กลุ่มธุรกิจก๊าซฯ ปตท.ตั้งงบลงทุน 5 ปี 2.1 แสนล้านบาท เน้นลงทุนโครงข่ายท่อส่งก๊าซฯ ทั้งท่อก๊าซเส้นที่ 5-คลัง LNG เตรียมเจรจาขอร่วมทุนแหล่ งLNG ของปิโตรนาส จากเดิมที่ซื้อ LNG 1 ล้านตันเพียงอย่างเดียว รวมทั้งชะลอการนำเข้าจากเชลล์ และบีพี
นายนพดล ปิ่นสุภา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติตั้งงบลงทุนช่วง 5 ปี (ปี 2559-2563) อยู่ที่ 2.1 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในโครงการขยายโครงข่ายท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เช่น โครงการท่อส่งก๊าซฯเส้นที่ 5 และโครงการ LNG Receiving Terminal และคลังก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) แห่งแรก เฟส 2 จาก 5 ล้านตันเป็น 10 ล้านตัน เพื่อรองรับความต้องการใช้ก๊าซฯที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ตามแผน PDP 2015
นอกจากนี้ ปตท.ได้เจรจาจัดหา LNG เพิ่มเติมเสริมความมั่นคงพลังงานในระยะยาว ล่าสุดเจรจาปิโตรนาสของมาเลเซียขอเข้าลงทุนในแหล่ง LNG นอกเหนือจากการซื้อ LNG 1 ล้านตัน/ปีเพียงอย่างเดียว แต่ในระยะสั้นอาจต้องชะลอแผนนำเข้า LNG ตามสัญญาจากกลุ่มเชลล์ และบีพี จากเดิมที่ต้องนำเข้าในปีนี้ หลังพบความต้องการใช้ยังไม่มากตามที่เคยวางแผนไว้
นายนพดลกล่าวถึงโครงการท่อส่งก๊าซฯหลักเส้นที่ 5 ความยาว 430 กิโลเมตร ที่เริ่มจาก จ.ระยอง ไปยัง อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี และท่อเชื่อมระหว่างศูนย์ควบคุมก๊าซฯ ไปยัง จ.ราชบุรี อีก 120 กิโลเมตร ว่าอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นประชาชน และจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าจะใช้เวลา 1-2 ปี หลังจากนั้นจะเปิดประมูลหาผู้รับเหมาได้ ขณะที่คาดว่าทั้งโครงการจะแล้วเสร็จในปี 2564
ส่วนการลงทุนคลัง LNG แห่งที่ 2 ขนาด 7.5 ล้านตัน/ปี มูลค่าเงินลงทุนกว่า 3 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างการหารือกับภาครัฐถึงรายละเอียดและการจัดทำโครงการ เห็นว่าควรจะก่อสร้างในพื้นที่มาบตาพุด จ.ระยอง เช่นเดียวกับคลัง LNG แห่งแรก เพราะจะเป็นพื้นที่ที่สามารถบริหารจัดการก๊าซฯ ได้ดีที่สุด โดยโครงการจะต้องเร่งดำเนินการให้เร็ว เพราะการก่อสร้างจะใช้เวลา 6-7 ปี
ส่วนความต้องการใช้ก๊าซฯในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 4,750 ล้านลูกบาศก์ฟุต (ล้าน ลบ.ฟุต)/วัน ใกล้เคียงกับปีก่อนหลังมีการหยุดซ่อมบำรุงในแหล่งก๊าซฯ หลายแหล่ง รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตไม่มาก โดยปริมาณก๊าซฯ ในปีนี้จะมาจากอ่าวไทยราว 3,500 ล้าน ลบ.ฟุต/วัน, ก๊าซฯจากพม่า 3 แหล่ง ราว 850 ล้าน ลบ.ฟุต/วัน ลดลงหลังแหล่งก๊าซฯ เยตากุน มีปัญหาปริมาณน้ำเข้ามาในแหล่งผลิตมากทำให้ระดับการผลิตที่ลดลงเหลือราว 250 ล้าน ลบ.ฟุต/วัน จากปกติที่ 450 ล้าน ลบ.ฟุต/วัน ส่วนที่เหลือเป็นปริมาณก๊าซฯ จาก LNG ราว 380 ล้าน ลบ.ฟุต/วัน โดยการนำเข้า LNG ปีนี้อยู่ที่ระดับ 2.7 ล้านตัน ใกล้เคียงปีก่อน ซึ่งราคา LNG ตลาดจร (spot) ล่าสุดอยู่ที่ 6-7 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู ซึ่งนับว่ามีระดับต่ำ
