“รฟม.-กทม.” เซ็นเอ็มโอยู โอนงานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวแล้ว “อาคม” ย้ำใช้ระบบตั๋วร่วม ลดค่าแรกเข้าเหลือครั้งเดียว ด้าน “สุขุมพันธุ์” รับพิจารณาค่าโดยสารเหมาะสม เร่งเปิดให้บริการ 1 สถานีแรก ถึงสำโรงในปีนี้ ด้าน รฟม.รอคลังเคาะวิธีชำระหนี้ค่าก่อสร้าง 6 หมื่นล้าน
วันที่ 28 มี.ค. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่าด้วยแนวทางการดำเนินงานตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (ครจ.) เรื่องมอบหมายให้กรุงเทพมหานคร เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานะใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างภาครัฐในการร่วมพัฒนาระบบรถไฟฟ้าเพื่อการบริการประชาชน ซึ่งถือเป็นมติใหม่ในการพัฒนาร่วมกัน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเดินทางของประชาชนอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถทั้งช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ
นายอาคมกล่าวว่า กระทรวงคมนาคมจะเร่งผลักดันแผนโครงสร้างพื้นฐานให้แล้วเสร็จตามกำหนด ภายหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จก็จะส่งมอบหมายโครงการให้ กทม.ทันที โดย กทม.จะต้องดำเนินการจัดหาผู้เดินรถซึ่งมีเงื่อนไขที่กำหนดร่วมกันว่าจะต้องมีการใช่ร่วมกับระบบตั๋วร่วมโดยไม่คิดค่าแรกเข้าซ้ำซ้อน มีอัตราค่าโดยสารที่เป็นธรรม รวมถึงมาตรฐานการให้บริการที่ดี
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ กทม.ได้ร่วมมือกับกระทรวงคมนาคมโดยมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการสร้างระบบขนส่งมวลชนให้บริการการเดินทางในกรุงเทพฯให้เกิดความสะดวก สำหรับการกำหนดอัตราค่าโดยสารนั้นจะนำข้อมูลผู้ใช้บริการจริงมาคิดเป็นสัดส่วนการให้บริการก่อนจะกำหนดราคาจริงอีกครั้ง โดยจะสรุปผลเร็วๆ นี้ หากมีภาระส่วนต่างค่าบริหารเกิดขึ้น กทม.พร้อมใช้งบของ กทม.ขออนุมัติจากสภา กทม.เข้ามารับภาระชดเชย ส่วนการเดินรถนั้นได้มีการหารือเบื้องต้นร่วมกับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส เรียบร้อยแล้ว โดยตกลงว่าเป็นการลักษณะการจ้างวิ่งไม่ใช่การให้สัมปทาน
ด้าน พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ มีมูลค่าโครงการ 2.1 หมื่นล้านบาท และช่วงช่วงหมอชิต-สะพานะใหม่-คูคต มีมูลค่า 3.9 หมื่นล้านบาท มูลค่ารวม 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งการชำระค่าก่อสร้างให้ รฟม.นั้นมีคณะกรรมการประเมินมูลค่าหนี้สิน และทรัพย์สิน รวมทั้งขั้นตอนทางการเงินและการงบประมาณโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลังร่วมพิจารณา โดย รฟม.อยากให้ กทม.จัดสรรเงินลงทุนคืนให้แก่ รฟม.โดยเร็ว
โดยความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ งานโยธาขณะนี้แล้วเสร็จไปประมาณ 70% โดยปลายปี 2559 จะเปิดให้บริการเดินรถได้จากสถานีแบริ่ง-สถานีสำโรง