xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ด กทพ.กลับมติชง ครม.ตัดสินสู้คดีค่าทางด่วน แต่ยังไม่ปิดช่องการเจรจา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายณรงค์ เขียดเดช ผู้ว่าการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ( กทพ.)
บอร์ด กทพ.ประชุมด่วน กลับมติชง ครม.ตัดสินคดีค่าผ่านทางด่วนปี 46 หลัง “คมนาคม” มอบหมายให้ทบทวนมติเดิมให้นำคดีสู่ศาลปกครองกลาง หลังสหภาพฯ กทพ.กดดัน เรียกร้องให้สู้ถึงที่สุด

วันนี้ (18 พ.ค.) พล.อ. วิวรรธน์ สุชาติ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้เรียกประชุมบอร์ด กทพ. วาระพิเศษเร่งด่วน เพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาคดีค่าผ่านทางด่วน ปี 2546 กับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ หลังจากที่สหภาพฯ กทพ.ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม คัดค้านมติบอร์ด วันที่ 11 พ.ค. ที่จะไม่ยื่นศาลปกครองต่อสู้คดี โดยกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้บอร์ดทบทวนโดยใช้ดุลพินิจสูงสุดเป็นการด่วน โดยรักษาประโยชน์ประเทศ และดำเนินการตามบรรทัดฐานเดิมกรณีข้อพิพาททางด่วนสายบางนา-บางพลี-บางปะกง ที่มีการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของศาลให้ทันภายในวันที่ 1 มิ.ย. 59

นายณรงค์ เขียดเดช ผู้ว่าการ กทพ.กล่าวว่า จากที่มีข้อหารือจาก รมว.คมนาคม กับประธานบอร์ด พบว่าเคยมีมติกรณีสัญญาระหว่างรัฐกับเอกชนในสัมปทานหรือการร่วมลงทุน ถือเป็นสัญญาทางปกครอง ซึ่งพบมีมติอย่างน้อย 3 ครั้งที่ควรนำเข้าสู่การพิจารณาของศาลปกครอง ดังนั้น ที่ประชุมบอร์ด วันที่ 18 พ.ค.จึงได้พิจารณาแนวทางตามนั้น แต่ไม่ได้ปิดช่องทางในการเจรจาหากสามารถหาข้อยุติที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนได้ โดยจะเร่งสรุปมติบอร์ดอย่างเป็นทางการเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเร็วที่สุด

รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมบอร์ด กทพ.จึงได้มีมติตามที่กระทรวงคมนาคมมอบหมาย ขณะเดียวกันจะเสนอแนวทางการเจรจากับเอกชนร่วมด้วย โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป

ด้านสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (สร.กทพ.) ได้ออกแถลงการณ์ เรื่องข้อพิพาทค่าผ่านทาง ปี 2546 ฉบับ 2 ตีแผ่มติบอร์ด โดยระบุถึง ก่อนหน้านี้ กทพ.มีหนังสือขอความอนุเคราะห์สำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการจัดพนักงานอัยการเป็นผู้รับมอบอำนาจดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางเพื่อให้เพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการมติบอร์ด กทพ. ต่อมาบอร์ดมีมติเมื่อวันที่ 11พ.ค. 2559 ซึ่งเปลี่ยนจุดยืนกะทันหันกลับมาจ่ายเงินตามอนุญาโตตุลาการทำให้การดำเนินการของสำนักงานอัยการสูงสุดในการจะดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางต้องชะงักลง

ขณะที่ผู้นำระดับสูงของ กทพ.ได้แจ้งต่อพนักงานว่าไม่ได้ถอนเรื่องขอความอนุเคราะห์สำนักงานอัยการสูงสุดคืนแต่อย่างใด ซึ่งมติบอร์ดได้สร้างความสับสน และกลายเป็นเครื่องมือในการสกัดกั้นการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง

นอกจากนี้ บอร์ดมีมติเห็นชอบผลการหารือเบื้องต้นกับเอกชน และยังเร่งรัดให้ กทพ. เดินหน้าเจรจาต่อไปจนได้ข้อยืนยันเจตนารมณ์ของบอร์ดว่าไม่ประสงค์จะต่อสู้ในศาลปกครองกลางอย่างแท้จริงแต่แรก ซึ่งการเจรจาเกี่ยวพันถึงผลประโยชน์จำนวนมหาศาลทั้งจำนวนที่อนุญาโตตุลาการมีคำตัดสิน 8,100 ล้านบาท และที่จะเกิดขึ้นตามมาอีกในอนาคต รวมมูลค่าประมาณ 29,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม การที่ประธานบอร์ดระบุเหตุผลว่าอนุญาโตตุลาการชี้ขาดให้ กทพ.แพ้ และกระทรวงการคลัง อัยการสูงสุด กฤษฎีกา ฯลฯ ได้ยืนยันตามแล้ว เป็นเพียงข้ออ้างในการไม่นำเรื่องเข้าสู่ศาลปกครองกลางเท่านั้น ความเห็นเหล่านี้เป็นข้อมูลประกอบ ไม่ได้เป็นคำสั่งหรือนโยบายที่บังคับให้บอร์ด กทพ.ต้องปฏิบัติตาม
กำลังโหลดความคิดเห็น