“สปช.รสนา” ฟ้องกลางที่ประชุม โวยตำรวจคุกคามตามบี้ให้เซ็นเป็นผู้ต้องหาที่ ปตท.ฟ้องหมิ่นประมาท ถึงบ้าน ทั้งๆ ที่นำข้อมูลปกติมาพูด บอกขนาดเป็น สปช.ยังโดนขนาดนี้ แล้วประชาชนจะขนาดไหน จี้ปฏิรูปการสอบสวนให้ออกจาก สตช. ปลอดพ้นอำนาจรัฐ และทุน ฝากถึงนายกฯ รู้ไว้ยักษ์ใหญ่ไล่ปิดปากกว่า 20 คดี
วันนี้ (12 พ.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ น.ส.รสนา โตสิตระกูล สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านพลังงาน กล่าวหารือในที่ประชุมว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม 2558 ตำรวจจาก สภ.อ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม ได้เอาหมายผู้ต้องหามาหาที่บ้านเพื่อให้เซ็นรับการเป็นผู้ต้องหาตามหมายเรียกของ สน.ชนะสงคราม สาเหตุของเรื่องหมายเรียกผู้ต้องหาของ สน.ชนะสงคราม มาจากบริษัท ปตท.แจ้งความว่าตนหมิ่นประมาทบริษัท ปตท. จากการพูดให้ข้อมูลในงานเสวนาเรื่องปฏิรูปพลังงาน ครั้งที่ 2 หัวข้อ “น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติของประชาชน ใครปล้นไป” เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2557 ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ในตอนท้ายรายการพิธีกรได้เชิญให้ตนแสดงความเห็นซึ่งตนเพิ่งกลับจากดูงานที่บริษัท ปิโตรนาส ที่มาเลเซีย เลยเล่าข้อมูลให้ที่ประชุมฟังในเรื่องที่ได้ฟังจากอดีตประธานปิโตรนาสว่า บริษัท ปิโตรนาส ของมาเลเซียเป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติที่มีรัฐเป็นเจ้าของ 100% ทำให้การส่งรายได้ให้รัฐเท่ากับ 40% ของงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเป็นข้อความที่ ปตท.หาว่าหมิ่นประมาทเขาทำให้ถูกเกลียดชัง
“เมื่อได้หมายเรียก ดิฉันได้ทำหนังสือแจ้งไปที่พนักงานสอบสวน ว่าข้อมูลที่ดิฉันพูดมาจากข้อมูลเงินนำส่งรายได้แผ่นดินของรัฐวิสาหกิจ ประจำปี 2551-2555 มาจากเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นเอกสารที่เผยแพร่และบุคคลทั่วไปก็สามารถดูได้ และขอให้พนักงานสอบสวนยกเลิกข้อกล่าวหาเสีย เพราะประเด็นที่ บมจ.ปตท.กล่าวหาดิฉันหมิ่นประมาทนั้น ดิฉันได้พูดให้ข้อมูลจากแหล่งที่มาที่แน่นอน และไม่เป็นกระทำความผิดต่อบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) แต่อย่างใด”
น.ส.รสนากล่าวต่อว่า แต่พนักงานสอบสวนท่านนั้นยังคงส่งหมายเรียกครั้งที่ 4 เพื่อให้ไปพบในวันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม ตนให้ทนายโทร.ไปหาพนักงานสอบสวนท่านนั้นและแจ้งว่าได้ส่งเรื่องร้องเรียนไปที่ บช.น.แล้ว และจะรอผลการพิจารณาของ บช.น. ก่อน โดยจะไม่ไปพบในวันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม เพราะวันนั้นตนมีนัดหมายไปพบผู้ว่าการ สตง.เพื่อส่งหลักฐานเพิ่มเติมคือคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินเรื่องการคืนท่อก๊าซไม่ครบถ้วน แต่ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นวันที่ 7 พฤษภาคม พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ก็ส่งตำรวจจาก สภ.อ.โพธิ์แก้ว บุกไปหาถึงที่บ้านเพื่อให้ตนหรือคนในบ้านเซ็นรับหมายเรียกผู้ต้องหา ทำให้คนที่บ้านตกใจกันมาก
“การกระทำเหล่านี้ ถือเป็นการคุกคามดิฉันโดยไม่เป็นธรรมหรือไม่ เพราะการที่เราให้ความเห็นโดยปกติ และเป็นข้อมูลจากทางการ ดิฉันถูกหมายเรียกที่จะให้รับทราบการเป็นผู้ต้องหาให้ได้ และการที่ส่งตำรวจมาถึงบ้าน ดิฉันคิดว่าเป็นสิ่งที่ข่มขู่ คุกคาม และในฐานะ สปช.ยังโดนขนาดนี้ และถ้าเป็นประชาชนจะถูกกระทำอย่างไร ดิฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะมีการปฏิรูปกระบวนการสอบสวนของตำรวจให้ออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปลอดพ้นจากการครอบงำของผู้มีอำนาจรัฐ และอำนาจทุน เพื่อให้กระบวนการสอบสวนของตำรวจเป็นต้นทางของระบบยุติธรรมอย่างแท้จริง” น.ส.รสนากล่าว
น.ส.รสนากล่าวต่อว่า ตนอยากฝากเรียนเรื่องนี้ไปถึงนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะในขณะนี้หน่วยงานรัฐอย่าง ปตท.ได้ฟ้องร้องประชาชนมากกว่า 20 ดคี ตนคิดว่าการกระทำเหล่านี้คือการปิดปากประชาชน