“กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” ลุยปั้นนักรบเศรษฐกิจ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจภายในประเทศ พร้อมเดินหน้าปรับปรุงบริการช่วยลดต้นทุน เล็งจัดหนักธุรกิจจดทะเบียนทุนสูง แต่ไม่มีเงินเข้าจริง และเข้มตรวจสอบนอมินี
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในปี 2559 กรมฯ มีแผนที่จะสร้างนักรบเศรษฐกิจใหม่ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ปี 2558 สามารถสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ให้เกิดขึ้นได้เป็นจำนวนมาก แต่ปีนี้จะมุ่งสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการในระดับฐานราก การนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาช่วยสร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจ และการพัฒนาผู้ประกอบการรายเดิมให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น เพื่อช่วยสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจภายในประเทศตามนโยบายรัฐบาล
ทั้งนี้ กรมฯ จะเร่งผลักดันให้เกิดธุรกิจรายใหม่โดยจะเข้าไปช่วยเหลือในด้านการบริหารจัดการ การทำบัญชี การทำตลาด ส่วนรายที่ทำธุรกิจอยู่แล้วก็จะผลักดันให้มีความเข้มแข็ง เป็นมืออาชีพมากขึ้น และจะมุ่งเน้นในการพัฒนาให้เกิดผู้ประกอบธุรกิจบริการเพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นโอกาสใหม่นอกเหนือจากเรื่องการผลิตสินค้า และยังสอดรับกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่จะมุ่งไปสู่ภาคบริการมากขึ้น
“จะมุ่งให้ธุรกิจที่กำลังจะทำธุรกิจหรือทำธุรกิจอยู่แล้ว หันมาให้ความสำคัญกับการใช้นวัตกรรมในการประกอบธุรกิจเพิ่มมากขึ้นเพราะเป็นโอกาส ขณะนี้กำลังร่วมมือกับมหาวิทยาหอการค้าไทยในการดำเนินการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับ SMEs” น.ส.ผ่องพรรณกล่าว
สำหรับการสร้างโอกาสทางการตลาดและขยายช่องทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการ กรมฯ จะผลักดันให้ใช้ช่องทางอี-คอมเมิร์ซในการค้าขาย ซึ่งถือเป็นโอกาสใหม่ที่จะเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยง่าย และจะช่วยในการรวมกลุ่มและสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ โดยผลักดันให้เป็นสมาคมการค้า หรือกลุ่มธุรกิจรายพื้นที่ เช่น Biz Club เพื่อให้เกิดการช่วยเหลือเกื้อกูลกันในการทำธุรกิจ
น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า ในด้านการพัฒนาการให้บริการ กรมฯ จะยกระดับการให้บริการเพื่อช่วยลดขั้นตอน ระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจ ได้แก่ การให้บริการจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) จะเริ่มเปิดให้บริการในปีนี้และบริการเต็มรูปแบบในปี 2560 การให้บริการรับงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filling) จะผลักดันให้นิติบุคคลทั่วระเทศกว่า 6 แสนรายยื่นงบการเงินผ่านระบบนี้ทั้ง 100% ในปีนี้ และการให้บริการตรวจข้อมูลนิติบุคคลผ่าน BDB e-Service Application จะเพิ่มข้อมูลที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งชื่อ ที่อยู่ ทุนจดทะเบียน กรรมการ และงบการเงิน
นอกจากนี้จะเร่งพัฒนาปรับปรุงกฎหมายให้มีความทันสมัยและเอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ เช่น กฎหมายจดทะเบียนนิติบุคคลคนเดียว กฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์ เป็นต้น
ส่วนการตรวจสอบนิติบุคคล จะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบนิติบุคคลที่มีทุนจดทะเบียนสูง เพราะหากไม่มีเงินทุนเข้ามาจริงก็จะถือว่ามีความเสี่ยงในการทำธุรกิจ จะมีการระบุไว้ในงบการเงิน และหากไม่ส่งงบการเงินเพียง 1 ปี ก็จะทำการถอนร้างทันที และจะเพิ่มการตรวจสอบการถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี) ซึ่งจะเน้น 10 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม, ท่องเที่ยว, ซื้อ ขาย ให้เช่า อสังหาริมทรัพย์ (นายหน้า), ค้าอสังหาริมทรัพย์, ให้เช่ารถยนต์, สปา, ขายปลีกผลิตภัณฑ์งานฝีมือและของที่ระลึก, ขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต, ขายตรง และบริการที่สนับสนุนการศึกษา เพราะเป็นธุรกิจที่มีต่างชาติเข้ามาถือหุ้นมาก