“บี.กริม.” เตรียมนำบริษัทย่อย “บี.กริม เพาเวอร์” เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในปลายปีนี้ หวังระดมทุนขยายธุรกิจไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้าปี 2562 มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 5 พันเมกะวัตต์ โดยจะทุ่ม 2.4 หมื่นล้านทำโรงไฟฟ้า SPP ใหม่ 3 โรงแทนโรงไฟฟ้าเดิมที่สิ้นสุดสัญญาซื้อขายไฟกับ กฟผ.
นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม. เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะนำบริษัท บี.กริม.เพาเวอร์ จำกัด บริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประทศไทยภายในปลายปีนี้ เนื่องจากธุรกิจไฟฟ้ามีแผนขยายงานทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ต้องใช้เงินลงทุนสูงเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ได้รับสัมปทานรวมทั้งสิ้น 5 พันเมกะวัตต์ภายในปี 2562 จากสิ้นปีนี้ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 1,740 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนจะใช้เงินลงทุน 2.4 หมื่นล้านบาท เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดเล็กระบบโคเจนเนอเรชัน (SPP) ใหม่ 3 โรงเพื่อแทนโรงไฟฟ้า SPP เดิมที่จะสิ้นสุดสัญญาการซื้อขายไฟในปี 2563-2564 แบ่งเป็นโรงไฟฟ้า SPP ขนาด 180 เมกะวัตต์ จำนวน 2 โรงในนิคมฯ อมตะนคร และโรงไฟฟ้า SPP ขนาด 160 เมกะวัตต์ ที่นิคมฯ แหลมฉบัง โดยเบื้องต้นคาดว่าจะสร้างโรงไฟฟ้าใหม่กำลังการผลิตเท่าเดิม ซึ่งตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา สนับสนุน SPP ที่จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2560-2568 โดยอนุมัติให้รับซื้อไฟฟ้า SPP ไม่เกิน 30 เมกะวัตต์/โรง และไม่เกิน 30% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ อัตราค่าไฟที่ 2.8186 บาท/หน่วย โดย SPP ที่ได้รับสิทธินั้นจะต้องก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ในพื้นที่เดิม
แม้ว่ามติ กพช.จะอนุมัติให้รับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า SPP เดิมที่จะสิ้นสุดสัญญาในปริมาณที่ลดลงจาก 90 เมกะวัตต์/โรงเหลือเพียง 30 เมกะวัตต์/โรง ทางบริษัทฯ ก็พร้อมที่จะลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าใหม่แทน เนื่องจากลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นทดแทนการรับซื้อไฟฟ้าที่ลดลงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งเห็นว่าการมีโรงไฟฟ้า SPP ในนิคมฯ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นด้านพลังงานไฟฟ้าให้แก่นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทย
นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้าSPP อีก 3 โรง โรงละ 112 เมกะวัตต์ ที่ จ.ระยอง ใช้เงินลงทุน 1.8 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะจ่ายไฟเข้าระบบทั้ง 3 โรงในปี 2561 รวมทั้งบริษัทยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็ก 20 กว่าเมกะวัตต์ ที่ สปป.ลาว คาดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะลงทุนโรงไฟฟ้าขนาดเล็กในลาวเพิ่มเติมอีก 9 โรง คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 200 เมกะวัตต์ ขณะเดียวกันก็สนใจลงทุนธุรกิจไฟฟ้าในพม่า และเวียดนาม
นายฮาราลด์กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้ บี.กริม.ตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 4.2 หมื่นล้านบาท โตขึ้น 21% เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยเป็นรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วน 75% ของรายได้ทั้งหมดจาก 6 ธุรกิจ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีสัดส่วนเพียง 63% ของรายได้รวม เนื่องจากปีนี้รับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า SPP ใหม่ที่จ่ายไฟเข้าระบบ 3 โรง คิดเป็นกำลังการผลิตเพิ่ม 378 เมกะวัตต์