xs
xsm
sm
md
lg

รฟม.ดิ้นหาช่องเจรจา BMCL เดินรถสีน้ำเงิน กก.มาตรา 13 ชี้มติเปิดประมูลสมบูรณ์ตาม กม.ร่วมทุนฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้ว่าฯ รฟม.เดินเกมหนุนเจรจา BMCL เดินรถสีน้ำเงินส่วนต่อขยายโดยไม่ประมูล เตรียมให้ กก.มาตรา 13 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35 ชี้แจงบอร์ด รฟม. 19 ส.ค.นี้ กรณีมติให้เดินหน้าประมูล ชี้บอร์ดเห็นชอบเจรจาแล้ว ด้าน กก.มาตรา 13 สวนกลับ บอร์ด รฟม.รับทราบไม่มีอำนาจเห็นชอบ มติสมบูรณ์ตามกฎหมายเปิดประมูลปลาย ก.ย.นี้

นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35) ที่มีนายรณชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าฯ รฟม.เป็นประธาน ได้มีมติ 5:4 และงดออกเสียง 2 เสียง ให้เปิดประกวดราคางานเดินรถส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ) ระยะทาง 27 กม. ไม่ใช้การเจรจาตรงกับบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL ว่า รฟม.จะเสนอเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ที่มี พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ เป็นประธาน ในวันที่ 19 สิงหาคม เพื่อให้คณะกรรมการมาตรา 13 ชี้แจงถึงเหตุใดเปิดประมูล

เนื่องจากเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม บอร์ด รฟม.ที่มีนายชูศักดิ์ เกวี รองปลัดกระทรวงคมนาคมและกรรมการ รฟม.ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้มีมติเห็นชอบในหลักการแล้วว่าให้ รฟม.เจรจาตรงกับ BMCL ให้เดินรถส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินโดยไม่เปิดประมูล เพื่อความสะดวกของผู้โดยสาร ประหยัดเวลาประกวดราคา และค่าก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง

“ผมก็แปลกใจกับมติคณะกรรมการตามมาตรา 13 เพราะบอร์ดเคยเห็นชอบในหลักการไปแล้วว่าให้ รฟม.เจรจากับ BMCL เพื่อเดินรถต่อเนื่อง ดังนั้นคงต้องคุยกันหน่อยว่าเหตุใดคณะกรรมการมาตรา 13 จึงตัดสินใจอย่างนี้ ผมเข้าใจว่าคณะกรรมการมาตรา 13 มีอำนาจพิจารณาตัดสินใจ จะก้าวล่วงไม่ได้ แต่ รฟม.เองในฐานะที่เป็นเจ้าของโครงการก็มีสิทธิ์ถามมีสิทธิ์ทักท้วงเช่นกัน” นายยงสิทธิ์กล่าว

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการมาตรา 13 ระบุว่า ที่ประชุมคณะ กก.มาตรา 13 เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมมีมติชัดเจนเดินหน้าประมูลตามกระบวนการ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35 ซึ่งดำเนินการมาเกือบ 1 ปี มีการร่างทีโออาร์แล้ว มติมีความสมบูรณ์ตามกฎหมายร่วมทุนฯ และจะประกาศประมูลในปลายเดือนกันยายนนี้ และเมื่อสรุปผลประมูลตามขั้นตอน กก.มาตรา13 จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบ ส่วนที่ผู้ว่าฯ รฟม.ระบุว่าบอร์ด รฟม.เห็นชอบเรื่องเจรจาตรงกับ BMCL นั้นคงเข้าใจผิด บอร์ด รฟม. เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมนั้นเป็นการรับทราบที่ BMCL เสนอขอเจรจา ไม่ใช่เห็นชอบและตามขั้นตอนกฎหมายร่วมทุน ไม่ใช่กระบวนการและอำนาจของบอร์ดที่จะเห็นชอบได้ หากที่ประชุมบอร์ด รฟม.วันที่ 19 สิงหาคมนี้มีข้อสังเกตใดๆ ก็จะทำเป็นความเห็นประกอบเท่านั้นตามกฎหมายจะมาล้มขั้นตอนการทำงานของคณะ กก.มาตรา 13 ไม่ได้

นอกจากนี้ นายยงสิทธิ์ยังระบุถึงรูปแบบการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-สมุทรปราการ) ว่า จะมีการเสนอบอร์ด รฟม. วันที่ 19 สิงหาคมนี้ด้วย โดย รฟม.จะเสนอใช้โมเดลเดียวกับแบบกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่รับผิดชอบก่อสร้างงานโยธาและวางระบบ เช่ารถจากเอกชน และจ้างเอกชนวิ่งบริการ เพราะหากใช้รูปแบบ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ในสายสีเขียวใต้จะล่าช้าเนื่องจากมีขั้นตอนยุ่งยาก อาจส่งผลกระทบต่อกำหนดเปิดให้บริการช่วงปลายปี 2560 แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเจรจากับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (BTS) ให้วิ่งบริการต่อเนื่อง โดยในส่วนของ BTS จะเจรจาในส่วนของการเดินรถช่วงรอยต่อ 1 สถานี คือ จากสถานีแบริ่ง-สถานีสำโรง

“เรื่องให้ BTS เดินรถทั้งเส้นทางสีเขียวต่อขยายเลยหรือไม่นั้นยังไม่ได้ตัดสินใจเพราะต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อน เช่น ปริมาณผู้โดยสารที่ปัจจุบัน BTS มีอยู่ 8-9 แสนคนต่อวัน ส่วนสายสีเขียวใต้ของ รฟม.จะมีผู้โดยสารประมาณ 1.8-1.9 แสนคนต่อวัน ซึ่งต่างกันมาก และมีเพียง 30% เท่านั้นที่จะเป็นผู้โดยสารส่งต่อมาจาก BTS เข้ามา และยังมีประเด็นค่าโดยสารที่อาจจะแพงมาก เพราะที่ BTS รับจ้างวิ่งให้ กทม. 2 สถานี รวมทั้งเส้นทางแล้วค่าโดยสารยังแพงว่ารถไฟฟ้าใต้ดิน ดังนั้นตอนนี้วิธีการเป็นไปได้ทั้งเจรากับ BTS และเปิดประมูล” นายยงสิทธิ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น