เดินหน้าถนน 2 เลน เชื่อมด่านพุน้ำร้อน-ท่าเรือทวาย ระยะทาง 138 กม. โครงสร้างพื้นฐานหลักเชื่อมเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย “ไทย-ญี่ปุ่น” พร้อมให้เงินกู้ช่วยเหลือพม่า เร่งปรับแบบลดความลาดชัน ขณะที่ “อองซานซูจี” มอบ รมต.กระทรวงคลังลองวางแผนพม่า รับหน้าที่ประสานไทยสานต่อแผน เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนไทยและต่างชาติ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากนางอองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 มิ.ย.นั้น นายกฯ ได้ระบุว่ามีโครงการความร่วมมือระหว่างไทย-พม่าที่ต้องสานต่อ คือ โครงการโครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมือง และสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความแออัดที่ด่านแม่สอด ซึ่งมีสะพานแม่น้ำเมยแห่งที่ 1 โดยเมื่อก่อสร้างสะพานแมยแห่งที่ 2 แล้วเสร็จจะแยกรถบรรทุกมาใช้ โดยขณะนี้การก่อสร้างมีความก้าวหน้าเป็นไปตามแผน คาดแล้วเสร็จในเดือน ส.ค.-ก.ย. 2556 โดยต้องเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างฝั่งพม่าที่เมืองเมียวดี
นอกจากนี้ ในโครงการความร่วมมือ 3 ฝ่ายระหว่างรัฐบาลไทย, พม่า และญี่ปุ่น ในการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ซึ่งนางอองซานซูจี ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีกระทรวงการคลังและวางแผนของเมียนมาประสานงานกับไทย เพื่อดำเนินการโครงการจำเป็นเร่งด่วน คือ การก่อสร้างถนน 2 ช่องจราจร จากด่านพุน้ำร้อนไปถึงท่าเรือทวาย ระยะทาง 138 กม. โดยรัฐบาลไทยได้ให้ความเห็นชอบในหลักการในการให้ความช่วยเหลือเป็นเงินกู้แก่พม่าในการก่อสร้างถนน ส่วนรัฐบาลญี่ปุ่นมีความเห็นว่าในการออกแบบบางช่วงควรมีการปรับเพื่อลดความลาดชันของถนนลดลงเพื่อให้รถบรรทุกสามารถวิ่งได้เร็วขึ้นจากเดิมที่เป็นถนนที่มีความลาดชันมาก
“รัฐบาลชุดก่อนนี้ของพม่าเห็นด้วยกับการพัฒนาถนน 2 เลน ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยประเทศไทยจะให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน แต่มีการชะลอเนื่องจากพม่ามีการเลือกตั้งและได้รัฐบาลชุดใหม่ซึ่งจะมีการหารือกันเพื่อสานต่อโครงการและต้องขยายเวลาให้กับทางบริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด (มหาชน) ที่จะให้เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างถนน 2 เลนนี้ โดยรัฐบาลพม่าจะกู้เงินจากไทยและญี่ปุ่น โดยแต่เดิมนั้นไทยได้กำหนดกรอบวงเงินไว้ที่ประมาณ 4,500 ล้านบาท แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น หลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนแบบเพื่อลดความลาดชันของถนนตามความเห็นของญี่ปุ่นซึ่งจะให้ทางญี่ปุ่นให้ความช่วยเหลือด้านการเงินเช่นกัน”
อย่างไรก็ตาม จะเร่งหาข้อสรุปโดยจะมีการหารือร่วมกัน 3 ฝ่ายในการก่อสร้างเส้นทางนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนไทยและต่างชาติในการขยายฐานการผลิตไปที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย