xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯจ่อขึ้นภาษียานยนต์-ชิ้นส่วน กระทบส่งออกแสนล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สหรัฐฯ ใช้กฎหมาย มาตรา 232 เปิดไต่สวนเพื่อขึ้นภาษีสินค้ายานยนต์ และชิ้นส่วนจากต่างประเทศ อ้างเหตุกระทบอุตสาหกรรมภายในและกระทบความมั่นคง “สนธิรัตน์” สั่งด่วน เชิญเอกชนหารือ เพื่อเตรียมมาตรการรับมือ ป้องกันการส่งออกสินค้าทั้ง 2 กลุ่ม ที่มีมูลค่าส่งออกกว่า 1 แสนล้าน ได้รับผลกระทบ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่าได้สั่งการให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จัดประชุมหารือหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมรับมือ กรณีที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศเริ่มกระบวนการไต่สวน ตามมาตรา 232 ของกฎหมาย Trade Expansion Act ปี 1962 ของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขึ้นภาษีนำเข้าสินค้ายานยนต์ และชิ้นส่วนจากต่างประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภายใน ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงสหรัฐฯ โดยหากผลการไต่สวนมีมูล ก็อาจส่งผลให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตัดสินใจขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า ยานยนต์ และชิ้นส่วนจากประเทศต่างๆ เช่นเดียวกับที่ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเหล็ก และอลูมิเนียมไปแล้ว

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะทำการติดตามสถานการณ์การใช้มาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมวางแผนรับมือ และบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เพราะสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ลำดับ 1 ของไทย และยังเป็นตลาดส่งออกยานยนต์ ลำดับที่ 11

สำหรับการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยไปสหรัฐฯ มีมูลค่าเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2555-2560) 2,750 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อปี หรือประมาณ 8.8 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 14.5% ของมูลค่าการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์โดยรวมของไทย โดยชิ้นส่วนยานยนต์ที่ไทยส่งออกไปสหรัฐฯ เช่น ยางล้อ เครื่องยนต์ แผงคอนโซล ถุงลมนิรภัย ฝาสูบ พวงมาลัย ส่วนประกอบของเครื่องสูบของเหลว เพลา และ มอเตอร์ไฟฟ้า เป็นต้น

ด้านการส่งออกยานยนต์ รวมถึงรถบัส รถยนต์ รถบรรทุก รถเทรลเลอร์ รถมอเตอร์ไซด์ แชสซีส์ และตัวถังรถ มีมูลค่าเฉลี่ย 5 ปี (2555-2560) 372 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 2% ของมูลค่าการส่งออกโดยรวมของไทย โดยสินค้ายานยนต์ที่ไทยส่งออกไปสหรัฐฯ เช่น รถยนต์นั่งขนาดเล็ก (มากกว่า 1,000 CC แต่ไม่เกิน 1,500 CC) รถมอเตอร์ไซค์ รถบรรทุก รถพ่วง รถดัมพ์ เป็นต้น ในขณะที่สหรัฐฯ นำเข้ายานยนต์ และชิ้นส่วนจากไทย เป็นลำดับที่ 18 โดยมีสัดส่วนไม่ถึง 1% ของการนำเข้าของสหรัฐฯ จากทั่วโลก ซึ่งแหล่งนำเข้าที่สำคัญของสหรัฐฯ คือ เม็กซิโก แคนาดา ญี่ปุ่น เยอรมัน เกาหลีใต้ จีน และ สหราชอาณาจักร เป็นต้น

ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าภายใต้ มาตรา 232 กับสินค้านำเข้าจากต่างประเทศไปแล้ว โดยไทยอยู่ระหว่างการหารือกับสหรัฐฯ เพื่อขอให้สหรัฐฯ ยกเว้นการใช้มาตรการขึ้นภาษีสินค้าเหล็ก และอลูมิเนียมนำเข้าจากไทยเป็นรายประเทศ และในระหว่างนี้ กรมการค้าต่างประเทศ ได้ช่วยผู้ส่งออกแก้ไขปัญหา โดยได้ประสานผู้นำเข้า ซึ่งเป็นบริษัทคู่ค้าในสหรัฐฯ เพื่อดำเนินการยื่นขอยกเว้นจากการถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าเป็นรายการสินค้าตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กำหนด ซึ่งบริษัทที่มีการยื่นคำขอดังกล่าวได้รับการพิจารณายกเว้นจากการถูกเรียกเก็บภาษีตามที่ร้องขอแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น