“พาณิชย์” ประสานศุลกากรคุมเข้มการนำเข้าพริกจากต่างประเทศ และดูแลการลักลอบนำเข้า หวั่นกระทบต่อราคาภายในประเทศ พร้อมจับตาสถานการณ์ราคา หลังภัยแล้งทำผลผลิตเสียหาย หากพบพื้นที่ใดขาดแคลนเตรียมนำผลผลิตจากแหล่งอื่นแทรกแซงทันที
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดติดตามสถานการณ์การนำเข้าพริกแห้งและการลักลอบการนำเข้าจากชายแดนอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อราคาผลผลิตภายในประเทศที่กำลังออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้ เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าผู้ประกอบการได้นำเข้าพริกแห้ง โดยเฉพาะจากอินเดียและจีนมากผิดปกติ หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัว เมื่อเทียบระหว่างเดือน ม.ค. 2559 กับช่วงเดียวกันของปีก่อน
“ได้ประสานกับกรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ช่วยดูแลกรณีที่มีผู้นำเข้าพริกจากต่างประเทศบางรายมีการสำแดงราคาต่ำผิดปกติ เพราะหากพริกนำเข้าราคาต่ำเกินจริงก็จะส่งผลให้พ่อค้ากดราคารับซื้อจากเกษตรกรภายในประเทศได้”
สำหรับสถานการณ์ราคาพริกในปัจจุบัน พบว่า พริกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่กำลังออกสู่ตลาดในช่วงนี้มีราคาทรงตัวที่ 25-30 บาท/กิโลกรัม (กก.) และมีแนวโน้มราคาอาจสูงขึ้น เพราะเข้าสู่หน้าแล้งและอากาศร้อน เนื่องจากผลผลิตเสียหายและเข้าสู่ตลาดน้อยลง ส่วนผลผลิตพริกในภาคใต้ก็กำลังจะออกสู่ตลาดเช่นเดียวกัน ซึ่งกระทรวงฯ จะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ติด โดยหากพื้นที่ใดมีปัญหาการขาดแคลนก็จะประสานนำพริกจากแหล่งผลิตอื่นเข้าไปแทรกแซงตลาดในทันที
นางอภิรดีกล่าวว่า กระทรวงฯ ยังมีแผนที่จะเชื่อมโยงนำผลผลิตจากแหล่งผลิตกระจายเข้าสู่ตลาดต่างๆ เพื่อเป็นการขยายโอกาสให้สินค้าเพิ่มเติม โดยจะนำผลผลิตจากผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์โอทอปที่ผลิตน้ำพริกสำเร็จรูปนานาชนิดทั้ง น้ำพริกกุ้งเสียบ แกงไตปลาแห้ง รวมทั้งผู้ประกอบการแปรรูปพริกแกง เป็นต้น นำไปจำหน่ายในพื้นอื่น ทั้งขายผ่านตลาดต้องชม ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกค้าส่ง รวมทั้งจะช่วยประสานในการรับซื้อวัตถุดิบ ประเภทพริก ข่า ตะไคร้ เพื่อนำมาใช้ในการผลิตด้วย ซึ่งจะเป็นการช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ผลิต
ทั้งนี้ สถิติปี 2558 มีการนำเข้าพริกแห้งจากอินเดีย จีน มีมูลค่ากว่า 62.96 ล้านเหรียญสหรัฐ, พริกสดจาก จีนและพม่า มูลค่ากว่า 4.57 ล้านเหรียญสหรัฐ และพริกป่นจากอินเดีย จีน มูลค่า 3.33 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนสถิติการส่งออกปี 2558 ของไทยพบว่า พริกแห้งส่งออกไปพม่ามูลค่ากว่า 8.45 ล้านเหรียญสหรัฐ, พริกสดส่งออกไปมาเลเซีย และพม่า มูลค่ากว่า 5.21 ล้านเหรียญสหรัฐ และพริกป่นส่งออกไปเนเธอร์แลนด์ มูลค่ากว่า 3.19 ล้านเหรียญสหรัฐ