“บิ๊ก ศรุต” ยอมรับควักเงินเกือบล้านซื้อบิ๊กไบก์ต่อจาก “จิน” สามีแฟนเก่า “หนิง ปณิตา” ยันให้รางวัลตัวเอง เลิฟมาก ตั้งชื่อ “บุพเพ” ได้มาแบบฟลุคๆ โต้ออกรายการสยบดรามาจบจากหนิงไม่ดี
ถูกใจอย่างแรง สำหรับ “บิ๊ก ศรุต วิจิตรานนท์” ล่าสุดถอยบิ๊กไบก์เป็นรางวัลให้ตัวเอง โดยเผยว่าซื้อต่อจาก “จิน ธรรมวัฒนะ” สามีแฟนเก่า “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” ราคาสูงเหยียบล้านกันเลยทีเดียว ซึ่งเจ้าตัวก็ตั้งชื่อว่า “บุพเพ” เพราะได้มาแบบฟลุคๆ
“ความจริงคันนี้ได้มาแบบฟลุคๆ เลยตั้งชื่อเขาว่าพี่บุพเพอาจจะได้มาเพราะบุพเพ เลยตั้งชื่อนี้ คันนี้เคยไปขอเขามาลองแล้วชอบมาก แต่ก็ยังไม่ได้ซื้อ จนเปลี่ยนใจจะไปซื้อคันอื่นแล้ว จนมาเจอรุ่นน้องคนหนึ่ง เขาบอกว่าช่วยเอาคันนี้ไปขี่หน่อย แล้วไม่กี่วันเขาก็เอารถมาจอดไว้ที่บ้าน แต่ยังไม่ได้จ่ายตังค์เขาเลยนะ”
“จริงๆ คันนี้ราคาอยู่ที่ประมาณ 8 แสนนิดๆ ก็คิดว่าคงเป็นเงินก้อนที่จะเสียในช่วงนี้ เพราะผมใช้รถมอเตอร์ไซด์มากกว่ารถยนต์ด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้รถติดมาก ไปไหนใช้มอเตอร์ไซด์จะสะดวกมากกว่า แล้วคันนี้ก็เหมือนเป็นรางวัลให้ตัวเองที่ทำงานมาเหนื่อย อย่างที่บอกเป็นคันที่ชอบมาตั้งนานแล้ว อยู่ดีๆ ก็ได้มาแบบคาดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ”
เลิกซิ่งบนถนน เคยล้มซี่โครงหัก เอ็นฉีก
“ผมขี่มานานแล้วครับ พอช่วงที่ไปเป็นนักแข่ง เราก็เลิกซิ่งบนถนนเด็ดขาด เพราะตอนที่แข่งเคยล้มซี่โครงหัก เอ็นฉีก เลยรู้สึกว่าขนาดอยู่ในสนามแข่ง มีอุปกรณ์ความปลอดภัยครบ ยังเจ็บขนาดนี้เลย แล้วอยู่บนถนน เราแต่งตัวธรรมดา ถ้าเกิดล้มแบบนั้น ผมว่าโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่มันยาก ไม่พิการก็ตาย แล้วพอเป็นนักแข่งอยู่กับความเร็วมากๆ พออยู่บนถนนเราไม่ต้องการความเร็วอยู่แล้ว แค่ต้องการความคล่องตัว ไปไหนรวดเร็ว แต่ใช้ความเร็วที่เหมาะสม”
“แฟนก็มีขอให้ระวัง เขาก็เป็นห่วง บอกว่าให้ระมัดระวัง แต่เขาเห็นผมขี่มานานแล้ว เวลาออกทริปไกลๆ เขาเห็นว่าเราขี่ได้ ก็โอเค แต่เขาไม่เคยซ้อนท้าย เพราะเขาไม่ชอบ แต่ก็ไม่ห้าม”
ชีวิตสดใสขึ้นเพราะละครบุพเพฯ
“ก็ดีนะ ผมว่าอะไรหลายๆ อย่างเหมือนบุพเพสันนิวาสที่ทำให้เรามาเล่นละครเรื่องนี้ ตอนแรกพี่หน่อง (อรุโณชา ภาณุพันธ์) ไม่ได้วางตัวผมเล่นเป็นพระเพทราชาด้วยซ้ำ สักพักก็เปลี่ยนให้เล่นเป็นตัวนี้ดีกว่า เลยรู้สึกว่าบุพเพฯ เปิดอะไรหลายอย่างให้เราสดใสมากขึ้น”
บอกรถบิ๊กไบก์เป็นของ “จิน” สามี “หนิง ปณิตา” ไม่ได้เจอฝ่ายหญิงนานแล้ว
“อยากรู้มั้ยว่ามอเตอร์ไซด์คันนี้ของใคร คนที่โทร.มาบอกให้ผมเอามอเตอร์ไซด์มาขี่หน่อย คือ จิน สามีหนิง ตอนบ่ายผมไปออกรายการกับหนิง แล้วตอนเย็นจินก็โทร.มาเลย เขาบอกว่าอยากได้วงผมมาเล่นที่ร้านอาหาร ก็คุยกันเรื่องวง จนคุยมาถึงเรื่องมอเตอร์ไซด์ เขาบอกว่ามีอยู่คันหนึ่งแต่ไม่ค่อยได้ขี่ อยากขายแล้ว เลยบอกจินให้รอแป๊บหนึ่ง อย่าเพิ่งขาย เดี๋ยวผมดูไฟแนนซ์ก่อน เขาก็บอกว่าไม่ต้องแล้วให้รถตู้เอารถมาส่งผมที่บ้าน และบอกว่าจะจ่ายเมื่อไหร่ค่อยจ่าย เรื่องก็เป็นแบบนี้”
“กับหนิงเราก็ไม่ได้เจอกันนานมาก แต่ก็ได้เห็นน้องในไอจี หรือเฟซบุ๊กอยู่เรื่อยๆ ก็ไม่ได้มีอะไรนะ ผมเฉยๆ ที่เจอกันล่าสุดคือไปงานแต่งงานหนิง แล้วก็เจอกันข้างนอกอีกบ้าง ผมไปเล่นละครที่หนิงเป็นผู้จัด เรื่องพริ้งคนเริงเมือง แต่พอละครปิดกล้องก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย เรื่องเฟซไทม์อันนั้นเป็นวิดีโอคอล คือว่าหนิงอยู่กับแก๊งแฟนคลับของเขา เป็นพวกเด็กที่เราเห็นตั้งแต่ใส่ชุดมหาวิทยาลัย ก็ 10 กว่าปีแล้ว พอมาเจอกันอีกที ทุกคนโตกันหมดแล้ว เขาก็พูดถึงผม หนิงก็เลยวิดีโอคอลมา”
ประจันหน้ากันก็ไม่หวั่น บอกถ้ารู้สึกไม่ดีกับหนิง คงคุยกับสามีอีกฝ่ายไม่ได้
“ไม่กลัวครับ เราก็พูดได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว ไม่ได้อะไร รู้สึกดีด้วย ถามว่าเป็นการสยบข่าวว่าเลิกกันไม่ดีมั้ย ไม่มีอะไรเลย ความจริงแล้วกับหนิง ผมรู้สึกเหมือนเขาเป็นน้องด้วยความบริสุทธิ์ใจเลย ตอนที่หนิงแต่งงานก็ยังเขียนในสมุดเลยว่าจินฝากดูแลน้องสาวพี่ด้วย เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ ไม่งั้นผมคงคุยกับจินไม่ได้ ตอนนี้เราก็คุยกันเรื่องมอเตอร์ไซด์ครับ”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)