รถไฟฯ ชี้แจงขั้นตอนการประมูลงานก่อสร้างโครงการต่างๆ โดยเฉพาะรถไฟทางคู่ ยันทีโออาร์เปิดกว้างแล้ว ผ่านการตรวจสอบจากบอร์ด, ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อฯ ยึดระเบียบสำนักนายกฯ มั่นใจงานทาง บริษัทเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 15 ราย
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า การบริหารงานภายในของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ถูกมองว่าการประมูลงานก่อสร้างทุกครั้งจะมีการทุจริตคอร์รัปชัน โดยล็อกสเปกผู้รับเหมารายเดิมเพียง 4-5 ราย และมีการตั้งราคากลางสูงเกินจริง 20-30% และในส่วนของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ที่รัฐบาลมีเจตนารมณ์และมุ่งหวังให้โครงการมีความโปร่งใส และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกรายสามารถเข้าร่วมแข่งขันได้จริง โดยได้มีการยกเลิกและให้จัดทำทีโออาร์ใหม่ทั้งหมด แต่กลับพบว่าเมื่อถึงขั้นการพิจารณาของผู้บริหารระดับนโยบายของการรถไฟฯ กลับมีการแอบปรับเปลี่ยนทีโออาร์ให้มีการล็อกสเปกแบบเดิมอีก
นายอานนท์ชี้แจงว่า ในเรื่องการกำหนดทีโออาร์ของโครงการรถไฟทางคู่ การรถไฟฯ ได้ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ระเบียบการรถไฟฯ และระเบียบข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยได้พิจารณาให้มีการเปิดกว้าง มีผู้เข้าแข่งขันได้มากราย มีความโปร่งใส ยุติธรรม และในขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในการทำงาน การรับประกันความสำเร็จของผลงาน ทั้งด้านคุณภาพและระยะเวลาในการก่อสร้าง โดยการกำหนดคุณสมบัติและผลงานของผู้รับจ้างให้ใกล้เคียงกับลักษณะของงานที่จะก่อสร้าง โดยไม่มีการล็อกสเปกให้ผู้รับจ้างแต่อย่างใด
อีกทั้งทีโออาร์ดังกล่าวยังต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฯ คณะผู้สังเกตการณ์ตามข้อตกลงคุณธรรม และคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (Super Board) ทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีการแอบปรับเปลี่ยนทีโออาร์ให้มีการล็อกสเปกผู้รับจ้างตามที่มีการกล่าวถึง และจากการประเมินพบว่า ในการประกวดราคาหาตัวผู้รับจ้างงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ที่เป็นงานก่อสร้างคันทางปกติ บริษัทผู้รับจ้างในประเทศไทยมีคุณสมบัติสามารถเข้าร่วมเสนอราคาในฐานะนิติบุคคลไทยรายเดียวหรือเป็นบริษัทนำของกิจการร่วมค้าได้ไม่ต่ำกว่า 15 ราย บริษัทในประเทศไทยที่มีคุณสมบัติสามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกกิจการร่วมค้าได้อีกไม่ต่ำกว่า 50 ราย และยังเปิดกว้างให้บริษัทต่างชาติเข้าร่วมเสนอราคาในลักษณะของกิจการร่วมค้าได้อีกด้วย
ส่วนการกำหนดราคากลางค่าก่อสร้างของโครงการรถไฟทางคู่ การรถไฟฯ ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานก่อสร้างของกรมบัญชีกลาง โดยใช้ฐานข้อมูลราคาวัสดุจากประกาศกระทรวงพาณิชย์และการสืบราคาจากบริษัทผู้จำหน่าย ซึ่งได้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด อีกทั้งราคากลางดังกล่าวยังต้องผ่านการพิจารณาจากคณะผู้สังเกตการณ์ตามข้อตกลงคุณธรรม และจะต้องเสนอให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) พิจารณาตรวจสอบความเหมาะสมของราคาอย่างละเอียด ก่อนจะอนุมัติค่าก่อสร้างให้แก่การรถไฟฯ อีกด้วย