“พาณิชย์” ถกเกษตรกร โรงสี ผู้ส่งออก วางแผนเพาะปลูกข้าวปี 59/60 ตั้งเป้าผลิต 25.01 ล้านตัน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ และช่วยดึงราคาให้สูงขึ้น พร้อมจัดทำเว็บราคากลางข้าว ใช้เป็นฐานข้อมูลในการตรวจสอบราคา
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมคณะทำงานวางแผนการผลิตข้าวครบวงจรร่วมกับเกษตรกร โรงสี และผู้ส่งออกว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบกำหนดการเพาะปลูกข้าวฤดูกาลผลิตปี 2559/60 จำนวน 25.01 ล้านตันข้าวเปลือก ซึ่งเป็นตัวเลขที่คำนวณการใช้ในประเทศ การส่งออก และใช้ในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงสต๊อกข้าวของภาครัฐและเอกชนแล้ว โดยจากนี้จะนำเสนอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปจัดทำแผนการเพาะปลูก จัดพื้นที่เพาะปลูก ปริมาณข้าวที่จะเพาะปลูกแต่ละชนิด รวมทั้งการส่งเสริมให้ปลูกพืชทดแทน หลังจากที่เกษตรกรลดพื้นที่เพาะปลูกข้าว
“การกำหนดปริมาณผลผลิตข้าวปีนี้ที่ 25.01 ล้านตันข้าวเปลือกนั้น เป็นการกำหนดตามความต้องการของตลาด แล้วไปบอกภาคการผลิตอย่างกระทรวงเกษตรฯ ให้รับไปผลักดันต่อ ซึ่งต่อไปหากผลผลิตข้าวลดลง และมีเพียงพอต่อความต้องการ ก็จะส่งผลทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น และทำให้ชาวนามีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น”
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าราคาข้าวเปลือกเจ้าในขณะนี้จะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับ 7.5-8 พันบาทต่อตัน โดยคาดว่าราคาจะอยู่ในระดับนี้ต่อไปอีก 2-3 ปี เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัวลง
น.ส.ชุติมากล่าวว่า ที่ประชุมยังได้กำหนดที่จะจัดทำข้อมูลด้านราคาข้าวในหน้าเว็บไซต์กลางซึ่งจะรวบรวมราคาข้าวไทยและราคาข้าวตลาดโลกทั้งหมด โดยมอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศไปดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย.นี้ รวมทั้งได้หารือถึงโครงสร้างทางด้านราคาว่าขั้นตอนของการจำหน่ายข้าวในแต่ละช่วง ตั้งแต่ชาวนาไปโรงสีและโรงสีไปผู้ส่งออก มีค่าใช้จ่ายหักทอนอย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลที่จะกำหนดให้ราคาเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
ส่วนมาตรการช่วยเหลือชาวนาในปี 2559/60 ยังไม่ได้สรุป แต่ให้ทุกฝ่ายกลับมานำเสนอในการประชุมครั้งต่อไปวันที่ 21 ม.ค.นี้
นายสุเทพ คงมาก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า ขณะนี้ชาวนาไทยประสบปัญหาความลำบากมากเกี่ยวกับราคาข้าวที่ตกต่ำ แต่ยืนยันว่าสมาคมฯ จะไม่มีการรวมกลุ่มประท้วง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลหามาตรการในการช่วยเหลือด้านราคา เนื่องจากทางภาครัฐได้ดึงตัวแทนชาวนา, ผู้ส่งออกข้าว, โรงสีข้าว และหน่วยงานอื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วมกันแก้ปัญหาที่เป็นระบบเพื่อให้เกิดความยั่งยืนแล้ว
นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การลดพื้นที่เพาะปลูกข้าวในปี 2559/60 ควรลดพื้นที่ในการปลูกข้าวนาปรัง เพราะได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ทำให้ไม่มีน้ำในเขตชลประทาน โดยหากลดการเพาะปลูกนาปรังเหลือ 5 ล้านตันข้าวเปลือก รวมกับผลผลิตนาปี 20 ล้านตันข้าวเปลือก ก็จะสอดคล้องกับปริมาณความต้องการใช้ทั้งในและส่งออก และทำให้ราคาข้าวไม่ตกต่ำมากจนเกินไป รวมทั้งจะช่วยให้รัฐบาลสามารถระบายข้าวในสต๊อกออกมาได้คล่องตัวขึ้น โดยเชื่อว่าปีนี้รัฐจะระบายข้าวในสต๊อกได้ 5 ล้านตัน