กทพ.ลุ้น “อาคม” ชง ครม.หวังมีมติสั่ง กทพ.สู้คดีปรับค่าผ่านทางด่วนปี 46 ด้านอัยการขอมติบอร์ด กทพ.ที่ชัดเจนยืนยันอีกครั้ง ก่อนตอบรับสู้คดีได้หรือไม่ ขณะที่เส้นตายต้องยื่นศาลปกครองใน 1 มิ.ย. ไม่เช่นนั้นถือว่าสละสิทธิ์ ด้านสหภาพฯ และพนักงานยันคำเดิม ต้องยื่นศาลสู้ถึงที่สุด ล่า 4,000 รายชื่อยื่นบอร์ดทบทวนมติ
วานนี้ (16 พ.ค.) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (สร.กทพ.) ได้จัดประชุมโดยมีพนักงานและลูกจ้าง กทพ.จำนวนมากเข้าร่วม เพื่อรับฟังการชี้แจงของนายนายณรงค์ เขียดเดช ผู้ว่าการ กทพ. และฝ่ายบริหาร เกี่ยวกับมติคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ.และประเด็นข้อกฎหมาย กรณีอนุญาโตตุลาการเสียงข้างมาก ซึ่งได้มีการวินิจฉัยชี้ขาดเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2559 ให้ กทพ.ชดใช้ค่าเสียหายจากการปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษปี 2546 ให้กับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้รับสัมปทานระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางพิเศษศรีรัช) โดยพนักงานเรียกร้องให้ผู้ว่าฯ กทพ.เดินหน้ายื่นศาลปกครองเพื่อต่อสู้คดีให้ถึงที่สิ้นสุด พร้อมล่ารายชื่อพนักงานและลูกจ้าง 4,000 คน ยื่นต่อ พล.อ.วิวรรธน์ สุชาติ ประธานบอร์ด กทพ. เพื่อขอให้บอร์ดทบทวนมติใหม่จากมติเดิมที่จะไม่ยื่นศาลปกครองโดยจะเจรจากับ BEM
นายณรงค์กล่าวว่า มติบอร์ด กทพ.เกี่ยวกับการปรับค่าผ่านทางปี 46 มี 2 ครั้ง คือ มติเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 59 ที่ให้ กทพ.รวบรวมสำนวนและหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเสนอสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้ดำเนินการเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตฯ ต่อศาลปกครองกลางก่อนครบกำหนดในวันที่ 1 มิ.ย. 59 ไว้ก่อน ซึ่งตนได้ลงนามในหนังสือส่งไปยังอัยการสูงสุดแล้ว และมติบอร์ดเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 59 ที่มีแนวการเจรจาลดค่าชดเชยกับเอกชน โดยจะต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบก่อน ซึ่งภายใน 1-2 วันนี้จะเสนอมติบอร์ด กทพ.ไปกระทรวงคมนาคมเพื่อเร่งเสนอ ครม.ภายในสัปดาห์หน้า โดยหาก ครม.ไม่เห็นด้วยกับมติบอร์ดวันที่ 11 พ.ค.ที่ให้เจรจากับเอกชน กทพ.จะต้องเดินหน้ายื่นศาลปกครองซึ่งได้ประสานกับอัยการสูงสุดไว้แล้ว
ส่วนการที่สหภาพฯ และพนักงานออกมาเรียกร้องนั้นเป็นสิทธิของพนักงาน แต่ในทางกฎหมายขอให้พิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้กระทบต่อความเป็นพนักงาน
ทั้งนี้ ผู้บริหาร กทพ.ฝ่ายกฎหมายได้ชี้แจงกับพนักงานว่า มติบอร์ด กทพ.เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ให้อัยการช่วยต่อสู้คดีนั้นยังไม่มีการยกเลิก โดยอัยการได้มีหนังสือถึง กทพ.ให้ยืนยันมติบอร์ด กทพ.อีกครั้ง เนื่องจากบอร์ด กทพ.มีมติเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ออกมาเรื่องเจรจากับ BEM ซึ่ง กทพ.จะเร่งทำหนังสือถึงอัยการภายในวันที่ 17 พ.ค.นี้ และหลังจากนั้นต้องรออัยการพิจารณาว่าจะสามารถยื่นศาลปกครองเพื่อต่อสู้ได้หรือไม่ ในขณะเดียวกันจะต้องรอมติ ครม.ด้วยว่าจะให้ กทพ.ยื่นศาลปกครองหรือไม่
ซึ่งกรณีการปรับค่าผ่านทางมีปัญหาเมื่อปี 41 แล้ว อัยการได้ตั้งคณะทำงานสู้คดีและที่สุด กทพ.เป็นฝ่ายชนะ กรณีการปรับค่าผ่านทางปี 46 ครั้งนี้อัยการพร้อมหาทางช่วย กทพ. ซึ่งกรณีนี้จะกระทบเป็นวงกว้างไปถึงการปรับค่าผ่านทางปี 51, 56, 59 และทางด่วนส่วน D ที่มีข้อพิพาทอยู่ในชั้นหากไม่สู้หรืออยู่เฉยๆ ขณะที่ยังไม่เคยมีคำพิพากษาของศาลปกครองที่บอกว่า กทพ.ผิด ดังนั้นการยื่นศาลปกครองเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าที่ผ่านมา กทพ.ปรับค่าผ่านทางผิดหรือไม่ หากผิดจะได้ปรับปรุงแก้ไขเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขอให้เห็นใจผู้ว่าฯ กทพ.ด้วย ซึ่งต้องยอมรับว่ามีบอร์ดบางคนไม่แน่ใจในแนวทางที่ออกเป็นมติเช่นกัน แต่สถานการณ์บังคับจึงไม่สามารถให้ความเห็นเป็นอื่นได้
ผู้สื่อข่าวสอบถามนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ถึงกรณีคดีค่าผ่านทางด่วนว่าจะมีการเสนอ ครม.พิจารณาได้ในสัปดาห์หน้าหรือไม่ นายอาคมตอบสั้นๆ ว่ายังไม่ทราบ ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้มอบให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาข้อกฎหมายไว้พลางเพื่อรอดูมติบอร์ด กทพ.ที่ส่งมาประกอบการตัดสินใจต่อไป
แหล่งข่าวกล่าวว่า ประเด็นสำคัญคือ ครม.จะมีมติอย่างไร หากให้ต่อสู้ยื่นศาลปกครองตามขั้นตอนจะต้องเร่งให้ทันภายใน 90 วัน หรือในวันที่ 1 มิ.ย. 59 แต่หากยืดเยื้อ ไม่ดำเนินการใด หากพ้นกำหนด 90 วันเท่ากับสละสิทธิในการต่อสู้คดีไปโดยปริยาย ในขณะเดียวกัน มติบอร์ด กทพ. 2 ครั้งขัดแย้งกันเองอีกด้วย
