พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เรื่อง แนวทางการดำเนินงานของการท่าอากาศยาน และความต้องการพัฒนาพื้นที่ บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก รวมถึงการพัฒนาท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ ณ ห้องประชุมการท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา โดยมีรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ที่ประชุมตระหนักถึงศักยภาพประเทศไทยที่สามารถพัฒนาได้อีกหลายสาขา เช่น การพัฒนาพื้นที่ฝั่งทะเลภาคตะวันออก สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ เช่น อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว พร้อมกับขอบคุณกองทัพเรือ ที่ให้ความร่วมมือในการใช้ประโยชน์พื้นที่ในเชิงพาณิชย์ เช่น การพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา และท่าเรือน้ำลึกจุกเสม็ด เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและขีดความสามารถของประเทศ
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวบรรยายสรุปภาพรวมการเติบโตทางเศรษฐกิจบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก ที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมสาขาอุตสาหกรรมสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท โดยรัฐบาลมีนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม เพื่อเป็นศูนย์กลางการคมนาคม พัฒนาเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ำของภูมิภาค
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามและเร่งรัดแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยเร่งรัดให้ดำเนินการให้รวดเร็ว ตอบสนองการพัฒนาทั้งระบบ ที่สำคัญจะต้องมีการเชื่อมโยงระหว่าง 3 สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา รวมถึงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกจุกเสม็ด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบแผนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ และให้จัดทำแผนปฏิบัติการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยขอให้รับฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่และสร้างความเข้าใจว่า การพัฒนาจะสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เสริมความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ที่ประชุมตระหนักถึงศักยภาพประเทศไทยที่สามารถพัฒนาได้อีกหลายสาขา เช่น การพัฒนาพื้นที่ฝั่งทะเลภาคตะวันออก สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ เช่น อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว พร้อมกับขอบคุณกองทัพเรือ ที่ให้ความร่วมมือในการใช้ประโยชน์พื้นที่ในเชิงพาณิชย์ เช่น การพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา และท่าเรือน้ำลึกจุกเสม็ด เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและขีดความสามารถของประเทศ
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวบรรยายสรุปภาพรวมการเติบโตทางเศรษฐกิจบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก ที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมสาขาอุตสาหกรรมสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท โดยรัฐบาลมีนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม เพื่อเป็นศูนย์กลางการคมนาคม พัฒนาเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ำของภูมิภาค
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามและเร่งรัดแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยเร่งรัดให้ดำเนินการให้รวดเร็ว ตอบสนองการพัฒนาทั้งระบบ ที่สำคัญจะต้องมีการเชื่อมโยงระหว่าง 3 สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา รวมถึงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกจุกเสม็ด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบแผนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ และให้จัดทำแผนปฏิบัติการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยขอให้รับฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่และสร้างความเข้าใจว่า การพัฒนาจะสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เสริมความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน