xs
xsm
sm
md
lg

“ธปท.ภาคใต้” สรุปภาวะเศรษฐกิจ-การเงินไตรมาส 3 ขยายตัวเล็กน้อยอัตราว่างงานยังเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ (ธปท.) แถลงข่าวสรุปภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคใต้ไตรมาสที่ 3 ปี 2558 ภาวะเศรษฐกิจภาคใต้โดยรวมยังขยายตัวได้เล็กน้อย ด้านอัตราการว่างงานยังคงเพิ่มจากไตรมาสก่อน

ภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ไตรมาสที่ 3 ปี 2558 โดยรวมขยายตัวเล็กน้อย จากแรงขับเคลื่อนของการท่องเที่ยว และการลงทุนภาครัฐ ประกอบกับการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบที่ลดต่ำลง และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายมากขึ้น แม้จะเป็นปัจจัยลบจากรายได้เกษตร และความเชื่อมั่นที่อยู่ในระดับต่ำลง ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวจากการชะลอตัวของอุปสงค์ต่างประเทศ และข้อจำกัดด้านวัตถุดิบ ด้านอัตราเงินเฟ้อติดลบน้อยลง ส่วนอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย

ส่วนรายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจภาคใต้มีดังนี้
1.ภาคการท่องเที่ยว : ยังคงเป็นแรงหนุนสำคัญของภาพรวมเศรษฐกิจ ถึงแม้ได้รับผลกระทบระยะสั้นจากเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ และการชุมนุมทางการเมืองของมาเลเซียในช่วงเดือนสิงหาคม โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนขยายตัวในอัตราสูงถึงร้อยละ 32.1 ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทั้งฝั่งอันดามัน อ่าวไทย และภาคใต้ตอนล่าง จาการขยายตัวของนักท่องเที่ยวมาเลเซีย และจีนเป็นสำคัญ สอดคล้องต่ออัตราเข้าพักที่เพิ่มขึ้น

2.ผลผลิตสินค้าเกษตร : เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ทั้งยาง ปาล์มน้ำมัน และกุ้งขาว ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรสำคัญลดลง โดยราคายางลดลงจากความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก เช่น ราคาน้ำมันดิบที่ลดต่ำสุดในรอบ 6 ปี และอุปสงค์คู่ค้าที่ชะลอตัว โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนมากกว่าที่คาด นอกจากนี้ ราคาปาล์มน้ำมันมีแรงกดดันเพิ่มจากสต๊อกที่สูงกว่าระดับปกติกว่าเท่าตัว และราคากุ้งขาว ได้รับผลกระทบจากประเทศคู่แข่งมีผลผลิตเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ส่งผลให้รายได้เกษตรกรยังอยู่ในระดับต่ำ

 
3.การผลิตภาคอุตสาหกรรม : ลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ตามอุปสงค์คู่ค้าที่ชะลอลง ประกอบกับวัตถุดิบปลา และปลาหมึกมีน้อย จากการที่อินโดนีเซียยกเลิกการให้สัมปทานเรือต่างชาติ รวมทั้งการออกกฎระเบียบของภาครัฐในการแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย (IUU) ทำให้เรือประมงออกเรือได้น้อยลง อย่างไรก็ตาม การผลิตยางแปรรูป และไม้ยางเพื่อส่งออกไปตลาดหลักจีนยังขยายตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน โดนมีการนำเข้ายางแผ่นรมควัน และยางแท่งเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนยางคอมพาวนด์ที่นำเข้าลดลงจากความไม่มั่นใจคุณภาพของส่วนผสมที่กำหนดใหม่ ขณะเดียวกัน การผลิตน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นตามปริมาณวัตถุดิบ

4.ด้านมูลค่าการส่งออก : เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนลดลงทุกหมวดสินค้า ทั้งยางแปรรูป ไม้ยางแปรรูป ถุงมือยาง สัตว์น้ำ และอาหารทะเลกระป๋อง ส่วนมูลค่าการนำเข้าลดลงจาการนำเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์ น้ำมันเชื้อเพลิง อุปกรณ์ก่อสร้าง สัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม

5.การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน : ปรับตัวดีขึ้น แม้จะได้รับปัจจัยลบจากรายได้ภาคเกษตร และความเชื่อมั่นที่อยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลงมากเป็นปัจจัยบวกต่อการบริโภค รวมทั้งได้รับแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอยในส่วนที่เกี่ยวเนื่องต่อการก่อสร้างภาครัฐ ประกอบกับห้างสรรพสินค้ามีการเพิ่มกลยุทธ์ส่งเสริมการขายมากขึ้นกว่าปีก่อน และต่อเนื่อง และมีการลดราคารถรุ่นเก่าเพื่อเปิดตัวรุ่นใหม่ รวมทั้งจะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2559 ซึ่งจะทำให้ราคารถยนต์บางรุ่นสูงขึ้น ส่งผลให้มีการเร่งซื้อมากขึ้น

6.การลงทุนภาคเอกชน : ยังคงซบเซา โดยเครื่องชี้สำคัญลดลง ทั้งพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาล ปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ การจดทะเบียนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล และการนำเข้าสินค้าทุนส่วนใหญ่เพื่อใช้ในกิจการปิโตรเลียม อย่างไรก็ตาม เริ่มเห็นสัญญาณการขยายกิจการ และการลงทุนใหม่ในบางธุรกิจ เช่น โรงแรม ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยางพารา อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

7.การเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐ : เพิ่มขึ้น เนื่องจากโครงการก่อสร้างด้านคมนาคมขนส่ง และชลประทานยังดำเนินการต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ชะลอลงมากเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่มีการเร่งเบิกจ่าย ด้านรายได้การจัดเก็บภาษีอากรเพิ่มขึ้นจากการเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ ส่วนการจัดเก็บภาษีสุราลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้ยอดจำหน่ายสุราลดลง รวมทั้งการปรับโครงสร้างภาษีศุลกากรทำให้การจัดเก็บอากรขาเข้าลดลง

 
ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2558 เงินให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์หดตัวจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 4.4 ตามการหดตัวของสินเชื่ออุปโภคบริโภค เนื่องจากสถาบันการเงินบางแห่งมีการเปลี่ยนแปลงระบบการบันทึกบัญชี โดยโอนสินเชื่อไปบันทึกบัญชีที่สำนักงานใหญ่ ส่วนสินเชื่อภาคธุรกิจขยายตัวต่อเนื่องตามสินเชื่อเพื่อการผลิต และค้าปลีกค้าส่ง ขณะที่สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ยังคงหดตัวต่อเนื่อง

เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราการว่างงานอยู่ในระดับร้อยละ 1.15 เพิ่มจากร้อยละ 1.02 ในไตรมาสก่อน สอดคล้องต่อการจ้างงานที่ลดลง ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจากไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 1.46 เนื่องจากผลของฐานราคาน้ำมันในตลาดโลกที่สูงทยอยหมดลง ขณะเดียวกัน พลังงานลดลงต่อเนื่อง ราคาอาหารสดประเภทผักและผลไม้เพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศแห้งแล้ง



 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น