช้วัตถุดิบ ผลกระทบที่มีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนของสหรัฐฯ ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 22 มิ.ย. ซึ่งกรมฯ จะเร่งติดตามความคืบหน้า และเมื่อมีการประกาศผลการพิจารณาอย่างไร กรมฯ จะเผยแพร่ให้หน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องรับทราบทันที” นายอดุลย์กล่าว
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการ คาดว่ากระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะพิจารณาไต่สวนให้แล้วเสร็จภายใน 270 วัน จากนั้นจะเสนอผลการไต่สวนและข้อเสนอแนะต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้พิจารณาตัดสินใจภายใน 90 วัน หากเห็นด้วยกับผลการไต่สวนที่เสนอประธานาธิบดีสหรัฐฯ สามารถขึ้นภาษีนำเข้าสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วนจากประเทศผู้ถูกไต่สวนได้ทันที
โดยการเปิดไต่สวนดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ขอให้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดไต่สวนผลกระทบจากการนำเข้ารถยนต์อเนกประสงค์ รถตู้ รถบรรทุกขนาดเล็กและชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศต่างๆ ว่าจะเป็นภัยคุกคามและส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ หรือไม่
