ผู้จัดการรายวัน360-เผยมี 2 กลุ่มใหญ่ ชิงดำสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง วงเงินกว่า 1 แสนล้านบาท "บีทีเอส "จับมือ "ราชบุรีโฮลดิ้ง-ซิโน-ไทย" ส่วน BEM มาเดี่ยว เตรียมเปิดซองข้อเสนอ 17 พ.ย.นี้ เตรียมพิจารณาข้อเสนอ ต่อรองเอกชนภายใน 3 เดือน ก่อนเสนอ ครม.เห็นชอบ ด้าน MRT เจอปัญหาประแจสับรางขัดข้อง ทำผู้โดยสารตกค้างเพียบ เผยเกิดขึ้นวันเดียวกับที่ "อาคม" ลงฝึกซ้อมเสมือนจริงรถไฟฟ้าติดขัดในอุโมงค์
รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า จากที่รฟม.ได้ประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร วงเงิน 53,519.50 ล้านบาท มีผู้ซื้อเอกสารร่วมลงทุนฯจำนวน 16 ราย และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร เงินลงทุน 51,931.15 ล้านบาท มีผู้สนใจซื้อเอกสาร
ร่วมลงทุนฯ จำนวน 17 ราย โดยกำหนดให้ยื่นเอกสารร่วมลงทุนฯ ในวันที่ 7 พ.ย.2559 นั้น ปรากฎว่า ทั้ง 2 โครงการ มีผู้ยื่นเอกสารโครงการละ 2 กลุ่มเหมือนกัน ได้แก่ 1.กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTS Group) บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และ 2.บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM)
สำหรับขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 35 จะพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การประเมินข้อเสนอและเปิดซองข้อเสนอฯ ในวันที่ 17 พ.ย.2559 โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ในการดำเนินการประเมินผลข้อเสนอฯ และเจรจาต่อรองกับเอกชนผู้ชนะการคัดเลือก ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ซึ่งคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาได้ประมาณเดือนเม.ย.2560
โดยสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองนั้น รฟม. ลงทุนด้านการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และผู้รับสัมปทานลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทางโยธา ระบบเครื่องกลและไฟฟ้า (รถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบคร่อมราง) และให้บริการการจัดการเดินรถและบำรุงรักษา รวมถึงเป็นผู้จัดเก็บค่าบริการ (รูปแบบ PPP Net Cost) ซึ่งมีระยะเวลาสัมปทาน 33 ปี 3 เดือน โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างงานโยธา พร้อมระบบเครื่องกลและไฟฟ้า เป็นระยะเวลา 3 ปี 3 เดือน และระยะที่ 2 งานให้บริการด้านบริหารจัดการการเดินรถและบำรุงรักษา เป็นระยะเวลา 30 ปี
นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ BEM กล่าวว่า BEM และบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) จะร่วมมือในการประมูล โดย ช.การช่าง จะรับผิดชอบการก่อสร้างงานโยธา ซึ่งถือเป็นคู่ค้าที่มีความแข็งแกร่งทางการเงิน ถือเป็นจุดแข็ง โดยการแข่งขันครั้งนี้ มีหลายหัวข้อ งานโยธา ระบบรถ งานซ่อมบำรุง (O&M) งานบริหารการเดินรถ และการเงินสนับสนุนโครงการ ผู้ชนะคือคนที่บริหารค่าใช้จ่ายมีต้นทุนที่ต่ำ ซึ่งจะต้องหารายได้จากส่วนอื่น มาช่วยสนับสนุนรายได้จากการเดินรถ เช่น การพัฒนาเชิงพาณิชย์ในสถานีโดยรัฐบาลจะสนับสนุนเป็นการชดเชยให้ แต่ต้องขอรับการชดเชยน้อยที่สุด จึงจะเป็นผู้ชนะ
สำหรับปี 2559 คาดว่า จำนวนผู้โดยสารของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจะเติบโตจากปี 2558 ประมาณ 5% เป็นผลส่วนหนึ่งมาจากการเปิดเดินรถสายสีม่วง (คลองบางไผ่-เตาปูน) โดยมีผู้โดยสารจากสายสีม่วงประมาณ 50% หรือ 15,000 คน เข้ามาใช้บริการสายสีน้ำเงิน โดยเชื่อมต่อที่สถานีบางซื่อ และคาดว่าในปี 2560 ผู้โดยสารอาจจะเติบโตมากขึ้น หากมีการต่อเชื่อมช่วง 1 สถานี (เตาปูน-บางซื่อ)
โดยธุรกิจระบบรางของ BEM ในปี 2558 มีผลขาดทุนประมาณ 300 ล้านบาท แต่ในปี 2559 จะมีกำไรแน่นอน จากจำนวนผู้โดยสารสายสีน้ำเงินที่เพิ่มขึ้นและรายได้จากค่าจ้างเดินรถสายสีม่วง ประมาณ 1,800 ล้านบาทต่อปี โดยปี 2559 จะได้รับประมาณ 6 เดือน (เนื่องจากเปิดเดินรถสายสีม่วงตั้งแต่เดือนส.ค.2559) ส่วนปี 2560 จะมีกำไรต่อเนื่องแน่นอน เพราะจะได้รับค่าจ้างเดินรถสีม่วงเต็มปี บวกกับคาดการณ์สายสีน้ำเงินว่าจำนวนผู้โดยสารจะเติบโตประมาณ 4-5% ส่งผลให้รายได้เติบโตจาก 2,500 ล้านบาทเป็น 2,700 ล้านบาท ทำให้รายได้รวมของธุรกิจระบบราง อยู่ที่ 3,300-3,500 ล้านบาท
วันเดียวกันนี้ เมื่อเวลา 07.50 น. รถไฟฟ้า MRT สายเฉลิมรัชมงคล เกิดขัดข้องทำให้ต้องหยุดให้บริการชั่วคราวที่สถานีสามย่านและหัวลำโพง ทำให้การเดินรถมีความล่าช้า ส่งผลให้ผู้โดยสารตกค้างภายในแต่ละสถานีจำนวนมาก โดยทางบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ได้ดำเนินการแก้ไขและสามารถเปิดเดินรถได้ตามปกติตลอดเส้นทาง บางซื่อ-หัวลำโพง ในเวลา 10.15 น.
นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าฯ รฟม. กล่าวว่า เมื่อมีการแจ้งว่ารถไฟฟ้าเกิดขัดข้องที่สถานีหัวลำโพง ได้ปรับเดินรถเป็น 2 ช่วงหรือ Short loop หรือแบบวงกลม จากสถานีบางซื่อ-สถานีพระราม 9 ส่วนจากสถานีพระราม 9-สถานีศูนย์วัฒนธรรม และ สถานีศูนย์วัฒนธรรม-สถานีสีลม จะจัดเดินรถแบบ Shuttle ซึ่งการเดินรถในภาวะไม่ปกติจำนวนความถี่ลดลง ทำให้ไม่สะดวก มีผู้โดยสารหนาแน่นในแต่ละสถานี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าวันเดียวกัน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ได้เป็นประธานในการ ฝึกซ้อมการจัดการเหตุการณ์เสมือนจริง (Table Top Exercise) เหตุรถไฟฟ้าติดค้างในอุโมงค์ เนื่องจากระบบเบรคขัดข้อง ณ อาคารบริหาร และศูนย์ซ่อมบำรุงหลัก รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (Depot) พอดี โดยนายอาคมกล่าวว่า เหตุขัดข้องที่สถานีหัวลำโพงเกิดจากประแจสับรางขัดข้อง ซึ่งรถไฟฟ้าจะมีการซ่อมบำรุงทุกวัน แต่เครื่องมือบางอย่างแม้จะตรวจเช็คตามคู่มือ แต่ก็สามารถขัดข้องได้ทุกเมื่อ จึงกำชับให้ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์จะต้องเป็นไปตามเวลาที่กำหนดไว้
รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า จากที่รฟม.ได้ประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร วงเงิน 53,519.50 ล้านบาท มีผู้ซื้อเอกสารร่วมลงทุนฯจำนวน 16 ราย และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร เงินลงทุน 51,931.15 ล้านบาท มีผู้สนใจซื้อเอกสาร
ร่วมลงทุนฯ จำนวน 17 ราย โดยกำหนดให้ยื่นเอกสารร่วมลงทุนฯ ในวันที่ 7 พ.ย.2559 นั้น ปรากฎว่า ทั้ง 2 โครงการ มีผู้ยื่นเอกสารโครงการละ 2 กลุ่มเหมือนกัน ได้แก่ 1.กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTS Group) บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และ 2.บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM)
สำหรับขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 35 จะพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การประเมินข้อเสนอและเปิดซองข้อเสนอฯ ในวันที่ 17 พ.ย.2559 โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ในการดำเนินการประเมินผลข้อเสนอฯ และเจรจาต่อรองกับเอกชนผู้ชนะการคัดเลือก ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ซึ่งคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาได้ประมาณเดือนเม.ย.2560
โดยสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองนั้น รฟม. ลงทุนด้านการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และผู้รับสัมปทานลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทางโยธา ระบบเครื่องกลและไฟฟ้า (รถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบคร่อมราง) และให้บริการการจัดการเดินรถและบำรุงรักษา รวมถึงเป็นผู้จัดเก็บค่าบริการ (รูปแบบ PPP Net Cost) ซึ่งมีระยะเวลาสัมปทาน 33 ปี 3 เดือน โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างงานโยธา พร้อมระบบเครื่องกลและไฟฟ้า เป็นระยะเวลา 3 ปี 3 เดือน และระยะที่ 2 งานให้บริการด้านบริหารจัดการการเดินรถและบำรุงรักษา เป็นระยะเวลา 30 ปี
นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ BEM กล่าวว่า BEM และบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) จะร่วมมือในการประมูล โดย ช.การช่าง จะรับผิดชอบการก่อสร้างงานโยธา ซึ่งถือเป็นคู่ค้าที่มีความแข็งแกร่งทางการเงิน ถือเป็นจุดแข็ง โดยการแข่งขันครั้งนี้ มีหลายหัวข้อ งานโยธา ระบบรถ งานซ่อมบำรุง (O&M) งานบริหารการเดินรถ และการเงินสนับสนุนโครงการ ผู้ชนะคือคนที่บริหารค่าใช้จ่ายมีต้นทุนที่ต่ำ ซึ่งจะต้องหารายได้จากส่วนอื่น มาช่วยสนับสนุนรายได้จากการเดินรถ เช่น การพัฒนาเชิงพาณิชย์ในสถานีโดยรัฐบาลจะสนับสนุนเป็นการชดเชยให้ แต่ต้องขอรับการชดเชยน้อยที่สุด จึงจะเป็นผู้ชนะ
สำหรับปี 2559 คาดว่า จำนวนผู้โดยสารของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจะเติบโตจากปี 2558 ประมาณ 5% เป็นผลส่วนหนึ่งมาจากการเปิดเดินรถสายสีม่วง (คลองบางไผ่-เตาปูน) โดยมีผู้โดยสารจากสายสีม่วงประมาณ 50% หรือ 15,000 คน เข้ามาใช้บริการสายสีน้ำเงิน โดยเชื่อมต่อที่สถานีบางซื่อ และคาดว่าในปี 2560 ผู้โดยสารอาจจะเติบโตมากขึ้น หากมีการต่อเชื่อมช่วง 1 สถานี (เตาปูน-บางซื่อ)
โดยธุรกิจระบบรางของ BEM ในปี 2558 มีผลขาดทุนประมาณ 300 ล้านบาท แต่ในปี 2559 จะมีกำไรแน่นอน จากจำนวนผู้โดยสารสายสีน้ำเงินที่เพิ่มขึ้นและรายได้จากค่าจ้างเดินรถสายสีม่วง ประมาณ 1,800 ล้านบาทต่อปี โดยปี 2559 จะได้รับประมาณ 6 เดือน (เนื่องจากเปิดเดินรถสายสีม่วงตั้งแต่เดือนส.ค.2559) ส่วนปี 2560 จะมีกำไรต่อเนื่องแน่นอน เพราะจะได้รับค่าจ้างเดินรถสีม่วงเต็มปี บวกกับคาดการณ์สายสีน้ำเงินว่าจำนวนผู้โดยสารจะเติบโตประมาณ 4-5% ส่งผลให้รายได้เติบโตจาก 2,500 ล้านบาทเป็น 2,700 ล้านบาท ทำให้รายได้รวมของธุรกิจระบบราง อยู่ที่ 3,300-3,500 ล้านบาท
วันเดียวกันนี้ เมื่อเวลา 07.50 น. รถไฟฟ้า MRT สายเฉลิมรัชมงคล เกิดขัดข้องทำให้ต้องหยุดให้บริการชั่วคราวที่สถานีสามย่านและหัวลำโพง ทำให้การเดินรถมีความล่าช้า ส่งผลให้ผู้โดยสารตกค้างภายในแต่ละสถานีจำนวนมาก โดยทางบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ได้ดำเนินการแก้ไขและสามารถเปิดเดินรถได้ตามปกติตลอดเส้นทาง บางซื่อ-หัวลำโพง ในเวลา 10.15 น.
นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าฯ รฟม. กล่าวว่า เมื่อมีการแจ้งว่ารถไฟฟ้าเกิดขัดข้องที่สถานีหัวลำโพง ได้ปรับเดินรถเป็น 2 ช่วงหรือ Short loop หรือแบบวงกลม จากสถานีบางซื่อ-สถานีพระราม 9 ส่วนจากสถานีพระราม 9-สถานีศูนย์วัฒนธรรม และ สถานีศูนย์วัฒนธรรม-สถานีสีลม จะจัดเดินรถแบบ Shuttle ซึ่งการเดินรถในภาวะไม่ปกติจำนวนความถี่ลดลง ทำให้ไม่สะดวก มีผู้โดยสารหนาแน่นในแต่ละสถานี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าวันเดียวกัน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ได้เป็นประธานในการ ฝึกซ้อมการจัดการเหตุการณ์เสมือนจริง (Table Top Exercise) เหตุรถไฟฟ้าติดค้างในอุโมงค์ เนื่องจากระบบเบรคขัดข้อง ณ อาคารบริหาร และศูนย์ซ่อมบำรุงหลัก รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (Depot) พอดี โดยนายอาคมกล่าวว่า เหตุขัดข้องที่สถานีหัวลำโพงเกิดจากประแจสับรางขัดข้อง ซึ่งรถไฟฟ้าจะมีการซ่อมบำรุงทุกวัน แต่เครื่องมือบางอย่างแม้จะตรวจเช็คตามคู่มือ แต่ก็สามารถขัดข้องได้ทุกเมื่อ จึงกำชับให้ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์จะต้องเป็นไปตามเวลาที่กำหนดไว้