เปิดมติบอร์ด กทพ. 18 พ.ค. กลับลำเสนอ ครม.ขอมติสั่งยื่นศาลปกครองกลางสู้คดีค่าทางด่วนปี 46 ตามคำสั่ง “อาคม” ที่ส่งหนังสือด่วนให้ทบทวนการแก้ไขข้อพิพาท โดยยึดตามบรรทัดฐานข้อพิพาททางด่วน “บางนา-บางพลี-บางปะกง” วงในเผย “วิษณุ” เตรียมศึกษาข้อ กม.รอหารือใน ครม.อีกทาง ด้าน “คมนาคม” ชี้มติบอร์ดต้องชัดเจนว่าสั่งฟ้อง หวั่นโยน ครม.อาจมีมติแค่รับทราบไม่ได้เห็นชอบซึ่งฟ้องศาลไม่ได้จนกว่าบอร์ดจะสั่งอยู่ดี
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ที่มี พล.อ.วิวรรธน์ สุชาติ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ในเรื่องข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 53/2551 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 6/2559 (การปรับอัตราค่าผ่านทาง ทางพิเศษตามสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ปี พ.ศ. 2546) โดยมีมติเป็นทางการใหม่ เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีบัญชาให้คณะกรรมการ กทพ.ทบทวนเรื่องการพิจารณาแก้ไขข้อขัดแย้งและข้อพิพาทกรณีการปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษระหว่าง กทพ. กับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEN โดยใช้ดุลพินิจสูงสุดเป็นการด่วนที่สุด โดยต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและดำเนินการตามบรรทัดฐานเดิมกรณีข้อพิพาททางด่วนสายบางนา-บางพลี-บางปะกง ที่มีการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของศาล โดยให้ กทพ.ดำเนินการให้ทันวันที่ 1 มิ.ย. 2559
ประกอบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ให้ข้อพิจารณาเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2547 วันที่ 28 ก.ค. 2552 และวันที่ 14 ก.ค. 2558 โดยมีประเด็นเกี่ยวกับการทำสัญญาระหว่างรัฐกับเอกชน ควรนำคดีพิพาทจากสัญญาส่งไปศาลปกครองหรือศาลยุติธรรม ดังนั้นคณะกรรมการ กทพ.จึงมีมติ 3 ข้อ คือ
1. ให้ กทพ.ทำหนังสือนำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ เพื่อขอให้พิจารณานำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ กทพ.นำข้อพิพาทดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของศาลปกครองต่อไป ทั้งนี้ ให้ กทพ.จัดทำข้อดี ข้อเสียของการดำเนินการดังกล่าวให้ชัดเจนเพื่อประกอบการพิจารณาของ ครม.
2. หาก ครม.มีมติเห็นชอบตามที่ กทพ.เสนอในข้อ 1. ให้ กทพ.แจ้งสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเสียงข้างมาก ซึ่งได้มีการวินิจฉัยชี้ขาดเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2559 ต่อศาลปกครองกลางต่อไป
3. ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง ขอให้ ครม.มีมติเห็นชอบให้ กทพ.หาข้อยุติที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อรัฐและประชาชน และให้นำเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า มติของบอร์ด กทพ.ที่ออกมามีการมองว่า อาจจะมีช่องโหว่เนื่องจากผู้มีอำนาจในการสั่งฟ้องร้องคือบอร์ด ซึ่งการเสนอ ครม.เพื่อให้เห็นชอบนั้นในทางปฏิบัติ ครม.อาจไม่สามารถเห็นชอบได้ ดังนั้น ครม.อาจจะมีมติรับทราบเท่านั้น ซึ่งจะทำให้มีปัญหายังนำไปฟ้องศาลปกครองไม่ได้เพราะบอร์ดไม่ได้มีมติ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องพิจารณาถ้อยคำและประเด็นข้อกฎหมายให้รอบคอบ ส่วนสหภาพฯ กทพ.นั้น เห็นว่าบอร์ดยังไม่จริงใจกับเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้รับมติบอร์ด กทพ.เป็นทางการแล้ว กระทรวงจะเร่งประมวลข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อนำเสนอ ครม.ในการประชุมวันที่ 24 พ.ค.นี้ ในขณะเดียวกัน ทางนายกรัฐมนตรีได้รับทราบเรื่องแล้ว และได้มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องไว้ประกอบการพิจารณาแบบคู่ขนานด้วย เพื่อให้สามารถพิจารณาหาทางออกได้โดยไม่เสียเวลา เนื่องจากมีกรอบเวลาในการยื่นศาลปกครองให้ทันในวันที่ 1 มิ.ย. 2559 กรณีจะยื่นสู่ศาล