xs
xsm
sm
md
lg

ได้เวลา! รฟม.เปิดประมูลโมโนเรล “ชมพู-เหลือง” บิ๊กรถไฟฟ้า-รับเหมาจ้องชิงเค้กแสนล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รฟม.ประกาศทีโออาร์ ประมูลโมโนเรลสายสีชมพู และสีเหลือง วงเงินรวมกว่า 1.05 แสนล้าน PPP 100% ก่อสร้างและรับสัมปทานบริหารอีก 30 ปี เปิดขายซอง 6 ก.ค.-5 ส.ค.นี้ “BTS” ลั่นยื่นชิงดำทั้ง 2 สายแน่นอน มั่นใจบริหารรถไฟฟ้า 16 ปีได้เปรียบคู่แข่ง พร้อมเตรียมเงินสดได้ถึง 6 หมื่นล้าน เชื่อบริหารต้นทุนและค่าซ่อมต่ำสุดคือผู้ชนะ ส่วน BEM ยันประมูลแน่ ขณะที่หน้าใหม่อย่าง ITD จ้องร่วมชิงเค้ก

รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. รฟม.ได้ประกาศเชิญชวนการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการของรัฐโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. วงเงิน 53,490 ล้านบาท และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 29.1 กม. วงเงิน 51,810 ล้านบาท โดยเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือ Monorail ให้เอกชนร่วมลงทุนรูปแบบ PPP-Net Cost โดยกำหนดให้ผู้สนใจซื้อเอกสารประกวดราคาทั้ง 2 โครงการในวันที่ 6 ก.ค. 2559-5 ส.ค. 2559 เวลา 09.00-15.00 น. และเปิดให้ยื่นเอกสารประกวดราคาในวันที่ 7 พ.ย. 2559 เวลา 09.00-15.00 น. เปิดซองข้อเสนอในวันที่ 17 พ.ย. 2559 เวลา 13.00 น.

ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ค่างานโยธา 20,135 ล้านบาท สายสีเหลืองค่างานโยธา 22,354 ล้านบาท โดย รฟม.จะดำเนินการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และให้สัมปทานการลงทุนออกแบบและก่อสร้างงานโยธา การจัดหาระบบรถไฟฟ้า การให้บริการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงแก่ผู้รับสัมปทาน โดยแต่งตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 พิจารณาคัดเลือกและเจรจาต่อรองกับเอกชน ซึ่งจะพิจารณาข้อเสนอด้านคุณสมบัติและเทคนิคก่อนหากผ่านเกณฑ์จะได้รับการพิจารณาข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน ซึ่งจะมีข้อเสนอผลตอบแทนให้ รฟม.และหรือจำนวนเงินสนับสนุนที่จะขอรับจาก รฟม. โดยผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องมีผลประโยชน์สุทธิสูงที่สุด โดยนำเงินตอบแทนที่เสนอให้แก่ รฟม. หักด้วยจำนวนเงินสนับสนุนที่จะขอรับจาก รฟม.

สำหรับการดำเนินงาน จะแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ออกแบบและก่อสร้างงานโยธา จัดหา ติดตั้ง ทดสอบระบบรถไฟฟ้า รวมเวลาไม่เกิน 3 ปี 3 เดือน (39 เดือน) ระยะที่ 2 การให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง ระยะเวลา 30 ปี โดยเอกชนเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสาร ค่าที่จอดรถและรายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ทั้งหมดตามเงื่อนไขสัญญา

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC กล่าวว่า บริษัทจะเข้าร่วมประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองแน่นอน โดยจะร่วมกับ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ในการก่อสร้างงานโยธา ส่วนระบบรถโมโนเรลนั้นที่ผ่านมาได้พูดคุยกับผู้ผลิตไว้เบื้องต้นแล้วซึ่งมี 4 รายทั่วโลก ส่วนจะเลือกจับมือกับรายใดนั้นจะขอศึกษารายละเอียดเงื่อนไขในทีโออาร์ก่อน โดยต้นทุนการผลิตรถนั้นอยู่ในระดับใกล้เคียงกันทั้ง บริษัท ฉงชิ่ง ของจีน หรือ สโกมี่ ของมาเลเซีย หรือแม้แต่ ฮิตาชิ ของญี่ปุ่นอาจจะมีโรงงานผลิตที่สามารถทำให้ต้นทุนไม่สูงมากได้

ส่วนเรื่องเงินทุนนั้น ปัจจุบันบริษัทฯ มีเงินสดเกือบ 2 หมื่นล้านบาท และยังมีวอร์แรนต์ที่ออกไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งกรณีที่ชนะประมูลรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายจะสามารถแปลงวอร์แรนต์เป็นหุ้น ซึ่งหากแปลงทั้งหมดจะมีเงินสดเข้ามาอีก 4 หมื่นล้านบาท รวมมีเงินสดประมาณ 6 หมื่นล้านบาท เชื่อว่าไม่มีปัญหาเงินลงทุนแน่นอน

ส่วนจำเป็นต้องกู้เพิ่มเติมหรือไม่จะประเมินในระยะต่อไป เพราะนอกจากการเข้าร่วมประมูลรถไฟฟ้าสีชมพูและสีเหลืองแล้ว บริษัทฯ ยังต้องเตรียมพร้อมสำหรับการลงทุนรถไฟฟ้าในความรับผิดชอบของ กทม.อีก ส่วนเดินรถสายสีเขียวเหนือและใต้จะใช้เงินลงทุนไม่มาก เพราะจะลงทุนเฉพาะตัวรถไฟฟ้า ซึ่งได้ทำสัญญาซื้อรถไปแล้ว วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ เชื่อมั่นในประสบการณ์ในการบริหารกิจการรถไฟฟ้า BTS มา 16 ปี ซึ่งครั้งนี้ผู้ที่ชนะจะต้องมีต้นทุนต่ำที่สุด ซึ่งค่าก่อสร้างและตัวรถอาจมีต้นทุนไม่ต่างกันมาก ดังนั้นจะตัดสินที่ค่าบริหารจัดการและการซ่อมบำรุงที่จะต้องมีการคำนวณกันอย่างละเอียด

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และนายเปรมชัย กรรณสูต กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD เคยระบุว่าพร้อมเข้าร่วมประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลืองเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น