xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” ดันธุรกิจไทยออกไปลงทุนต่างประเทศ ด้าน ส.อ.ท.ชี้ส่งออกหนัก ปีนี้คาดโตได้แค่ 2%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“อภิรดี” เรียกประชุมคณะทำงานส่งเสริมการส่งออกและการลงทุนนัดแรก สั่งทำแผนส่งออกรายสินค้าและรายตลาด หวังดันยอดปีนี้โตตามเป้า 5% พร้อมเร่งดันธุรกิจไทยออกไปลงทุนต่างประเทศ ชูเปิดธุรกิจ ขายแฟรนไชส์และออกไปตั้งสำนักงาน นำร่องกัมพูชาและเวียดนาม ส.อ.ท.ประเมินส่งออกปีนี้หนัก ปัจจัยลบเพียบ คาดอย่างเก่งทำได้ 2%

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 11 ม.ค.ได้ประชุมคณะทำงานส่งเสริมการส่งออกและการลงทุนในต่างประเทศร่วมกับภาคเอกชนเป็นครั้งแรก โดยในด้านการส่งออกจะเร่งจัดทำแผนผลักดันการส่งออก โดยจะมุ่งผลักดันการส่งออกทั้งสินค้าและบริการ ซึ่งจะมีแผนชัดเจนรายสินค้าและรายตลาด รวมทั้งแผนการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่ขัดขวางการส่งออก และแผนทั้งหมดจะดำเนินการได้ภายใน 3 เดือน เพื่อผลักดันให้การส่งออกของไทยในปีนี้โตได้ 5% ตามเป้าหมาย

ทั้งนี้ ในด้านตลาดส่งออกจะมุ่งตลาดอาเซียน จีน และอินเดีย โดยอาเซียนตั้งเป้าเติบโต 6% สินค้าเป้าหมาย ได้แก่ สินค้าแบรนด์ อุปโภคบริโภค บริการเป้าหมาย ได้แก่ สุขภาพและความงาม ภาพยนตร์ ก่อสร้าง โลจิสติกส์ การศึกษา และแฟรนไชส์ ตลาดจีน ตั้งเป้าโต 3.5% สินค้าเป้าหมาย ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม ผลไม้ ข้าวหอมมะลิ ของตกแต่งบ้าน สุขภาพและความงาม แฟชั่น บริการเป้าหมาย ได้แก่ ร้านอาหาร บันเทิง สุขภาพ และโลจิสติกส์ และตลาดอินเดียตั้งเป้า 9% สินค้าเป้าหมาย ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม สุขภาพและความงาม แฟชั่น ของตกแต่งบ้าน ในขณะที่ธุรกิจบริการเป้าหมาย ได้แก่ ธุรกิจสุขภาพ ร้านอาหาร และท่องเที่ยว

ส่วนในด้านการส่งเสริมให้เอกชนออกไปลงทุนในต่างประเทศ ขณะนี้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้มีการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แล้ว โดยบีโอไอรับผิดชอบในการส่งเสริมการลงทุนที่เป็นภาคการผลิต แต่กระทรวงพาณิชย์จะรับผิดชอบในส่วนที่ไม่ใช่ภาคการผลิต เช่น การไปเปิดธุรกิจ เปิดแฟรนไชส์ หรือการจัดตั้งสำนักงานขายในต่างประเทศ

“การผลักดันให้ธุรกิจไทยออกไปลงทุนต่างประเทศ ภายใน 1-2 เดือนนี้ คณะทำงานจะจัดหาข้อมูลเชิงลึกรายเมือง รายประเทศ กฎระเบียบ ข้อมูลธุรกิจที่มีการลงทุน และผู้ลงทุนในแต่ละตลาด ตลอดจนรูปแบบการลงทุนที่แต่ละตลาดต้องการ แล้วนำมาบอกให้กับเอกชนที่สนใจ ใครที่จะออกไปลงทุนก็จะนำมาฝึกเตรียมความพร้อมก่อน จากนั้นจะพาออกไป โดยเบื้องต้นได้ทาบทามคู่ค้าใน 2 ตลาดหลักแล้ว คือ กัมพูชาและเวียดนาม”

นางอภิรดีกล่าวว่า ที่ประชุมยังได้มีการประเมินภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจคู่ค้า โดยเห็นว่าเศรษฐกิจหลายประเทศเริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรป แต่บางประเทศเริ่มมีปัญหา เช่น จีน ที่กำลังเข้าสู่ช่วงชะลอตัว ซึ่งจากการประเมินในเบื้องต้น เห็นว่าจีนไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อไทยมากนัก โดยเชื่อว่าจีนจะสามารถปรับตัวและแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว แต่ก็จะมีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อรับมือหากมีความผันผวนเกิดขึ้น

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การส่งออกในปีนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ยังคงลดลงต่อเนื่อง และฉุดให้ราคาสินค้าเกษตรซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญลดลงตาม เศรษฐกิจตลาดสำคัญ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก เช่นเดียวกับจีนที่มีนโยบายส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ และยังมีการลดค่าเงินหยวน ทำให้กระทบต่อเศรษฐกิจโลกและไทย โดยประเมินว่า การส่งออกปีนี้ จะโตได้ตามเป้า 5% ยาก น่าจะทำได้แค่ 2% แต่ไม่ขยายตัวติดลบเหมือนปี 2558

“การส่งออกปีนี้จะขยายตัวได้ต่ำ และเป็นไปตามเป้าหมาย 5% ได้ยาก เพราะจะต้องส่งออกให้ได้เฉลี่ยเดือนละ 18,700 ล้านเหรียญสหรัฐตลอดทั้งปี โดยการส่งออกที่มองว่าเป็นไปได้มากที่สุด คือ ที่ 2% โดยต้องส่งออกให้ได้เดือนละ 18,275 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่หากลดไปเหลือส่งออกได้เดือนละ 17,915 ล้านเหรียญสหรัฐ การส่งออกก็จะไม่ขยายตัว หรือโต 0% แต่เชื่อว่าการส่งออกทั้งปีไม่น่าจะติดลบ เพราะปี 2558 ที่ผ่านมา คาดว่าจะติดลบสูงถึง 5.5% ซึ่งเป็นฐานที่ต่ำแล้ว” นายวัลลภกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น